‘ศิริกัญญา’ ชี้รัฐบาลดึง ‘เงินคงคลัง’ 8 หมื่นล้าน โปะรายจ่าย ‘บุคลากรภาครัฐ’ 3 รายการ สะท้อนรัฐบาลวางแผนงบประมาณที่ผิดพลาด
....................................
จากกรณีที่ปรากฏในเอกสารการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2567 ว่า กรมบัญชีกลางได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2567 เพิ่มเติม สำหรับรายการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมบัญชีกลางที่มีการเบิกจ่ายเงินเกินวงเงินที่ได้รับจัดสรร จำนวน 4 รายการ ได้แก่ 1.รายการเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ จำนวน 41,865.63 ล้านบาท 2.รายการค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐ จำนวน 24,535 ล้านบาท
3.รายการเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ จำนวน 17,110.50 ล้านบาท และ 4.รายการค่าใช้จ่ายชดใช้เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จำนวน 3,500 ล้านบาท เป็นเงินทั้งสิ้น 87,002.13 ล้านบาท โดย รมว.คลัง ได้เห็นชอบให้กรมบัญชีกลางเบิกจ่ายงบดังกล่าวจากเงินคงคลัง ตามนัย พ.ร.บ.เงินคงคลัง พ.ศ.2491 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 7 (1) นั้น (อ่านประกอบ : ดึง‘เงินคงคลัง’8 หมื่นล.โปะ 'บำนาญ-รักษาพยาบาล-ขึ้นเงินเดือน'ขรก.-ตั้งงบปี 69 ชดใช้)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ล่าสุด น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความบนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Sirikanya Tansakun - ศิริกัญญา ตันสกุล’ โดยระบุว่า การที่รัฐบาลต้องนำเงินคงคลังมาเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากร ทั้งเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ฯลฯ รวม 8 หมื่นล้าน สะท้อนถึงการวางแผนงบประมาณที่ผิดพลาด
นอกจากนี้ การนำเงินคงคลังมาใช้จ่ายดังกล่าว จะทำให้รัฐบาลต้องไปตั้งงบประมาณเพื่อใช้คืนเงินคงคลังในปีงบถัดๆไป โดยเฉพาะในงบปี 69 ซึ่งรัฐบาลมีภาระต้องตั้งงบประมาณใช้คืนหนี้สาธารณะมากขึ้นอยู่แล้ว แต่ยังต้องมาใช้คืนเงินคงคลังอีก ซึ่งจะทำให้เหลืองบไปทำอย่างอื่นไม่มากนัก
สำหรับข้อความที่ น.ส.ศิริกัญญา โพสต์ฯมีเนื้อหาว่า “เห็นข่าวรัฐบาลล้วงเงินคงคลังเพิ่มอีก 8 หมื่นล้าน แล้วก็ยิ่งเหนื่อยใจกับการบริหารการคลังของรัฐบาลนี้
เพราะรวมๆ แล้วตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารมีการใช้เงินคงคลังไปราว 1.2 แสนล้าน
-ก้อนแรก นำไปชำระดอกเบี้ยราว 4 หมื่นล้าน เพราะตั้งงบไว้ไม่เพียงพอ
-ก้อนที่สอง เป็นค่าใช้จ่ายบุคลากร ทั้งเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ฯลฯ รวม 8 หมื่นล้าน
ซึ่งทั้ง 2 ก้อนนี้ไม่ใช่เรื่องสุดวิสัย สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าอยู่แล้ว แต่ก็ยังตั้งงบขาดราวกับจงใจ (ดิฉันเคยอภิปรายเตือนไว้ในงบปี 67 ว่าอย่าพลาดเหมือนประยุทธ์ แต่ก็ยังไม่แก้ไข งบปี 68 ก็ยังเป็นเหมือนเดิม)
ปกติถ้ามีการตั้งงบไว้ไม่เพียงพอ อาจใช้งบกลาง เงินสำรองจ่ายฉุกเฉินมาใช้ได้ แต่งบกลางถูกใช้จนหมด เอามาโปะได้แค่ 2 พันกว่าล้าน (อย่าอ้างเรื่องน้ำท่วม เพราะอนุมัติไปแค่ 2 พันกว่าล้าน แต่ดิจิทัลวอลเล็ตใช้ไป 23,500 ล้าน)
สุดท้าย... ต้องไปใช้เงินคงคลังรวม 1.2 แสนล้านในจำนวนเงินที่สูงกว่าตอนรัฐบาลประยุทธ์เสียอีก ในปีที่งบน้อยเพราะโควิดอย่างปี 66 ยังควักเงินคงคลังเพียง 8 หมื่นล้านบาท
การใช้เงินคงคลังสะท้อนการวางแผนงบประมาณที่ผิดพลาด จัดความสำคัญของเงินไม่ดี มีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้คาดการณ์สูงจนงบกลางไม่พอจ่าย
และที่สำคัญมันไม่ฟรี! รัฐบาลต้องไปตั้งงบใช้คืนเงินคงคลังในปีงบถัดๆ ไป อยู่ดี งบปี 69 ต้องถูกบีบจากงบใช้คืนหนี้สาธารณะมากขึ้นอยู่แล้ว ไหนจะต้องคืนหนี้ ธกส.ที่ปีนี้เบี้ยวเค้าปีนี้ แล้วยังจะต้องมาใช้คืนเงินคงคลังอีก 1.2 แสนล้าน แล้วจะเหลืองบไปทำอย่างอื่นซักเท่าไหร่กันในงบปี 69”
อ่านประกอบ :
ดึง‘เงินคงคลัง’8 หมื่นล.โปะ 'บำนาญ-รักษาพยาบาล-ขึ้นเงินเดือน'ขรก.-ตั้งงบปี 69 ชดใช้