‘พล.ต.ท.คำรบ’ อดีตผู้สมัคร สว. แจ้งความเอาผิด กกต. ฐานจัดการเลือกตั้ง สว.ไม่สุจริตเที่ยงธรรม ผิดม.32 พ.ร.ป.สว. และม.157 ป.อาญา ก่อนเผยเตรียมไปศาลฎีกาขอให้มีการคุ้มครองฉุกเฉิน และมีคำสั่งเปิดหีบบัตร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในกลุ่มกฎหมาย จ.นนทบุรี พร้อมคณะอดีตผู้สมัคร สว. เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) เพื่อแจ้งความเอาผิดนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ คณะกรรมการ กกต.รวม 7 คน ตาม มาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 และ มาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา กรณีที่ไม่จัดลงคะแนนเลือก สว.ให้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม และมีการประกาศรับรองผลผู้ผ่านการลงคะแนนลำดับที่ 1-10 ของทุกกลุ่มจำนวน 200 คนไปเมื่อวานนี้ (10 ก.ค. 67) และให้เดินทางไปรายงานตัวต่อรัฐสภา
พล.ต.ท.คำรบ ระบุว่า มองเห็นถึงความไม่สุจริตและไม่เป็นธรรมในการเลือก สว. ที่ผ่านมา จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ กกต.ทั้ง 7ท่าน พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตจากการที่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.แถลงข่าวการรับรองผลไปเมื่อวาน โดยมองว่า นายแสวงอาจจะเตรียมพร้อมไม่ดี เพราะมีการพูดวกไปวนมา ซึ่งการแถลงชี้แจงประเด็นเรื่องร้องเรียนกรณีคุณสมบัตินั้น การชี้แจงของ กกต. เป็นลักษณะเหมือนการโยนไปให้ระดับอำเภอในเรื่องการกลั่นกรอง ซึ่งมองว่า หาก กกต.จะไปขอความร่วมมือใครในอนาคตก็คงลำบาก ถ้าปัดความรับผิดชอบแบบนี้
“ส่วนกรณีเรื่องร้องเรียนเกี่ยกวับการลงคะแนนโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ทั้งหมด 47 เรื่อง ซึ่งกกต. ระบุว่าได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว แต่ข้อมูล ณ วันนี้ยังไม่พอเพียงที่จะบอกว่า กกต.กระทำความผิด และจะต้องอาศัยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และรอหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องมาร่วมสอบสวนคลี่คลายนั้น นั่นหมายความว่า ท่านไม่ได้รับรู้เรื่องการพิสูจน์ในเบื้องต้นทั้ง 47 เรื่องใช่หรือไม่ และก็มาสรุปการแถลงช่วงท้ายว่า กระบวนการที่ผ่านมาของการเลือกสว.เป็นการลงคะแนนโดยสุจริตและเที่ยงธรรม แล้วประกาศรับรอง ซึ่งมองว่า ขัดแย้งกับการตรวจสอบที่ให้ยังคาอยู่อีก 47เรื่องที่รอผลการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านกลับอ้างข้อกฎหมายให้ประกาศไปก่อนแล้วค่อยสอบทีหลัง จึงเข้าข่ายการกระทำผิดตาม ม.157” อดีตผู้สมัคร สว.
ส่วนสาเหตุที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษในวันนี้ ก็เพราะเห็นความไม่ชอบมาพากลในการเลือกสว. ที่มองว่า เบอร์ที่ได้เป็นการล็อกโหวต และในการขานคะแนนของแต่ละกลุ่มก็เป็นการเลือกเหมือนกันตามโพย ที่ผ่านมาเคยไปยื่นคำร้องที่ กกต. พร้อมทวงถามความคืบหน้าแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง ก็ยังไม่ได้ถูกรับฟัง แต่กลับมาประกาศรับรองผล จึงมองว่า ถึงเวลาที่จะต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะถือว่ามีความผิดตาม ม.32 ที่ไม่ทำให้กระบวนการคัดเลือกสว.เป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม
พล.ต.ท.คำรบ ยังกล่าวอีกว่า ระหว่างที่มีการประกาศพบว่ามีการส่งสำเนาเอกสารทางไลน์ ซึ่งทำให้ตนเองไปสังเกตเห็นว่าบางอันไม่มีลายเซ็นต์ จึงได้ตรวจสอบในฐานะพิสูจน์หลักฐานเก่า และได้พิสูจน์ลายเซ็นต์ ของประธาน กกต. จึงขอฝากเรื่องนี้ไปด้วยว่า ประธาน กกต. เซ็นต์จริงหรือไม่ หรือมีการแอบอ้างลายเซ็นต์ หากเป็นการแอบอ้างก็ขอให้ดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้ โดยในช่วงบ่ายวันนี้ จะเดินทางไปที่ศาลฎีกา เพื่อต้องการการคุ้มครอง ว่า กกต.ไม่ได้ดำเนินการตามหน้าที่ในการจัดการลงคะแนนให้เป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม และขอให้มีการคุ้มครองฉุกเฉิน และมีคำสั่งเปิดหีบ เพราะคือหัวใจสำคัญในการพิสูจน์เรื่องราวทั้งหมด