'เพิ่มพูน 'ถกผู้บริหาร ศธ. เล็งปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่ฉบับปี 67 เร่งแก้ปัญหาอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ พร้อมมอบ สกสค.ทำประกันชีวิตให้ครูฟรีเริ่มลงทะเบียน 27 มิ.ย.นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหาร ศธ. ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานแผนในการเพิ่มคุณภาพการศึกษาในระยะยาว เพื่อเพิ่มคุณภาพการศึกษาและยกระดับโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ หรือPISA ซึ่งที่ประชุมได้มีการพูดคุยในมิติต่าง ๆ โดยในส่วนของPISA จะมีการปรับตัวชี้วัดเพิ่มเติมในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ สิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ประชุมได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยกระดับคุณภาพผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีนายศิริเดช สุชีวะ ประธานอนุกรรมการด้านคุณภาพและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ ในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เป็น ประธานคณะกรรมการฯ เพื่อดูแลเรื่องการปรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
“ตามจริงแล้วหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 มีการปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปรับครั้งล่าสุด เมื่อปี 2560 และจะมีการปรับอีกครั้งในปีนี้ และจะพิจารณาว่า จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนชื่อให้มีความทันสมัยหรือไม่ เพราะหากไม่เปลี่ยน คนก็อาจคิดว่า เป็นหลักสูตรโบราณ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เพียงแต่ไม่ได้มีการเปลี่ยนชื่อ แต่ทั้งหมดจะต้องไม่เพิ่มภาระให้กับผู้เรียน” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ที่ประชุมยังหารือ แนวทางแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ไปสำรวจตัวเลขผู้ที่พ้นจากการศึกษาภาคบังคับ ที่ยังอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ว่ามีอยู่จำนวนเท่าไร เพื่อมาเติมเต็มให้มีความสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะงบลงทุน ให้มีการเบิกจ่ายไปตามแผนการดําเนินงานงบลงทุน ค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งก่อสร้าง
ขณะเดียวกันยังแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ ว่า ศธ. ร่วมมือกับ scb protect จัดทำประกันอุบัติเหตุให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจะให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน- 27 กรกฎาคม มีผลคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม ระยะเวลาคุ้มครอง 90 วัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ ซึ่งผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถลงทะเบียนได้ที่ สกสค. ประจำจังหวัดต่างๆ
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังรายงานมติ คณะรัฐมนตรี(ครม.) ซึ่งเห็นชอบปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน เพื่อใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย (นักเรียนทุน จ.ภ.) ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ซึ่งผู้รับทุนจะเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานชดใช้ทุนหรือหน่วยงานของรัฐที่ผู้ให้ทุนกำหนด และรับเงินเดือนตามที่หน่วยงานนั้น ๆ กำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 เท่าของเวลาที่ได้รับทุนตามสัญญา
โดยหน่วยงานชดใช้ทุนให้หมายความรวมถึง ภาคอุตสาหกรรม สถาบันไทยโคเซ็น และหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เงื่อนไขการชดใช้ทุนฯ ทั้ง 2 ระยะ มีแนวทางเหมือนกันและขยายสถานที่การปฏิบัติงานรองรับนักเรียนทุนฯ เพิ่มขึ้น รวมทั้งเกิดประโยชน์ประเทศที่มีความต้องการกำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในภาคอุตสาหกรรม ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดนักลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษต่อไป