ป.ป.ช.สนธิกำลัง บก.ปทส. ป.ป.ท. ภาค 5 เข้าตรวจสอบ "หาดก๋ำเบ้อ" ตามที่ประชาชนร้องเรียน พบร้านรุกที่หลวงกว่า 30 แห่ง เล็งขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวร่วมกับเอกชน ปรับแต่งพื้นที่และใช้ประโยชน์ในบริเวณดังกล่าวหรือไม่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 26 เม.ย. 2567 นายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 5 และนายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายนายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และนายนิรันดร ศรีภักดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. เขต 5 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ สนธิกำลังร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่หาดก๋ำเบ้อ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 2 (บ้านป่าข่อยใต้) ตำบลสันผีเสื้ออำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
กรณีมีที่มาจากสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนร่วมกันปรับแต่งพื้นที่และเข้าใช้ประโยชน์ในบริเวณดังกล่าว และได้มีการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างเป็นสถานที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่นักท่องเที่ยว จึงได้มีการประสานสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพื่อร่วมดำเนินการสืบสวนสอบสวน
จากการสืบสวนและลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงใหม่ ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 แต่มีกลุ่มบุคคลเข้าดำเนินการปรับแต่งพื้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำปิง และก่อสร้างสิ่งก่อสร้างเป็นร้านค้า เพื่อประกอบกิจการร้านอาหารขายอาหาร และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวนประมาณ 30 ร้านค้า ซึ่งผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่ จำนวน 70,000 - 100,000 บาทต่อราย สำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการจะต้องจ่ายค่าจอดรถและค่าบริการใช้ห้องน้ำ โดยจะมีกลุ่มบุคคลจัดหาเครื่องดื่ม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งดูแลพื้นที่ ในบริเวณดังกล่าว และน่าเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องในการดำเนินการ โดยได้รับผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
จากการร่วมกันดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อพนักงานสอบสวน ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาร้องเรียนเจ้าหน้าที่ของรัฐ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่จะได้ดำเนินการตรวจสอบ และนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาไต่สวนต่อไป นอกจากนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องดำเนินการเพื่อให้มีการรื้อถอนและปรับสภาพพื้นที่ให้คงสภาพตามเดิม
โดยที่เรื่องลักษณะนี้ เป็นนโยบายของสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทำการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ลำน้ำ หรือที่สาธารณประโยชน์แล้วมีการนำไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่จะได้ดำเนินการตรวจสอบขยายผล และบังคับใช้กฎหมายโดยเด็ดขาดต่อไป