‘สมศักดิ์’ ประเมิน ‘เศรษฐา’ บินนอกถี่ ได้ประโยชน์ เมิน สว. แซะนายกฯอยู่ไม่ถึง 25 มีนาคม ส่วนการพบเจอ ‘ทักษิณ’ ไม่มีอะไรพิเศา ยืนยันนายกฯ ยังมีอำนาจเต็ม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 12 มีนาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ติดปฏิบัติภารกิจในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ และกิจกรรมคู่ขนาน ณ กรุงปารีส และเมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส และเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีอย่างเป็นทางการ และกิจกรรมคู่ขนาน ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 7- 13 มี.ค. 2567
มีรายงานว่า ในที่ประชุมครม.มีรัฐมนตรีแจ้งลาการประชุม 6 คน ได้แก่ 1.นายเศรษฐา 2.นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ 3.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม 4.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน 5. นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ และ 6.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
@ยัน ‘เศรษฐา’ บินนอกถี่ ได้ประโยชน์
นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในการเดินทางไปต่างประเทศของนายเศรษฐาที่มองว่าไม่คุ้มกับงบประมาณในการใช้จ่าย ขณะที่ผลงานในประเทศของรัฐบาลยังไม่ปรากฎนั้น เชื่อว่าทุกคนก็ทราบดีว่างบประมาณปี 2567 มีความล่าช้า ซึ่งกว่าจะใช้ได้ก็ประมาณกลางเดือน เม.ย. 2567 แล้ว ที่ไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้งบประมาณจำนวนมากนั้นถือเป็นการขัดแย้งกับข้อเท็จจริง
“การที่นายกฯเดินทางไปต่างประเทศประมาณ 16 ประเทศ และเดินทางไปลงพื้นที่จังหวัดต่างๆในประเทศไทยถือเป็นมิติใหม่ของนายกฯ ในการเปิดประเด็นให้เห็นถึงแนวคิดในเรื่องการปรับเปลี่ยนของงานด้านต่างๆให้เกิดช่องทางการรับรู้ การสร้างงาน และทำให้เกิดการลงทุนเข้ามาภายในประเทศของเรา ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เหมือนกรณีของรัฐมนตรีอื่นๆก็เช่นกัน หากนั่งทำงานในกระทรวงเพียงอย่างเดียวและไม่มีความคิดอะไรใหม่ๆเข้ามาเลยประเทศจะอยู่กับที่ การใช้งบประมาณจะเป็นรูปแบบเดิม ซึ่งไม่สามารถขยายความเจริญไม่ว่าเรื่องของการลงทุนหรือรายได้ที่จะเข้ามาสู่ประเทศ” นายสมศักดิ์ระบุ
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ถ้านายกรัฐมนตรีไม่เปิดแนวทางหรือประเด็นใหม่ๆให้มากๆ ประเทศไทยจะไปหารายได้เข้าประเทศจำนวนมากได้อย่างไร อีกทั้งจะมีการพัฒนาประเทศได้อย่างไร และถ้านายกฯทำงานต่อไปให้ครบ 4 ปี ก็จะมีข้อมูลจำนวนมากจากการเดินทางไปต่างประเทศและนำมาพัฒนา ซึ่งจะเป็นผลบวกอย่างมาก ถ้ามัวจะไปคิดว่าในประเทศยังไม่มีเงินใช้จ่ายแต่กลับต้องไปเสียค่าเครื่องบิน ค่าที่พักในการเดินทางไปต่างประเทศ มันเป็นเรื่องที่เล็กมาสำหรับค่าใช้จ่ายตรงนี้หากเปรียบเทียบกับโอกาสและผลประโยชน์ที่จะได้มา สิ่งเหล่านี้ไม่น่าจะไปพูดหรือเสียดสี
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีคนไปพูดเสียดสีกรณีที่นายเศรษฐานำผ้าขาวม้าไปใช้เพื่อให้ชาวต่างประเทศได้เห็น ส่วนตัวมองว่าการที่นายกฯเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วมีประชาชนนำผ้าขาวม้ามามอบให้ รวมทั้งของฝากอื่นๆ การที่นายกฯนำผ้าขาวม้าติดตัวไปต่างประเทศด้วยแสดงให้เห็นว่านายกฯมีความคิดถึงพี่น้องประชาชน คิดถึงคนต่างจังหวัด แม้ตัวจะเดินทางไปอยู่ต่างประเทศ ไปทำงาน แต่ใจก็ยังนึกถึงชาวบ้าน ตนคิดว่าเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งที่นายกฯมีแนวคิดและไอเดียในการพูดคุยกับพี่น้องประชาชนว่าแม้ตัวจะไปต่างประเทศแต่ยังไม่ลืมคนไทย สร้างความรู้สึกของความใกล้ชิดตลอดเวลาเพราะมีผ้าขาวม้าติดตัวไป
@โต้ สว. แค่วาทกรรม นายกฯอยู่ไม่ถึง 25 มี.ค. 67
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มองการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังว่า ขอให้อยู่ถึงวันที่ 25 มี.ค. เพื่อให้ทันการซักฟอก ถือว่ามีนัยทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายสมศักดิ์ระบุว่า ถ้าพูดตรงนี้ส่วนตัวถือว่านายกฯผ่านและชนะแล้ว แค่วันที่ 25 มี.ค. 67 เป็นเรื่องของวาทกรรมที่พูดเพื่อให้น่าสนใจก็ว่ากันไปอย่าไปถือสา เพราะการที่จะมีการอภิรายแบบไม่ลงมติของ สว. หรือพูดอะไรก็จะต้องมีการนำเสนอให้น่าสนใจ เป็นไปไม่ได้อย่างที่กล่าวกันมาเพราะวันที่ 25 มี.ค.ก็จะถึงอยู่แล้ว อีกทั้งนายเสรีไม่ได้เป็นหมอดูด้วย
@เศรษฐา อำนาจเต็ม เจอ ‘ทักษิณ’ ได้ ไม่มีอะไร
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเศรษฐาปรากฎตัวพร้อมกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในต่างประเทศ และอีกไม่กี่วันนายเศรษฐา จะไปปรากฎตัวพร้อม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะสร้างความสับสนหรือไม่ว่าวันนี้ใครเป็นผู้นำกันแน่ นายสมศักดิ์ตอบว่า เรื่องนี้อย่าไปสับสนว่าใครจะเป็นผู้นำ ตนพูดหลายครั้งแล้วนายเศรษฐามีเครื่องมือในการบริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกฯและรัฐมนตรี เนื่องจากมีกฎหมายรองรับ ส่วนการที่จะไปพบกันกับใครที่ไหนอย่างไรไม่ใช่ประเด็น
“การที่นายเศรษฐา จะพบกับอดีตนายกฯจะพบเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเชียงใหม่ เนื่องจากไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร ไม่มีระเบียบหรือข้อห้ามที่สั่งไม่ให้พบ แต่อาจจะปะเหมาะเคราะห์ดีไปเจอกันที่เชียงใหม่ เชียงราย หรือพะเยา เนื่องจากสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดพะเยา ซึ่งถือเป็นโซนจังหวัดภาคเหนือ และมีกิจกรรมต่างๆจำนวนมาก ซึ่งอาจจะพบกันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร แต่เท่าที่ตนดูไม่มีโปรแกรมในการพบกัน” นายสมศักดิ์กล่าว