‘เศรษฐา’ ให้สัมภาษณ์ปมหมูเถื่อน ไม่คาดโทษ ‘ดีเอสไอ-ปปง.’ เข้าใจงานเยอะ ก่อนชี้แจงกรณีถูกแพร่ภาพเกรี้ยวกราดที่สนามบิน ยอมรับเป็นจริง เพราะทำหน้าที่ ย้ำยอมไม่ได้ คนทำผิดต้องถูกลงโทษ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมถภาษณ์ที่นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ถึงการแก้ปัญหาหมูเถื่อนที่มีความล่าช้าว่า การคาดโทษหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ขออย่าไปเรียกว่าการคาดโทษ เพราะต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่มีงานเยอะ แต่ต้องอย่าลืมว่ามีการจับกุมหมูเถื่อนมานานแล้วขบวนการทำลายหมูเถื่อนมีมานานแล้ว
โดยพบว่าผู้กระทำผิดมีประมาณ 10-11 ราย เริ่มมีการตรวจสอบไปแล้ว เพราะขนาดของความผิดมันใหญ่ จึงต้องส่งไปดีเอสไอ โดยอธิบดีดีเอสไอได้สั่งการไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่มีความล่าช้า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อยได้รับผลกระทบจากช่วงที่มีหมูเถื่อนเข้ามาจำนวนมาก จนเกือบล้มเลิกกิจการ ซึ่งตนมีหน้าที่ไปติดตาม เพราะหากสาวไปไม่ถึงรายใหญ่ เหตุการณ์จะเกิดขึ้นอีก และเมื่อสังคมลืมก็จะเกิดขึ้นอีก ดังนั้นเรื่องนี้ต้องกำจัดให้สิ้นซากเพราะเป็นภัยของสังคมจริงๆ
@เกรี้ยวกราดจริง เพราะเป็นหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีกังวลหรือไม่ เมื่อมีภาพการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในลักษณะเกรี้ยวกราด นายเศรษฐา กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า ยอมรับว่า สั่งการเรื่องหมูเถื่อนให้รวดเร็วจริง ซึ่งได้เห็นภาพข่าวในการประชุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ตัวเองก็มีหน้าที่ หากประเทศชาติมีปัญหาและไม่ถูกบริหารจัดการ ขอให้ดูที่ผลงานเป็นหลัก ตนเองอยากจะจัดการกับผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้รวดเร็วที่สุด เพราะคนที่เดือดร้อนไม่ได้มีพื้นที่หน้าสื่อฯ ที่จะมาพูดเรื่องดังกล่าวได้ และขอให้ลงไปดูว่าผู้ประกอบการหมูรายย่อยได้รับความเสียหายในเรื่องนี้แค่ไหน เรื่องนี้เรายอมไม่ได้ คนทำผิดจะต้องถูกจับมาลงโทษ และกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นั่นคือความตั้งใจ