‘โฆษกรัฐบาล’ เปิดข้อสั่งการนายกฯ ชี้ไม่ปลื้มท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ล่าช้า ไม่สามารถส่งมอบให้เอกชนได้ ตำหนิกลาง ครม. อย่าชี้แจงแทนเอกชน พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการเร่งรัดการลงทุน EEC ‘สุริยะ’ เป็นประธาน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีข้อสั่งการในที่ประชุมเกี่ยวกับการลงพื้นที่ จ.ชลบุรีและระยอง เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรี สั่งการให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กำกับแผนงานโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 ช่วงท่าเทียบเรือ F วงเงิน 84,361 ล้านบาท ซึ่งมีปัญหาในการก่อสร้างงานด้านโครงสร้างพื้นฐานล่าช้า จนไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนที่รับสัมปทานโครงการ คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC มี บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) บจ. พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล (PTT TANK) บจ. ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง เป็นพันธมิตร โดยกำชับให้เร่งดำเนินการ
“นายกฯปรารภในที่ประชุมว่า เมื่อถามผู้บริหาร (กทท.) ผู้บริหารก็มักจะอธิบายอย่างนู้นอย่างนี้ ท่านนายกฯ กล่าวว่าไม่ต้องการคำอธิบายแบบนี้คือ เมื่อผู้รับเหมาทำงานช้า แต่ผู้บริหารชี้แจงในทำนองอธิบายแทน ทีหลังไม่ต้องอธิบายแทน เพราะท่าเรือเป็นฝ่ายนายจ้างที่ต้องดูแลผลประโยชน์ให้ประชาชน ใครที่รับจ้างรับเหมาไปแล้ว ล่าช้าต้องไล่บี้ ไม่ใช่มาอธิบายแทน และท่านนายกฯ ยังได้ให้รัฐมนตรีทุกคนที่ประชุมรับทราบด้วยว่า ให้ดูเรื่องนี้เป็นตัวอย่าง ในการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ เรื่องใด โครงการไหนล่าช้า แทนที่จะอธิบายว่าทำไมล่าช้า ไปไล่บี้ให้รับเหมาทำงานให้มีประสิทธิภาพดีกว่า” นายสัตวแพทย์ชัยกล่าว
โฆษกรัฐบาลกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ นายเศรษฐายังดำริให้ตั้งคณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน และมีนายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เป็นเลขานุการ
แหล่งข่าวจากอีอีซี กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า ยังไม่ได้เห็นคำสั่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าว คาดว่ายังอยู่ระหว่างรอนายกรัฐมนตรีลงนามในคำสั่งอย่างเป็นทางการต่อไป