‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ประธานที่ปรึกษาปราศรัยยัน ‘ชัยธวัช’ คือหัวหน้าพรรคตัวจริง ไม่ใช่คนขัตตาทัพ ชี้สะสมชัยชนะไปเรื่อยๆด้วย 3 ข. แข่งทุกเวทีเลือกตั้ง - องคาพยพของพรรคขยับหมด - ขยายฐานสมาชิกพรรค
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 24 กันยายน 2566 ในงานก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน จัดโดยพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้ปราศรัยปิดท้ายงานพบปะสมาชิกของพรรคก้าวไกล “ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” เผยถึงย่างก้าวการทำงานต่อไปในอนาคตของพรรคก้าวไกลในฐานะ “ฝ่ายค้านเชิงรุก”
นายพิธาเริ่มต้นว่า ตลอด 3 ปี กับ 185 วันของพรรคก้าวไกล นี่คือการเดินทางที่จะไม่มีวันลืม และมีความภูมิใจกับสิ่งที่ได้ร่วมกันทำมากับทุกคน คือการได้จุดไฟกลางสายลม เมื่อไฟจุดติดกลางสายลมแล้วตนต้องขอให้ทุกคนช่วยกันอย่าให้ไฟดับโดยเด็ดขาด
@ชัยธวัช ไม่ใช่หัวหน้าพรรค ขัตตาทัพ
ทั้งนี้ สำหรับนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคคนใหม่ ขอยืนยันว่า นายชัยธวัชไม่ใช่ผู้นำขัดตาทัพอย่างที่นักวิเคราะห์หลายคนพูด เพราะพรรคก้าวไกลไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล แต่พรรคเราคือผู้คนและการเดินทาง ต่อให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่อยู่แต่แก่นและหัวใจสำคัญยังอยู่ ก็คืออำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชน เราคือสายธารแห่งความหวัง ความเป็นไปได้ และศรัทธา เพราะฉะนั้น นายชัยธวัชคือผู้นำตัวจริงเสียงจริงของฝ่ายประชาธิปไตยแน่นอน
นายพิธายังกล่าวต่อไปว่า พรรคก้าวไกลคือผู้คนที่ร้อยรัดกันด้วยอุดมการณ์และความฝัน เหมือนกับน้ำ พวกเราเป็นสายน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ แม้จะมีอุปสรรคก็ยังไหลไปได้ สายน้ำอยู่ใกล้กับดิน ก็เหมือนกับเราที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน ไหลจากบนลงล่างเสมอ เหมือนกับคติที่เราจะอ่อนน้อมถ่อมตนกับประชาชน แต่เมื่อไรที่ถูกกดดันมาก สายน้ำนั้นก็พร้อมพังทลายทุกปราการ เหมือนในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ขอให้พวกเราทุกคนจงเป็นดั่งสายน้ำ ไม่ว่าจะอยู่ในภาชนะแบบไหน ขอให้พวกเรายังคงมีความฝันและเป้าหมายเดียวกัน
@3ข. กลยุทธ์ขยับพรรค
ในการทำงานทางการเมืองของพรรคก้าวไกลต่อจากนี้ แม้จะต้องเป็นฝ่ายค้านก็จะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่แตกต่างจากการเป็นฝ่ายค้านทั่วไป พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านที่ไม่ได้จ้องแต่จะล้มรัฐบาลอย่างเดียว แต่จะเป็นฝ่ายค้านที่อยู่ข้างประชาชน ที่จะสะสมชัยชนะและประสบการณ์ไปเรื่อยๆ จนได้เป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดของคนไทย ทิศทางของเราต่อจากนี้คือ “3 ข.” ประกอบด้วย
1) แข่ง พรรคก้าวไกลพร้อมแข่งทุกสนามเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 ปีต่อจากนี้ จะมี 4 สนามใหญ่ นั่นคือ อบจ. ในปี 2567, เทศบาล ในปี 2568, ผู้ว่า กทม.ในปี 2569 และ เลือกตั้งใหญ่ในปี 2570 ทุกสนามท่านจะได้เจอกับพรรคก้าวไกลทั่วประเทศแน่นอน
2) ขยับ ด้วยองคาพยพของพรรคก้าวไกล ที่มีทั้ง สส. เขตและบัญชีรายชื่อ ส่วนงานท้องถิ่น ส้มจี๊ด ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต ทั้งหมดเราจะขยับไปพร้อมๆ กัน เป็นองคาพยพเดียวกัน เพื่อผลักดันการแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชนและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในวาระต่างๆ
3) ขยาย พรรคก้าวไกลมีความตั้งใจที่จะขยายฐานสมาชิกให้เพิ่มขึ้นเดือนละ 1 หมื่นคน เพื่อให้วันหนึ่งเราได้เป็นพรรคการเมืองที่มีสมาชิกมากที่สุดในการเมืองไทย
“อีกไม่นานความฝันที่พวกเรามีร่วมกัน จะกลายเป็นความจริงที่พวกเราภูมิใจร่วมกัน สิ่งที่เราทำร่วมกันมา ทั้งชัยชนะในกติกาที่เขาเขียน ในช่วงเวลาที่ไม่มีใครคิดว่าเราจะชนะได้ ในการเลือกตั้งที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิมากที่สุด ขอให้ทุกคนเปลี่ยนความผิดหวังเป็นพลังงาน ผลักมันต่อไปจนกว่าจะถึงเส้นชัยของพวกเราร่วมกัน” นายพิธากล่าว