‘ธีรัจชัย’ จี้ ‘เศรษฐา’ ตรวจสอบคุณสมบัติ ‘พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ’ รมว.ศึกษาฯคนใหม่ หลัง ป.ป.ช.มีมติชี้มูลผิดวินัยไม่ร้ายแรงจากกรณี ‘บอส อยู่วิทยา’ ติง ป.ป.ช. ชี้มูลไม่ครบหลายประเด็น เตรียมตรวจสอบต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 15 กันยายน 2566 จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด พล.ต.ต.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะอดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) พร้อมทั้งส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการทางวินัย กรณีการดำเนินคดีของ วรยุทธ อยู่วิทยา หรือ “บอส กระทิงแดง” ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ซึ่งเต็มไปด้วยข้อสงสัย ว่ามีการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหา เปลี่ยนแปลงความเร็วรถให้ต่ำกว่าความเป็นจริง การทำสำนวนเพื่อให้สั่งไม่ฟ้อง การสั่งย้ายนายตำรวจที่ต้องการออกหมายแดง การสั่งย้ายนายตำรวจที่จะทำความเห็นแย้งกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้อง และความไม่ปกติอื่นๆ ที่เกิดขึ้น จนนำไปสู่การสั่งไม่ฟ้องของอัยการและการหลบหนีออกนอกประเทศของวรยุทธ
- ชนตร.ตาย11ปีไม่เคยรับโทษ! ป.ป.ช.แพร่ข่าวมติชี้มูลคดี 'บอส' ยันสาวถึง'สมยศ-เนตร' ผิดจริง
- ชี้มูลคดี 'บอส' แล้ว 'สมยศ-เนตร-สว.ก๊อง-สายประสิทธิ' โดนอาญา 'เพิ่มพูน' ผิดไม่ร้ายแรง
- เลขาฯป.ป.ช.คอนเฟิร์ม! ชี้มูล 'สมยศ-พวก' คดี บอส -'เพิ่มพูน ชิดชอบ' แค่ผิดไม่ร้ายแรง
- เปิดข้อกล่าวหา ป.ป.ช.ชี้มูล 'สมยศ-พวก' ร่วมมือเป็นระบบ-สร้างพยานหลักฐานเท็จช่วย 'บอส'
@จี้ ‘เศรษฐา’ พิจารณาความเหมาะสมของ ‘เพิ่มพูน’
ล่าสุด นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กรุงเทพฯ (มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง) พรรคก้าวไกล และ อดีตกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในสภาชุดที่แล้ว เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า แม้จะเป็นกระบวนการเอาผิดทางวินัย แต่นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในฐานะผู้บังคับบัญชา ควรมีการพิจารณาดำเนินการต่อ ถึงความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการด้วย
นายธีรัจชัยกล่าวต่อไปว่า ต่อเรื่องนี้จึงมีคำถามว่านายกรัฐมนตรีจะดำเนินการอย่างไรต่อคดีทางวินัยที่ ป.ป.ช. ส่งมา เพื่อให้เกิดผลเป็นจริง เกิดความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ สิ่งที่ประชาชนสนใจคือความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความยุติธรรมระหว่างคนรวยกับคนจน อย่างที่เห็นในกรณีนี้ ว่ามีคนสามารถได้รับความช่วยเหลือผ่านกลไกต่างๆ ให้สามารถออกนอกประเทศและไม่ถูกดำเนินคดีมาจนถึงวันนี้ได้
“สิ่งที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลมา เป็นการรับรองว่ามีความพยายามของคนกลุ่มนี้ในการช่วยเหลือวรยุทธอยู่จริง ดังนั้น ผู้นำที่เป็นฝ่ายบริหารและเห็นกระบวนการยุติธรรมที่เหลื่อมล้ำ ต้องพิสูจน์ความจริงใจดำเนินการเรื่องนี้ให้สิ้นกระแสความ ตรวจสอบคนที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีให้ถูกดำเนินคดีให้หมด รวมทั้งการติดตามวรยุทธมาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งสามารถทำได้ทันทีด้วยการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานงานกับประเทศทางยุโรป ตรวจสอบว่ามีการเดินทางเข้าออกประเทศของวรยุทธหรือไม่ ด้วยการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพ (biometrics) และสามารถตามจับได้ไม่ยากถ้าใส่ใจในการทำ” นายธีรัจชัยกล่าว
@ติง ป.ป.ช. ชี้มูลเบา
นายธีรัจชัยกล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าโทษที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลออกมานั้น ยังไม่ครอบคลุมและยังไม่หนักพออย่างที่ควรจะเป็น หลายเรื่องเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง หลายเรื่องก็ยังไม่ชัดเจน และยังมีหลายบุคคลที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ดังนั้น ตนจะยังคงตรวจสอบติดตามเรื่องนี้ต่อไป
ที่สำคัญ ในส่วนของผู้นำประเทศ ถ้ามีความจริงใจ ต้องดำเนินการเรื่องนี้ต่ออย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะในส่วนของการติดตามจับกุมวรยุทธอย่างที่ตนได้กล่าวไปข้างต้น และไม่ควรมีการดึงเวลาไปเรื่อยๆ อีกต่อไปแล้ว
“แต่ผมเชื่อว่าท่านนายกฯ ไม่กล้า เนื่องจากพรรคที่ท่าน (เพิ่มพูน) สังกัดเป็นพรรคที่สำคัญ มีเสียงสูงในขณะนี้ ผมคิดว่าท่านไม่กล้า แต่ท่านจะทำอย่างไรก็ลองอธิบายให้คนเข้าใจก็แล้วกัน ถ้าท่านประสงค์จะทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทยเป็นธรรมไม่เหลื่อมล้ำท่านต้องเร่งทำโดยเร็ว แต่ถ้าท่านดึงเวลาไปเรื่อยๆ ก็หมายความว่าท่านไม่ได้มีความจริงใจที่จะทำให้กระบวนการยุติธรรมของประเทศตรงไปตรงมา เป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย” นายธีรัจชัยกล่าว