ป.ป.ช.นราธิวาสสนธิกำลังป่าไม้ ชมรมสตองลงพื้นที่สอบคลองคันหยงมัส เฝ้าระวังเหตุดูดทราย 6 จุด พบมีเหตุลักลอบจริง แต่ผู้กระทำผิดไหวตัวทัน ขนย้ายอุปกรณ์หลบหนีแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายสุวัฒน์ เสาวรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ สนธิกำลังร่วมหลายฝ่ายประกอบด้วยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนราธิวาส สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาส สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สาขานราธิวาส หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ นธ.3 (ระแงะ-จะแนะ) สำนักงานที่ดินจังหวัดนราธิวาส ฝ่ายปกครอง อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และเครือข่ายภาคประชาชนชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดนราธิวาส เข้าตรวจสอบสังเกตการณ์การลักลอบดูดทรายในลำน้ำตลอดแนวเขตคลองตันหยงมัส ตำบลตันหยงมัส และคลองบองอ ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส รวม 6 จุด
โดยจากการเข้าตรวจสอบในพื้นที่ พบบางจุดมีร่องรอยการลักลอบดูดทรายในลำน้ำ และบางจุดเป็นบ่อทรายเก่าที่หยุดดำเนินการแล้ว ดังนี้
จุดแรก เข้าตรวจสอบบริเวณ หมู่ที่ 5 บ้านลาไม ตำบลบองอ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อติดกับ หมู่ที่ 1 ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ พบร่องรอยมีลักษณะเป็นการดูดทรายในลำน้ำสาธารณะโดยมีการถมดินเป็นถนนเข้าให้ในลำน้ำเพื่อดูดตักทราย จนทำให้ทางเดินของน้ำในลำน้ำมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ตลิ่งฝั่งตรงข้ามมีการพังทลาย โดยในขณะเข้าตรวจสอบไม่พบตัวผู้กระทำการและเครื่องจักรที่ใช้ในการดำเนินการ ซึ่งคาดว่าได้เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ก่อนที่จะมีการเข้าตรวจสอบแล้ว
ส่วนจุด 2 มีระยะทางห่างออกไปจากจุดแรกประมาณ 500 เมตร บริเวณทางเข้าไปยังจุดที่จะเข้าตรวจสอบดังกล่าว พบมีรั้วปิดกั้นใส่กุญแจล๊อกอย่างแน่นหนา ทางคณะจึงไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้เนื่องจากเป็นที่ดินเอกชน แต่มีข้อสังเกตว่าที่ดินแปลงที่มีรั้วปิดกั้นล๊อกไว้นั้น ข้อมูลจากแผนที่ดาวเทียมที่ดินแปลงดังกล่าวมีแนวเขตติดกับลำน้ำ ซึ่งมีลักษณะอาจจะมีการดูดตักทรายก็เป็นได้ จึงได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
จุดที่ 3 ห่างจากโรงเรียนบ้านลาไม ออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร พบมีร่องรอยของการดูดตักทรายในบริเวณลำน้ำอีกเช่นเดียวกัน บริเวณดังกล่าวสังเกตเห็นได้จากถนนที่กำลังมีการก่อสร้าง เมื่อเดินทางเข้าตรวจสอบ พบว่าถนนสายดังกล่าวมีการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำอยู่ จึงไม่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้ จึงได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
จุดที่ 4 บริเวณบ้านบือแนกูวะ ตำบลบองอ และจุดที่ 5 บริเวณบ้านกำปงบารู ตำบลตันหยงมัส ไม่พบมีการดูดตักทรายในลำน้ำ
และจุดที่ 6 ในพื้นที่บริเวณ บ้านซ่อน หมู่ที่ 2 ตำบลตันหยงมัส จุดดังกล่าวมีการปิดกั้นทางเข้าเป็นท่อซีเมนต์ จำนวน 3 ท่อน ทางคณะจึงได้เดินเท้าเข้าไปประมาณ 500 เมตร พบว่า สุดปลายทางของถนนจดลำน้ำคลองตันหยงมัส พบร่อยรอยมีการดูดตัดทรายในพื้นที่ติดลำน้ำในบริเวณกว้าง และยังพบอีกว่ามีการตักดินขึ้นมาทำเป็นเขื่อนเพื่อดักทรายให้เข้ามาในบริเวณพื้นที่ติดลำน้ำ และบริเวณบางจุดของลำน้ำตลิ่งมีการพังทลายอันเนื่องมาจากการดูดตักทราย ทั้งนี้ในขณะเข้าตรวจสอบไม่พบตัวผู้กระทำการและเครื่องจักรที่ใช้ในการดำเนินการ ซึ่งคาดว่าได้เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ก่อนที่จะมีการเข้าตรวจสอบแล้ว
อย่างไรก็ตาม จุดที่มีร่องรอยการดูดตักทรายในบริเวณลำน้ำ เจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะดูดตักทรายในลำน้ำสาธารณะจะต้องดำเนินการยื่นขออนุญาตดูดทรายในลำน้ำสาธารณะตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และจะต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะดำเนินการได้ หากฝ่าฝืนถือเป็นความผิดและมีโทษตามกฎหมาย เนื่องจากการดูดตักทรายในลำน้ำสาธารณะที่ผลกระทบต่อระบบทางเดินน้ำและการพังทลายของตลิ่ง อันจะสร้างความเสียหายต่อส่วนรวม โดยจากข้อมูลจังหวัดนราธิวาส มีผู้ยื่นขออนุญาตเพียง 5 รายเท่านั้น