ACT เปิดผลโพลพบนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน มีผลสูงสุดต่อการตัดสินใจลงคะแนนเสียงของประชาชน เรียกร้องพรรค-นักการเมืองประกาศนโยบายที่ทำได้จริง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2566 นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าในขณะที่ประชาชนกำลังขุ่นเคืองกับวิกฤตคอร์รัปชัน แต่พรรคการเมืองกลับนิ่งเฉยหรือแสร้งไม่รู้ร้อนที่จะพูดถึงนโยบายปราบคอร์รัปชันเพื่อเรียกคะแนนเสียง ทั้งที่นักการเมืองคือยอดพิระมิดของการฉ้อราษฎร์บังหลวง เพราะมีทั้งอำนาจและอิทธิพลที่จะปราบคนโกงให้อยู่หมัดหรือจะทำชั่วปล้นชาติเสียเองก็ได้
ดังนั้น องค์กรฯ และภาคีเครือข่ายจึงร่วมกันรณรงค์ขยายผลเสียงสะท้อนความต้องการของประชาชนจากผลโพล โดยร้อยละ 95 บอกว่า นโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคและนักการเมือง มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนเลือกตั้งมากที่สุด
ทั้งนี้ ผลโพลดังกล่าว หรือ 'ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองในการเลือกตั้ง 2566' นั้น มาจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และมูลนิธิเพื่อ 'คนไทย' โดยได้จัดทำและเผยแพร่ผลแล้วเมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผลสำรวจครั้งนี้แตกต่างจากผลสำรวจครั้งก่อนหน้านี้ตรงที่ประชาชนบอกว่า ปัญหาสำคัญของประเทศต้องแก้ไขมากสุด คือ คอร์รัปชัน ส่วนอันดับ 2 การศึกษา อันดับ 3 ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
นอกจากนั้น ยังมีเสียงสะท้อนมากถึงร้อยละ 91 ระบุว่า ภาคการเมืองจะต้องมีบทบาทต้านโกงชัดเจน และร้อยละ 86.2 ระบุว่า หากพรรคไม่มีนโยบายต้านโกงจะไม่เลือกพรรคนั้นเพราะไม่โปร่งใสตั้งแต่แรก
นายมานะ กล่าวอีกว่า จนถึงขณะนี้ การที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่ยังไม่มีการประกาศนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันชัดเจน สาเหตุน่าจะมาจากคอร์รัปชันจึงเป็นเรื่องที่สังคมจับจ้อง จะพูดทีเล่นทีจริงไม่ได้ และหมดยุคแล้วกับคำพูดหวานหูแต่เลื่อนลอย อาทิ จะบริหารบ้านเมืองอย่างโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล มีอุดมการณ์ จะรักษาความซื่อสัตย์ ฯลฯ สำหรับพรรคที่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนเพราะเชื่อมั่นในนโนบายต่อต้านคอร์รัปชัน สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านจะถูกประชาชนติดตามทวงถามว่าเรื่องนั้นๆ ลงมือทำจริงหรือไม่ เกิดเป็นผลงานแล้วหรือยัง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากทำแล้วแต่ติดขัดประชาชนย่อมให้การสนับสนุน ทางกลับกัน หากคนในพรรคไปคดโกงปล้นชาติเสียเอง ประชาชนจะยิ่งก่นด่าประนามเป็นทวีคูณ และจะสูญเสียความเชื่อมั่นศรัทธาที่ประชาชนมีต่อพรรคและนักการเมืองลงอย่างชัดเจน ดังตัวอย่างที่มีให้เห็นมากมาย
“เลือกตั้งครั้งนี้ชัดเจนมากกว่าทุกๆ ครั้งว่า คนไทยต้องการเห็นนักการเมืองและพรรคการเมืองที่มีความซื่อสัตย์ จริงใจและมุ่งมั่น ที่สามารถนำประเทศไทยไปสู่ยุคสมัยใหม่ได้อย่างแท้จริงด้วยการที่พรรคจะประกาศนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันที่ปฏิบัติได้ จริงจัง” นายมานะกล่าว
สามารถศึกษาผลโพล “ความเห็นประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองในการเลือกตั้ง 2566 ได้ที่: http://bit.ly/3mym1Km.