กองทัพบก สั่งลงทัณฑ์ ขัง-งดบำเหน็จ ทหารผิดวินัย ปมทะเลาะ-ยิงปืนขู่กันเองในค่ายทหาร ย่านแจ้งวัฒนะ เหตุเกิดจากเปิดเครื่องเสียงดังรบกวนบริเวณในยามวิกาล ยันไม่ได้มุ่งทำร้ายกัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2566 พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่ทหารในค่ายทหารย่านแจ้งวัฒนะ ดวลปืนกันสนั่น ถือปืนยาวยิง 2 นัด พร้อมตะโกนด่าทอท้าทายกัน ในช่วงกลางคืนของวันที่ 20 ก.พ. 2566 ว่า เรื่องนี้ต้องสอบสวนอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าได้รับรายงานเหตุการณ์เป็นอย่างไร พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องดูผลการสอบสวนก่อน ว่าเกิดจากใครทำและสาเหตุมาจากอะไร ทุกอย่างต้องรอผลการสอบสวน เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ดังนั้นผู้บังคับบัญชาจึงไม่สามารถตัดสินใจได้ แต่ถ้าผิดทั้งคู่ก็ต้องลงโทษทั้งคู่ ส่วนใครจะโดนหนักกว่าหรือเบากว่าก็ต้องดูว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงเรื่องการใช้อาวุธปืนของกำลังพลหรือไม่ ทั้งที่มีการย้ำมาตลอด ผบ.ทบ. กล่าวว่า ปัญหาอาวุธปืนก็อีกเรื่องหนึ่ง ถึงแม้ว่าปืนจะถูกกฎหมายก็ไม่สามารถนำมาใช้เหมือนต่างประเทศได้ หากปืนผิดกฎหมายก็ยิ่งหนักกว่าเดิมอีก ก็ต้องได้รับโทษหนักขึ้นไปอีก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่ายุคนี้ถ้าผิดก็ไม่เอาไว้ ใช่ไหม พล.อ.ณรงค์พันธ์ ระบุว่า ถ้าผิดก็ไม่เอาไว้ ว่ากันตามกฎระเบียบ ใครผิดก็ว่าไปตามนั้น
ต่อมากองทัพบก ออกเอกสารเรื่อง ทบ.ลงทัณฑ์ 'ขัง-งดบำเหน็จ' ทหารทำผิดวินัย เหตุทะเลาะและยิงปืนขู่กันเองในบ้านพัก ระบุว่า ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์กรณีเกิดเหตุการใช้อาวุธปืนในที่พักอาศัยของทางราชการ ช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 20 ก.พ. 2566 ซึ่งในเวลาต่อมา นายทหารเวรได้เข้าระงับเหตุจนยุติลงนั้น
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเขตบ้านพักของหน่วยทหารสองหน่วยในพื้นที่เขตแจ้งวัฒนะ กทม. โดยเกิดจากการโต้เถียงกันด้วยอารมณ์ของนายทหารชั้นประทวนที่อาศัยอยู่ในบ้านพักซึ่งมีรั้วติดกัน มูลเหตุเกิดจากการเปิดเครื่องขยายเสียงดังรบกวนบริเวณที่พักอาศัยในยามวิกาล หลังการโต้เถียงนำมาซึ่งการใช้ปืนยิงข่มขู่ ลักษณะระบายอารมณ์ ไม่ได้มุ่งทำร้ายกัน
หลังเกิดเหตุหน่วยต้นสังกัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กำลังพลยอมรับว่า ได้ทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนส่วนตัวยิงข่มขู่กันทั้งสองฝ่าย คณะกรรมการสอบสวนพิจารณาลงทัณฑ์ในฐานความผิดวินัยทหาร ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาและฐานประพฤติไม่สมควร เสพของมึนเมาจนเสียกิริยา และยิงปืนในสถานที่ราชการ โดยนายทหารชั้นประทวน 4 นายของหน่วยแรก พิจารณาโทษ 'จำขัง' ตามฐานความผิด มีกำหนด 30 - 45 วัน, งดบำเหน็จประจำปี ส่วนนายทหารเวรของหน่วย และผู้บังคับบัญชา 2 ระดับ ให้ 'กักบริเวณ' ภายในหน่วยทหาร 10 - 30 วัน และให้เข้ารับการฝึกธำรงวินัย สำหรับหน่วยที่สอง พิจารณาลงทัณฑ์นายทหารชั้นประทวน 1 นาย ที่เป็นคู่กรณี ตามความผิดวินัยเช่นเดียวกัน โดย 'ขัง' 30 วัน, งดบำเหน็จประจำปี นอกจากนี้ ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีการใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะของกำลังพลทั้งสองหน่วย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
กองทัพบก ต้องขออภัยต่อประชาชนที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงหน่วยทหารดังกล่าว ที่มีความกังวลใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การก่อเหตุเป็นการกระทำผิดของกำลังพลส่วนบุคคล โดยมีความผิดทั้งสองฝ่าย ซึ่งหน่วยต้นสังกัดได้สอบสวน และพิจารณาลงทัณฑ์ตามระเบียบของทางราชการแล้ว โดยเฉพาะเรื่องวินัยทหารและการใช้อาวุธปืน