คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ 444.81 ล้านบาท จัดหากล้องบันทึกภาพและเสียงให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี อนุมัติ 444.81 ล้านบาท ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) เพื่อดำเนินโครงการ จัดหากล้องบันทึกภาพและเสียงตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 โดยจะจัดหากล้องบันทึกภาพและเสียง จำนวน 48,568 ชุด แบ่งเป็น 3 รายการ ได้แก่
1. กล้องบันทึกภาพและเสียงชนิดติดบนตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 37,624 ชุด งบประมาณ 338.62 ล้านบาท สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 กลุ่มสายงาน ได้แก่ สายงานป้องกันปราบปรามและสายงานจราจร จำนวน 16,945 ชุด และสายงานสืบสวนสอบสวน จำนวน 20,679 ชุด (ซึ่งได้รับการจัดสรรเป็นครั้งแรก)
2. กล้องบันทึกภาพและเสียงแบบมือถือ พร้อมอุปกรณ์เพื่อใช้ในห้องสอบสวนและห้องควบคุม จำนวน 9,366 ชุด งบประมาณ 93.57 ล้านบาท สำหรับสถานีตำรวจทั่วประเทศ จำนวน 1,484 สถานี และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 77 หน่วยงาน
3. กล้องบันทึกภาพและเสียงชนิดติดตั้งภายในรถยนต์ จำนวน 1,578 ชุด งบประมาณ 12.62 ล้านบาท สำหรับติดตั้งในรถยนต์ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค 1-9
เนื่องจาก พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ซึ่งจะมีผล บังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ ( 22 กุมภาพันธ์ 2566) บัญญัติให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการบันทึกภาพและเสียงผู้ต้องหาตั้งแต่เริ่มดำเนินการควบคุมตัว ผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา จึงเป็นความจำเป็นที่จะต้องจัดหากล้องบันทึกภาพและเสียง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปฏิบัติการทุกนายใช้ในการปฏิบัติงานตามหน้าที่โดยเร่งด่วนและทันที
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ย้ำถึงการดำเนินการจัดหา ต้องดำเนินการให้ทุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องกันไม่ให้ผลประโยชน์ตกแก่บุคคลใด สำหรับหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้อง ปฏิบัติ ตามพ.ร.บ. ดังกล่าว เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม ให้เร่งจัดลำดับความจำเป็นด้วย