กสม. ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลให้เด็กนักเรียนรหัส G เข้าถึงเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกับเด็กในประเทศไทยทุกคน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเรื่องการแก้ไขปัญหาสิทธิสถานะให้แก่กลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติ โดยปัจจุบันมีกลุ่มเด็กนักเรียนไร้รัฐไร้สัญชาติมากกว่าหนึ่งแสนคนที่มีถิ่นกำเนิดและหรืออาศัยอยู่ในประเทศไทยที่ยังไม่ได้รับสถานะทางทะเบียนหรือไม่มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ซึ่งเรียกเด็กกลุ่มนี้ว่า เด็กนักเรียนกลุ่ม G
การไม่มีสถานะทางทะเบียนหรืออยู่ระหว่างรอการพิสูจน์สถานะส่งผลให้เด็กนักเรียนกลุ่ม G ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนพึงมีได้ โดยเฉพาะสิทธิในการรักษาพยาบาล การศึกษาต่อ การมีงานทำ การเดินทางออกนอกพื้นที่ รวมทั้งสิทธิในการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ที่ต้องใช้เลขประจำตัว 13 หลัก เช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน การทำใบขับขี่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่หลายหน่วยงานต้องร่วมกันแก้ไข
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เพื่อหารือถึงแนวทางและกระบวนการแก้ไขปัญหาให้แก่เด็กนักเรียนกลุ่ม G กว่า 1,000 ราย ของสำนักทะเบียนอำเภอแม่อาย โดยเบื้องต้นทางอำเภอได้เร่งรัดพิจารณาอนุมัติการกำหนดสถานะ และจัดทำเลขบัตรประจำตัว 13 หลัก ให้นักเรียนชุดแรกจำนวน 11 ราย แล้ว โดยจำนวนที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ และในวันเดียวกัน ตนยังได้เข้าร่วมโครงการมอบบัตรประจำตัว13 หลักให้กับเด็กนักเรียนกลุ่ม G ที่ได้รับการแก้ไขสถานะในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2565 จำนวนทั้งสิ้น 285 คน จาก 19 โรงเรียนในเขตอำเภอฝาง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสำเร็จจากความร่วมมือของอำเภอฝาง องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนลฯ และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 3 เชียงใหม่ ทั้งนี้ กรมการปกครอง ได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาสถานะทางทะเบียนของเด็กนักเรียนกลุ่ม G ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยให้จังหวัดและอำเภอแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขกรณีดังกล่าวเป็นการเฉพาะด้วย
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา กสม. โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อหารือถึงการจัดทำระบบฐานข้อมูลสารสนเทศที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลของนักเรียนในระบบการศึกษาทุกรูปแบบ ซึ่งหมายรวมถึงเด็กนักเรียนกลุ่ม G เพื่อป้องกันเด็กทุกคนหลุดจากระบบการศึกษา ซึ่งต้องมีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทยต่อไป ขณะที่ก่อนหน้านี้ กสม. ได้หารือร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมการปกครอง ในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันเพื่อพิสูจน์สถานะสัญชาติ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการพิสูจน์สถานะมีความคล่องตัว รวดเร็ว และลดอุปสรรคเรื่องอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนไม่เพียงพอต่อปริมาณงาน ได้มากยิ่งขึ้น
“ปัญหาเรื่องสิทธิสถานะของเด็กนักเรียนกลุ่ม G เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความร่วมมือและเชื่อมโยงข้อมูลกันระหว่างหลายหน่วยงาน ทั้งกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ องค์กรภาคประชาสังคม รวมทั้งหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของ กสม. ได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาเชิงรุกผ่านกลไกคลินิกสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นการลงพื้นที่เพื่อพบกลุ่มเป้าหมายที่มีปัญหาสถานะบุคคล เพื่อให้คำปรึกษาและประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ และดำเนินการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบายโดยรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะเชิงระบบต่อไปเพื่อให้เด็กนักเรียนกลุ่ม G ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปราะบางทับซ้อนคือเป็นทั้งเด็กและเป็นทั้งผู้ไร้สิทธิสถานะได้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกับเด็กในประเทศไทยทุกคน” ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ ระบุ