‘สกนช.’ เผยฐานะ ‘กองทุนน้ำมันฯ’ ล่าสุดติดลบเหลือ 1.21 แสนล้านบาท หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ส่งผลให้ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.65 มีเงินไหลเข้ากองทุนฯ 8 พันล้าน มองราคา ‘ดีเซล’ ปี 66 อยู่ที่เฉลี่ย 105 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยระหว่างการแถลงผลการดำเนินงานการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2565 ที่ผ่านมา ว่า ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 1 ม.ค.2566 ติดลบ 1.21 แสนล้านบาท ซึ่งติดลบลดลงจากในช่วงเดือน พ.ย.2565 ที่กองทุนน้ำมันฯ ติดลบสูงถึง 1.3 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง ทำให้เริ่มมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ
“ในช่วงปลาย พ.ย.-ธ.ค.2565 ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มอ่อนตัวลง ทำให้กองทุนน้ำมันฯเก็บเงินเข้ากองทุนฯได้กว่า 8,000 ล้านบาท และทำให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงผันผวน ทั้งจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน และการถดถอยของเศรษฐกิจโลก ดังนั้น กองทุนฯยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่างๆใกล้ชิดต่อไป” นายวิศักดิ์ ระบุ
นายวิศักดิ์ ยังประเมินว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกในปีนี้น่าจะไม่ร้อนแรงเท่ากับปีที่แล้ว โดยเบื้องต้น สกนช.ประเมินว่าราคาน้ำมันดีเซล (Gas Oil) เฉลี่ยทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณ 105 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และกรณีเลวร้ายสุดราคาอาจจะขยับขึ้นไปที่ 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ในปี 2565 ที่ผ่านมาราคา Gas Oil ในตลาดโลกอยู่ที่ 135.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 74.26% เมื่อเทียบกับปี 2564
ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก เช่น เศรษฐกิจโลกที่จะอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากประเทศเศรษฐกิจหลัก เช่น สหรัฐเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ,การปรับกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส ,สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และการประกาศเปิดประเทศของจีน ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯในการขับเคลื่อนมาตราการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน และผู้ประกอบการ เช่น การทยอยปรับราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) แบบขั้นบันได จากเดิมที่ตรึงราคาไว้ 318 บาท/ถัง 15 กก. ก่อนทยอยปรับราคามาอยู่ที่ 408 บาท/ถัง 15 กก. และการบริหารราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม โดยปัจจุบันได้เข้าไปตรึงราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกให้อยู่ที่ระดับไม่เกิน 35 บาท/ลิตร
นอกจากนี้ กองทุนน้ำมันฯได้ขยายระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพออกไปอีก 2 ปี หรือขยายระยะเวลาไปจนถึงวันที่ 24 ก.ย.2567 เนื่องจากยังมีความจำเป็นต้องจ่ายเงินชดเชยฯ เพื่อรักษาระดับค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ อีกทั้งเป็นการช่วยเกษตรกรให้มีรายได้จากการขายพืชผลทางการเกษตร
นายวิศักดิ์ ระบุว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ออก พ.ร.ก.ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 และมีผลใช้บังคับไปแล้วนั้น สกนช.ได้ดำเนินการกู้เงินรอบแรกไปแล้ว 3 หมื่นล้านบาท และจะมีการกู้เงินรอบที่สองอีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการเสนอเรื่องให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) พิจารณาปรับแผนบริหารหนี้สาธารณะในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ก่อนเสนอให้ ครม.เห็นชอบต่อไป
นายวิศักดิ์ กล่าวว่า ในปี 2566 มีหลายเรื่องที่กองทุนน้ำมันฯจะต้องดำเนินการ เช่น บริหารจัดการสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ ให้สามารถดำเนินการได้ตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันฯ คือ การรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ภายใต้สถานการณ์ต่างๆที่ยังมีความผันผวน ,ประสานกับ สบน.ในการกู้ยืมเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กองทุนน้ำมันญ และทบทวนแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
อ่านประกอบ :
‘สกนช.’ เผยปี 66 ทยอยกู้เงินอีก 1.2 แสนล้าน เพิ่มสภาพคล่อง ‘กองทุนน้ำมันฯ’
ครม.ไฟเขียวต่ออายุลดภาษีสรรพสามิต ‘ดีเซล’ อีก 2 เดือน-กองทุนน้ำมันฯติดลบ 1.3 แสนล้าน
สภาผ่านร่าง พ.ร.ก.ค้ำประกันเงินกู้ กองทุนน้ำมัน ‘ฝ่ายค้าน-ปชป.’ อภิปรายถล่ม
คาดสูญรายได้ 2 หมื่นล้าน! ‘ครม.’ เคาะต่ออายุลดภาษีสรรพสามิต ‘ดีเซล’ ออกไปอีก 2 เดือน