ครม.เห็นชอบต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ‘ดีเซล’ อีก 2 เดือน คาดรัฐสูญรายได้ 2 หมื่นล้าน ขณะที่ล่าสุด ‘กองทุนน้ำมันฯ’ ติดลบแล้ว 1.3 แสนล้าน
.....................................
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่นๆที่คล้ายกัน ในอัตราประมาณ 5 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 2 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.2565 ถึงวันที่ 20 ม.ค.2566
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังประเมินว่า การลดภาษีสรรพาสามิตน้ำมันดีเซลดังกล่าว จะทำให้ภาครัฐจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือรวม 2 เดือน รัฐจะสูญเสียรายได้ 2 หมื่นล้านบาท
"การดำเนินการมาตรการภาษีในครั้งนี้ คาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่จะเป็นการช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก จนกระทบต่อค่าของชีพของประชาชน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้" นายอนุชา กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพาสามิตน้ำมันดีเซลอีก 2 เดือน เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลในประเทศไว้ให้นานที่สุด อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าเรามีการใช้เงินสูงมากทั้งในส่วนของไฟฟ้าและพลังงาน แต่อะไรที่เป็นปัญหาและจะเกิดผลกระทบโดยภาพรวม ก็ขอให้เข้าใจว่ามีภาระในการใช้จ่ายงบประมาณ แม้ว่าตนไม่อยากสร้างภาระให้รัฐบาลชุดต่อไปก็ตาม
ด้าน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์สื่อว่า แม้ว่าขณะนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะปรับตัวลดลงมาบ้างแล้ว แต่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศยังไม่ลดลง และเป็นราคาที่สูงกว่าราคาอ้างอิง ขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงขาดสภาพคล่องอยู่แม้ว่าจะเริ่มกู้ได้แล้ว จึงมีความจำเป็นที่กระทรวงการคลังต้องเข้าไปอุดหนุน ส่วนจะมีการต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอีกหรือไม่นั้น คงต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังมีความผันผวน และมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าน้ำมัน และทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศยังสูงอยู่ กรมสรรพสามิตเห็นว่ามีความจำเป็นต้องปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลออกไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยไม่ให้ราคาขายปลีกของน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นจนเกิดผลกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจภาพรวม
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ณ วันที่ 13 พ.ย.2565 พบว่ากองทุนน้ำมันฯติดลบ -130,732 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน ติดลบ 89,329 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 43,403 ขณะที่กองทุนฯได้รับเงินเรี่ยไร 2,000 ล้านบาท
อ่านประกอบ :
คาดสูญรายได้ 2 หมื่นล้าน! ‘ครม.’ เคาะต่ออายุลดภาษีสรรพสามิต ‘ดีเซล’ ออกไปอีก 2 เดือน