'พิธา' หัวหน้าพรรคก้าวไกลแถลงจุดยืนพรรคต่อกัญชา ย้ำจุดยืนไม่เปลี่ยนจากสมัยอนาคตใหม่ แต่ไม่เอากัญชาเสรีสุดโต่ง ด้าน 'เท่าพิภพ' เผยพ.ร.บ.กัญชาจำเป็นมาก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2565 พรรคก้าวไกลแถลงจุดยืนต่อกัญชาและพ.ร.บ.กัญชา โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ฉบับที่… พ.ศ. … เป็นผู้แถลงข่าว
นายพิธากล่าวว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกลต่อกัญชาไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่สมัยเป็นอนาคตใหม่ คือ กัญชาสามารถก้าวหน้าได้มากกว่ากัญชาทางการแพทย์ เป็นกัญชาสันทนาการที่ควบคุมได้ เป็น HUB กัญชาทางการแพทย์ได้ ที่ไม่ใช่จุดยืนของพรรค คือ กัญชาเสรีสุดโต่งที่ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดแล้วไม่มีกฎหมายควบคุม แม้ว่าจะมีกฎกระทรวงมาอุดช่องโหว่กัญชาเสรีก็ยังคงมีปัญหา พรรคก้าวไกลห่วงใยเยาวชน เพื่อปกป้องเยาวชนจึงคิดว่าต้องมีกฎหมายควบคุมกัญชาอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันการเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอุตสาหกรรมกัญชายังคงพัฒนาต่อไปได้ ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องปลดล็อคจากยาเสพติดแล้วจึงจะพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชาได้ มีหลายประเทศที่ไม่ได้ปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติดแต่ยังคงสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชาได้ นอกจากนี้การพัฒนากฎหมายกัญชาต้องใช้เวลา ไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น
“กัญชาหายจากสังคมไทยไปเกือบ 60 ปี การที่ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดแล้วกลายเป็นกัญชาเสรีสุดโต่งอย่างที่ผ่านมา โทษจะมากกว่าประโยชน์ เราต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชาให้ประโยชน์มากกว่าโทษเสมอ นั่นก็คือสันทนาการแบบที่ควบคุมได้” นายพิธากล่าว
นายเท่าพิภพกล่าวถึงประเด็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา-กัญชว่า การมีพ.ร.บ.กัญชา-กัญชง คือ การควบคุม การไม่มีกฎหมายควบคุมคือการปล่อยเสรี นโยบายของพรรคก้าวไกล ได้แก่ ไม่ให้กลุ่มทุน นายทุน หรือพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งผูกขาดการใช้ประโยชน์กัญชา และกัญชาก้าวหน้าที่รวมไปถึงการควบคุมการใช้กัญชาของเยาวชน การทำงานของตนและพรรคก้าวไกลตอบสนองจุดประสงค์หลัก 2 ประการข้างต้น
"การเป็นยาเสพติดจะมีสภาพควบคุมมากกว่า แต่ผู้ที่ประกอบการที่ได้เริ่มปลูกไปแล้วก็มาใช้พ.ร.บ.นี้ ก็ยังสามารถทำธุรกิจต่อไปได้เหมือนเดิม นี่คือทางออกที่ตรงกลางที่สุด" นายเท่าพิภพกล่าว