ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ ทลายล้างเครือข่ายค้าปืนข้ามชาติ 'เบล พันกระบอก' ระดมตรวจค้น 21 จุดในพื้นที่ กทม.-ชลบุรี-กาญจนบุรี-อุดรธานี-เชียงใหม่ รวม 16 หมายจับ มีข้าราชการเอี่ยว พบทำกันเป็นขบวนการ เอาปืนหลวงไปขาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2565 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการดองปราบปราม (ผบก.ป.) พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1.บก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2.บก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3.บก.ป.พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4.บก.ป. พ.ต.อ.วิระขาญ ขุญไชยแก้ว ผกก.5.บก.ป.และพ.ต.อ.วิจักขณ์ ตามรมย์ ผกก.สสน.บก.ป. นำเจ้าหน้าที่ในสังกัด พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน กองปราบ” เปิดปฏิบัติการ “ทลายเครือข่ายค้าอาวุธปืนข้ามชาติ เบล 1000 กระบอก” เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 21 จุด 16 หมายจับ ใน กรุงเทพฯ ชลบุรี กาญจนบุรี อุดรธานี และเชียงใหม่
พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า ตำรวจกำลังกวาดล้างเครือข่ายค้าอาวุธปืนข้ามชาติให้หมดไป เนื่องจากตั้งแต่ปี 2563 ตำรวจกองปราบราม ได้จับกุมเครือข่ายผู้ค้าอาวุธปืนข้ามชาติ และผู้ครอบครองอาวุธปืน ที่จังหวัดเชียงราย จังหวัดหนองคาย สามารถจับผู้ค้าและผู้ครอบครองรวมทั้งอาวุธปืนจำนวนมาก หลังสอบสวนพบต้นทางที่มาของปืนทั้งหมด ที่ยึดได้นั้น หลายสิบกระบอกเป็นปืนสวัสดิการของราชการ ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง ส่วนใหญ่พบใบอนุญาตออกมาจาก อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี แบบไม่ถูกต้อง
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า จากนั้นกองปราบปราม ได้ขยายผลสืบสวนเรื่อยมา จนพบตัวการสำคัญ คือ นายดนุพล หรือเบล แสมสาร อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นตัวการใหญ่ ในการค้าปืนข้ามชาติ โดยจะติดต่อข้าราชการ อาสาสมัครต่าง ๆ รวมทั้งชุดปราบปรามยาเสพติดประจำอำเภอ เพื่อนนำรายชื่อทั้งหมดไปขออำเภอ ให้ออกใบอนุญาตให้มีปืน (ป.3. ) เพื่อซื้อปืนสวัสดิการหลวง โดย นายเบล จะคอยวิ่งเต้นให้ผลประโยชน์กับนายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่ออกใบ ป.3 ใน จ.ชลบุรี รวมทั้ง อดีตนายอำเภอที่ จ.กาญจนบุรี หลังได้ปืนมาแล้วจะรวบรวมส่งไปขายให้กับนายทุนประเทศเพื่อนบ้าน (พม่า) ที่มีการสู้รบอยู่เป็นประจำ ตั้งแต่หลักร้อยจนไปถึงหลักพันกระบอก
สำหรับ นายเบล แสมสาร หรือเบลพันกระบอก เป็นผู้ข่วยผู้ใหญ่บ้าน ต.แสมสาร เมื่อปี 2561 เคยถูกกรมการปกครองกระทรวงทหาดไทย ตั้งคณะกรรมการสอบสวน หลังมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารสวมสิทธิ์ซื้อปืนสวัสดิการหลวงหลายกระบอก โดยสงสัยว่าน่าจะมีการปลอมแปลงเอกสาร ลายเซ็นผู้ซื้อโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องมาก่อน เพราะพบว่าบางคนซื้อปืนหลายกระบอกเกินความจำเป็น นอกจากนี้ยังเคยถูกตำรวจชลบุรีจับกุมพร้อมปืนยาว 46 กระบอก ทั้งหมดมีใบครอบครองอาวุธปืน หรือใบ ป.4. ถูกต้อง หลังพบพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการขายอาวุธปืนข้ามชาติ