‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง ‘คมนาคม’ ตั้ง ‘คณะทำงาน’ เร่งรัดส่งมอบพื้นที่ ‘รฟท.’ ให้ ‘เอสอาร์ที แอสเสท’ ภายใน 30 วัน เตรียมผุด 4 โครงการฯ สร้างรายได้
...............................
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุมติดตามนโยบาย เรื่อง ความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว รฟท.ได้รายงานว่า รฟท. จะมีการลงนามสัญญาจ้าง บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ รฟท. ให้เข้ามาบริหารพื้นที่ของ รฟท. ในเดือน ก.ย.2565 และหลังจากมีการลงนามสัญญาจ้างแล้ว จะมีการมีส่งมอบพื้นที่ต่อไป
รฟท. รายงานว่า ปัจจุบันที่ดินของ รฟท. มีสัญญาเช่าทั้งสิ้น 15,528 สัญญา โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่ดินที่มีสัญญาเช่าเดิม เช่น กลุ่มสัญญาเช่าที่ยังไม่หมดอายุสัญญา และสัญญาเช่าฝ่ายปฏิ บัติการเดินรถเป็นคู่สัญญา เป็นต้น 2.กลุ่มพื้นที่ว่าง ซึ่งโครงการพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่ หรือกลุ่มพื้นที่ออกจัดประโยชน์ใหม่ เช่น ที่ดินแปลงธนบุรี และที่ดินแปลงหัวหิน (โรงแรม) เป็นต้น
และ3.กลุ่มที่ไม่ส่งมอบให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด บริหาร ได้แก่ สัญญาเช่าหน่วยราชการ สัญญาทางเข้า-ออก สัญญาปักเสาพาดสาย และสัญญาลูกค้าขนส่งทางรถไฟ เป็นต้น
ขณะที่ SRTA รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ให้ที่ประชุมรับทราบว่า บริษัทฯ ได้วางระบบต่างๆที่เกี่ยวข้อง การจัดทำร่างระเบียบและหลักเกณฑ์ รวมถึงศึกษาแนวทางการพัฒนาพื้นที่โครงการขนาดใหญ่ เพื่อเตรียมการเพื่อบริการทรัพย์สิน โดย SRTA มีเริ่มศึกษาโครงการต่างๆ 4 โครงการ ได้แก่
1.โครงการโรงแรมรถไฟหัวหิน 2.โครงการธนบุรี ซึ่งเป็นศูนย์ทางการแพทย์ชั้นนำ และสังคมสีเขียว 3.โครงการบางซื่อ หรือ โครงการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณบางซื่อ และ 4.โครงการพัฒนาพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางพระรามเก้า (RCA-คลองตัน)
ทั้งนี้ SRTA คาดว่าในปี 2566 บริษัทฯจะมีรายได้อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2570 จะมีรายได้อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท และตลอดระยะเวลา 30 ปี คาดว่าจะมีรายได้รวม 6 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมรายได้จากธุรกิจอื่นๆ จากการตั้งบริษัทลูก
อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สยาม มีข้อสั่งการในที่ประชุมใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1.ให้กระทรวงคมนาคมแต่งตั้ง คณะทำงาน ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางราง สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง รฟท. SRTA และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่ให้แล้วเสร็จ ภายใน 30 วัน
2.การกำหนดตัวชี้วัดดำเนินการของ SRTA โดยอาจจะพิจารณาจากรายได้ที่ รฟท.จะได้รับต้องมีสอดคล้องกับสถานการณ์ และความเป็นจริงของพื้นที่ และ 3.การพัฒนาที่ดิน จะต้องใช้หลักการการพัฒนาที่จะต้องอิงจากความเหมาะสมในการพัฒนาให้ตรงกับศักยภาพของพื้นที่ ไม่ยึดติดกับการพัฒนารูปแบบเดิมๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ รฟท.และ SRTA
อ่านประกอบ :
‘สพ.รฟ.’เสนอ‘ผู้ว่าฯรฟท.-SRTA’เจรจา‘ผู้บุกรุก’ทำสัญญาเช่าที่ดิน‘เขากระโดง’หารายได้