ดีเอสไอแจ้งข้อหามีไว้เพื่อจำหน่ายเครื่องหมายการค้าปลอม มูลค่ากว่า 50 ล้านบาทที่ภูเก็ต
เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 65 นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ห้องประชุมโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต กรมสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันคัดแยกสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่ถูกจับมา เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สั่งการให้ ร.ต.อ.พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา นางสาวจารุวรรณ ครุสาตะ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 และกำลังเจ้าหน้าที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญานำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเข้าตรวจค้นสถานที่เก็บสินค้าปลอมจำนวน 5 แห่งในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งผลการตรวจค้นพบสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า 4 แห่ง คือ
1. โกดังไม่ทราบเลขที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้
2. บ้านเลขที่ 112 และ 112/1 ต.กะทู้ อ.กะทู้
3. บ้านเลขที่ 35/192 ม.2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง
4. บ้านเลขที่ 35/168 ม.2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง
โดยพบเสื้อผ้าปลอมเครื่องหมายการค้า อาทิ หลุยส์วิตตอง (LOUIS VUITTON) กุชชี่ (GUCCI) ไนกี้ (NIKE) อาดิดาส (ADIDAS) ชาแนล (CHANEL) และยี่ห้ออื่น ๆ กว่า 100,000 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้เป็นของกลาง โดยกล่าวหาว่า “เสนอจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ซื้อหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร”
รายงานข่าวแจ้งว่ากองคดีทรัพย์สินทางปัญญาทำการสืบสวนพบว่า มีสถานที่จำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยสถานที่ดังกล่าวมีพฤติการณ์การกระทำความผิดเป็นแหล่งค้าส่งค้าปลีกผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยเสนอจำหน่ายสินค้าปลอมคุณภาพเกรด A เพื่อขายให้กับผู้ที่สนใจอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำลายเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย จึงได้วางแผนทำการตรวจค้นและยึดของกลางไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้เนื่องจากการที่ประเทศไทยถูกสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) จัดอันดับสถานะทางการค้า อยู่ในบัญชีประเทศที่ถูกจับตา (WL) ในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา และกรมสอบสวนคดีพิเศษมีนโยบายในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยเฉพาะเขตพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (พื้นที่สีแดง) อย่างจริงจังและเด็ดขาด ต่อไป