'หมอยง'เผยโควิดไม่มีวันหมดไป เพราะการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แนะวิธีการอยู่ร่วมกันให้ได้ ย้ำทุกคนเคร่งครัดวินัยและเข้ารับวัคซีน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2565 นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุถึงการใช้ชีวิตในสถานการณ์การระบาดของโควิดว่า เรายอมรับแล้วว่า ไม่สามารถที่จะทำให้โรคโควิดหมดไปได้ ทำอย่างไรเราจึงจะอยู่ด้วยกันได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา สายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ขณะนี้คือสายพันธุ์โอไมครอน ที่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ในเกือบทุกประเทศจำนวนผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ขณะเดียวกันอัตราการเสียชีวิตหรือความรุนแรงของโรคไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม แม้จะมีการระบาดอย่างมากในประเทศทางตะวันตก ระบบสาธารณสุขก็ยังรองรับได้ อัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยทั่วโลก จะอยู่ที่ประมาณ 2.5 รายในผู้ป่วยที่รายงาน 1,000 ราย ประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 2 ราย ในผู้ป่วยที่รายงาน 1,000 ราย แต่ถ้านับจำนวนผู้ที่ติดเชื้อจริงๆ เช่น การติดเชื้อจากการตรวจ ATK หรือไม่ได้ตรวจเพราะมีอาการน้อยมาก อัตราการเสียชีวิตโดยเฉลี่ยต่อจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดน้อยลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม ชีวิตจะต้องเดินหน้า และจะต้องอยู่ได้ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา การควบคุมการระบาดจะอยู่ที่ระเบียบวินัยของทุกคน จะต้องช่วยกันให้มีการระบาดให้น้อยที่สุด มากกว่าที่จะมีมาตรการล็อกดาวน์ (Lock down) หรือปิดบ้านปิดเมือง การให้ทุกคนมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น จากการฉีดวัคซีน จะทำให้ความรุนแรงของโรคลดลง
เด็กนักเรียนจะต้องไปโรงเรียน โดยมีระเบียบวินัย การติดเชื้อในเด็กอันตรายต่อเด็กน้อยมาก แต่เด็กจะเอาเชื้อมาสู่ผู้สูงอายุในบ้าน และเกิดอันตรายได้ ดังนั้นทุกคนในบ้านจะต้องมีการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนหรือการป้องกันกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวเรื้อรัง (กลุ่ม 608)
ภาวะทางเศรษฐกิจจะต้องคำนึงถึง การเปิดประเทศก็มีความจำเป็น แม้กระทั่ง Test and Go ก็น่าจะเป็นที่ยอมรับ เพราะการตรวจเชื้อเมื่อต้นทาง และการตรวจเชื้อเมื่อมาถึง และขณะนี้มีการตรวจเชื้อในวันที่ 5 หลังจากเข้าสู่ประเทศไทยแล้ว ความจริงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปนอนโรงแรมในวันที่ 5 ถ้าทุกคนสามารถตรวจเชื้อได้ที่ใดที่หนึ่ง ก็จะเป็นการเปิดประเทศได้กว้างขึ้น เราต้องยอมรับว่า การเดินทางเข้ามาโอกาสจะหลุดรอดของเชื้อ มีความเป็นไปได้ แต่ขณะนี้ในประเทศของเรา ก็มีการระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ในประเทศมีน้ำเต็มแบบทะเล มหาสมุทร ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ เข้ามาและมีมาตรการ Test and Go ก็น่าจะเพียงพอ เปรียบเสมือน ถึงแม้หลุดรอด การเติมน้ำ สักถัง 2 ถังลงในทะเล ก็ไม่ได้มีความหมายเพิ่มขึ้น เว้นเสียแต่ การเฝ้าระวังสายพันธุ์ใหม่ โดยเฉพาะประเทศที่มีสายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น จะต้องมีความจำเป็นที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ
ความพอดีสมดุลย์ของสังคม ที่ทุกคนอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ทุกอย่างจะต้องเดินหน้า เราควรหันหน้ามาให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และเคร่งครัดในการป้องกันโรค