‘อนุชา’ เด้งรับคำสั่งนายกรัฐมนตรี แก้ปัญหา ‘จะนะ’ เตรียมลงพื้นที่โดยเร็วที่สุด ขณะที่ ‘ธรรมนัส’ ตัดพ้อไม่ได้สานงานต่อ เหตุพ้นรัฐมนตรี ลั่นจะใช้สภาแก้ปัญหาให้ประชาชนต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มอบหมายให้รับผิดชอบการแก้ปัญหาโครงการนิคมอุสาหกรรมจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งมีกลุ่มชาวบ้านคัดค้านมาอย่างต่อเนื่องว่า คงต้องดูรายละเอียดก่อนว่า โครงการดังกล่าว รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นมาอย่างไร มีการรับฟังประชาชนในพื้นที่ และรายละเอียดของโครงการคืบหน้าอย่างไร และคงต้องลงพื้นที่จริงเพื่อดูข้อเท็จจริงที่ อ.จะนะ ด้วย เพราะถ้าเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี คงต้องรีบลงไปดู รวมทั้งรับฟังปัญหาและข้อคิดเห็นของหลายๆฝ่าย รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบหากดำเนินการและหน่วยงานเจ้าของโครงการเราก็ต้องฟังเขา รวมถึงภาคใต้มีหลายปัจจัยที่ต้องทำมาพิจารณา
นายอนุชา กล่าวยืนยันว่า ตนไม่หนักใจที่จะพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ทั้งที่เห็นด้วย และ คัดค้านเพราะต้องพูดคุยอยู่บนพื้นฐานของประเทศชาติของประชาชนเป็นที่ตั้งไม่ได้มีวาระซ่อนเร้น ทุกอย่างต้องทำเพื่อสังคมเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการแก้ปัญหาก่อนหน้านี้ทำไว้อย่างไรตนก็จะต้องนำมาเป็นข้อมูลประกอบทั้งหมด และนำประเด็นมาพูดคุยกันโดยยึดกฎเกณฑ์และประโยชน์ส่วนร่วมเป็นที่ตั้ง
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายกรัฐมนตรีระบุว่าไม่ต้องยึดเอ็มโอยูเดิมที่เคยทำไว้ หมายถึงต้องทำงานใหม่ใช่หรือไม่ นายอนุชา ตนไม่ทราบว่าเอ็มโอยูนั้นเป็นอย่างไร และ ถือข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเป็นสำคัญ
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ที่ต้องมาแก้ปัญหาต่อจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่กังวลใจ เพราะเป็นเรื่องของงาน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์ อย่าไปคิดเกินเลย ไม่มีใครคิดในทำนองแบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ ร.อ.ธรรมนัส โพสต์ข้อความผ่าน ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่า “หลังจากที่ผมพ้นจากการเป็นตำแหน่งรัฐมนตรี ผมไม่สามารถสานงานต่อเรื่องปัญหาของพี่น้องประชาชนในหลายๆเรื่อง รวมถึงปัญหาของพี่น้องชาวจะนะ ซึ่งคงไม่มีใครรู้และเข้าใจถึงแก่นแท้ของปัญหา ยกเว้นผู้ที่มีส่วนได้เสียกับโครงการนี้ ผมได้รับการประสานจากเพื่อนๆ ส.ส.หลายท่าน ให้เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวจะนะเหมือนเดิม แต่ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นผมไม่สามารถไปก้าวล่วงกับคณะทำงานชุดใหม่ของรัฐบาลได้อีก ผมยังเป็นห่วงพี่น้องชาวจะนะและผมจะใช้ระบบสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวจะนะต่อไปครับ”