'สุภัทร' โต้กรณีมีการกล่าวพาดพิงการศึกษาไทย ทำเด็กไร้อนาคต หลังผลประเมินรั้งท้ายตาราง แจงเป็นการสำรวจไม่มาตรฐานผ่านระบบออนไลน์ เผย ศธ.ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต มี กศน.เดินหน้าสร้างโอกาส-ลดความเหลื่อมล้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2564 จากกรณีที่ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ขณะนี้การศึกษาไทยทำเด็กไทยไร้อนาคต ชี้ปัญหาการศึกษาของไทยอยู่ในภาวะใกล้ปรอทแตกจากปัญหาสะสมหลายด้าน ทั้งกรณีผลการสำรวจทักษะความสามารถด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ (EF English Proficiency Index) ปี 2565 ของเด็กไทยรั้งท้ายตารางอยู่อันดับที่ 100 จากทั้งหมด 112 ประเทศ
นอกจากนี้ยังมีเด็กอีกจำนวนมากเข้าไม่ถึงเครื่องมือสื่อการเรียนในช่วงโควิด-19 ขณะเดียวกันกระทรวงศึกษาธิการควรพิจารณาเพิ่มทางเลือกในการส่งเสริมการศึกษาผ่านการเรียนรู้ตลอดชีวิต (LifelongLearning) อย่างจริงจังลดความเหลื่อมล้ำด้วยอินเทอร์เน็ตดี ฟรีค่าใช้จ่าย ใช้งานได้จริง เพื่อให้เด็กเข้าถึงความรู้ เป็นผู้ชี้นำการเรียนรู้ของตนเอง
นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงประเด็นกรณีผลการสำรวจทักษะความสามารถด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ (EFE nglish Profociency Index) ปี 2565 ของเด็กไทยรั้งท้ายว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ตรวจสอบข้อมูลแล้ว จากการวิเคราะห์ ขั้นตอนการได้ผลคะแนนจากข้อสอบ EF SET พบว่าไม่น่าจะเป็นมาตรฐานสากล เนื่องจากเป็นการสอบผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่ได้อยู่ภายใต้ Test condition คือไม่มีผู้คุมสอบ (invisgerator) จึงทำให้ไม่ทราบว่า ผู้ทำข้อสอบเป็นใคร ใบ certificate เพียงกรอกข้อมูลลงในระบบก็ได้แล้ว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และการตรวจสอบผลคะแนนย้อนหลังไม่สามารถดำเนินการได้ รวมทั้งข้อมูลที่ปรากฏใน certificate ด้วย
อ้างอิงจาก เว็บไซต์ ของ EF พบว่า ข้อสอบ EFSET ถูกออกแบบโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหนึ่งในเครื่องมือประกอบการเรียนรู้ (Learning tool) เท่านั้น อีกทั้งจากบทรายงานการวิจัยของ EF ข้อสอบ EFSET ถูกออกแบบมาเพื่อจัดระดับ placement นักเรียนให้เหมาะสมกับหลักสูตรของ EF จากการรายงาน (report) ไม่มีการระบุจำนวน และที่มาของ กลุ่มตัวอย่าง(samples)จากทุกประเทศที่นำมาจัดอันดับและไม่ทราบว่ามีจำนวนกลุ่มตัวอย่างเพียงพอที่จะเป็นตัวแทนในระดับประเทศหรือไม่ รวมทั้งข้อสอบของEFไม่มีกระบวนการหาคุณภาพข้อสอบ(validation)จากหน่วยงานภายนอกจึงไม่ถือว่าเป็นข้อสอบที่มีมาตรฐาน ตลอดจน EFSET ไม่ใช่ข้อสอบในลักษณะที่ออกเพื่อพัฒนา 4 ทักษะ เพื่อนำมาพัฒนา
ในส่วนมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ใช้หลักเกณฑ์ของชุดข้อสอบตาม CEFR 4 ทักษะ เพื่อใช้ในการพัฒนาครู นำไปถ่ายทอดลงสู่นักเรียน โดยมีการพัฒนาครูแกนนำภาษาอังกฤษ (Thai Master Trainers)หลักสูตร BootCamp และ BootCampTurbo จำนวน 28,000 คน คิดเป็นร้อยละ 90 ของครูภาษาอังกฤษทั้งหมด และมีการสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษผ่านศูนย์ HCEC 185 ศูนย์ อีกทั้งพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของครูผู้สอนภาษาอังกฤษและครูผู้สอนวิชาอื่นๆ ทั้งแบบ On Site / Online และ On Demand รวมทั้งวางแผนการสอบวัดมาตรฐาน CEFR สำหรับนักเรียน/ครู และบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนวางแผนเรื่องการร่วมมือกับ TESOL และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศในการพัฒนาครูภาษาอังกฤษ
ส่วนประเด็นที่แนะนำให้กระทรวงศึกษาธิการควรพิจารณาเพิ่มทางเลือกในการส่งเสริมการศึกษาผ่านการเรียนรู้ตลอดชีวิต นายสุภัทร กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นหน่วยงานทางการศึกษาที่ดูแลการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้บริการแก่ผู้เรียนและประชาชนโดยเฉพาะการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เรียนที่อายุเกิน 15 ปีขึ้นไปเป็นหลัก และมีผู้เรียนในพื้นที่ห่างไกลราว 20,000 รายที่อายุต่ำกว่า 15 ปี โดยในปีการศึกษา 2564 มีผู้เรียนจำนวนแปดแสนกว่าคนจัดเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ถูกผลักออกจากระบบการศึกษา ซึ่งเป็นผู้ด้อย พลาด ขาดโอกาสทางการศึกษา ที่สำนักงาน กศน.ต้องดูแลรับผิดชอบการจัดการศึกษาให้เกิดความเท่าเทียมและเสมอภาคให้ได้มากที่สุด
สำนักงาน กศน.จัดเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน ที่หลากหลาย โดยมีสื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองของผู้เรียน ในสถานการณ์โควิด-19 ผ่านระบบออนไลน์ อาทิ ระบบโทรทัศน์เพื่อการศึกษา (ETV) ซึ่งมีสาระความรู้ในทุกสาระวิชาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและโครงการติวเข้มเติมเต็มความรู้ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) มีระบบคลังความรู้ กศน. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต (Thailand Knowledge Portal :TKP) โครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบการศึกษาออนไลน์ที่ส่งเสริมในระบบส่วนกลาง และสถานศึกษา กศน. ในระบบการจัดการเรียนรู้ผ่านระบบ LMS (Learning ManagementSystem) รวมถึงมีระบบสื่อการศึกษาออนไลน์ที่ผู้เรียนสามารถเข้าถึงผ่าน Video On demand ตลอดจนการส่งเสริมการศึกษาผ่านการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อลดความเลื่อมล้ำด้วยอินเทอร์เน็ตฟรีค่าใช้จ่าย ใช้งานได้จริง สร้างทางเลือกในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learning) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านอินเทอร์เน็ต ฟรีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้ เป็นผู้ชี้นำ การเรียนรู้ด้วยตนเองโดยประสานงานกับภาคีเครื่อข่ายต่าง ๆ สนับสนุนค่าเช่าบริการอินเทอร์เน็ตสำหรับตำบล 1,378 แห่ง เปรียบเสมือนห้องเรียนและเป็นศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบล เพื่อให้ผู้เรียนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตฟรีในการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการทางการศึกษาได้อย่างทั่วถึง
อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยการจัดการศึกษาแบบทางไกล (distance learning) ยังถือเป็นการศึกษาทางเลือกที่ต้องมีระบบ LMS หรือเป็นระบบส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยการจัดการศึกษาในระบบทุกระดับถึงอุดมศึกษายังใช้การเรียนแบบ Class room & Science lab. เป็นแนวทางหลัก
“กระทรวงศึกษาธิการยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสทางการศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่ประชาชนทุกช่วงวัยอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ เพื่อพัฒนาทักษะให้สอดคล้องกับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและหลากหลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีดิจิทัล และองค์ความรู้ต่าง ๆ ในศตวรรษที่ 21 มีศักยภาพในการเข้าร่วมพัฒนาสังคม ตลอดจนประเทศชาติให้ก้าวสู่สังคมที่เป็นธรรม ไม่มีความเหลื่อมล้ำ หรือคงเหลือความเหลื่อมล้ำให้น้อยที่สุด เท่าที่จะน้อยได้” นายสุภัทรกล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage