ราชกิจจานุเบกษา แพร่คำสั่ง ศบค.ปรับพื้นที่แดงเข้มเหลือ 7 จังหวัด พร้อมออกข้อกำหนด ฉบับ 37 รองรับแผนการเปิดประเทศ ปรับสมดุลด้านสาธารณสุข-เศรษฐกิจ มีผล 1 พ.ย.เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2564 ราชกิจจานุเบกษา แพร่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ที่ 19/2564 เพื่อปรับพื้นที่สถานการณ์ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ สีแดง เหลือ 7 จังหวัด ประกอบด้วย จันทบุรี ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา
นอกจากนี้ยังกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุด 38 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด
อ่านรายละเอียด : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/262/T_0013.PDF
วันเดียวกันนี้ยังแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 37) โดยระบุว่า เป็นการรองกรับแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และผ่อนคลายมาตรการ เพื่อให้การดำเนินกิจการและกิจกรรมของบุคคลและสถานที่ต่างๆ อยู่ภายใต้เงื่อนไขการควบคุมโรค รักษาสมดุลด้านความมั่นคงทางสาธารณสุขกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนให้ใกล้เคียงกับภาวะปกติ
โดยมีสาระสำคัญ รวม 9 ข้อ ดังนี้
1.ปรับพื้นที่สถานการณ์ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน
2.พื้นที่สีแดงเข้ม ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเกิน 50 คน , พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามเกิน 200 คน , พื้นที่ควบคุม ห้ามเกิน 500 คน , พื้นที่เฝ้าระวังสูง ห้ามเกิน 1,000 คน พื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมากให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข
ทั้งนี้ ห้ามมิให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดักงล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในพื้นที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) กำหนด
3.กิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่ได้รับการยกเว้น ประกอบด้วย การขนส่งหรือขนย้ายประชาชน , กิจกรรมเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล , กิจกรรมเกี่ยวกับการให้บริการ , การรวมกลุ่มของบุคคลตามปกติในที่พักอาศัย ที่ทำงาน การประชุม หรือการออกกำลังกายในสถานที่ตามที่ราชการกำหนด และกิจกรรมที่ดำเนินโดยเจ้าหน้าที่
4.การห้ามออกนอกเคหสถาน เฉพาะพื้นที่สูงสุดและเข้มงวด ตั้งแต่เวลา 23.00-03.00 น. โดยให้บังคับใช้ต่อเนื่องไปอย่างน้อย 15 วัน หรือจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564
5.การปฏิบัติงานนอกสถานที่ สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมถึง กทม.และปริมณฑล ให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการภาคเอกชน ดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งอย่างเต็มความสามารถที่หน่วยงานจะปฏิบัติได้
6.มาตรการควบคุมแบบบูรณาการจำแนกตามพื้นที่สถานการณ์ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำกับดูแลและติดตามการดำเนินการของสถานที่ ให้เป็นไปตามมาตการความปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID-Free Setting)
7.การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยภายในพื้นที่ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เสนอต่อ ศปก.ศบค. เพื่อตรวจสอบ กลั่นกรอง และเสนอให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาปรับระดับความเข้มข้นหรือผ่อนคลายพื้นที่ได้
8.มาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้ดำเนินมาตรการควบคุมแบบบูรราการเพื่อการเปิดสถานที่ กิจการ และกิจกรรมสำหรับพื้นที่สถานการณ์ที่จำแนกเป็นเขตพื้นที่เฝ้าระวัง และตามมาตรการและข้อปฏิบัติต่างๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 36
9.การเตรียมความพร้อมของสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคทั่วราชอาณาจักร สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั่วราชอาณาจักร ยังมีความจำเป็นให้ปิดดำเนินการไว้ก่อน โดยผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการเพื่อให้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่อนคลายได้ตามแผนและกรอบเวลาที่รัฐบาลจะประกาศกำหนดต่อไปได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
อ่านรายละเอียด : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/262/T_0001.PDF
นอกจากนั้น ราชกิจจานุเบกษา ยังแพร่คำสั่ง ศบค.ที่ 20/2564 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 18 เพื่อกำหนดให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร จะต้องมีหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificat of Entry – COE) และต้องมีกรรมธรรม์ประกันภัยครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล วงเงินไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมถึง ให้มีการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกต้องใช้วิธี RT-PCR และห้ามเดินทางออกนอกโรงแรมหรือสถานที่พักจนกว่าจะมีผลการตรวจยืนยันว่าปลอดเชื้อโควิด และครั้งที่ 2 ให้ตรวจด้วย ATK ระหว่างวันที่ 6-7 ของระยะเวลาที่อยู่ในราชอาณาจักร
อ่านรายละเอียด : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/262/T_0014.PDF
ข่าวประกอบ :
-
ศบค.เคาะปรับโซนสีพื้นที่ ยกเลิกเคอร์ฟิว ยกเว้น 7 จังหวัดแดงเข้ม เริ่ม 1 พ.ย.
-
สธ.เผยแผนเผชิญเหตุหากโควิดกลับมาระบาดหนัก พร้อมชะลอ-ยุติรับนักท่องเที่ยว
-
กทม.คลายล็อกโควิด ดื่มสุราได้ถึง 3 ทุ่ม เฉพาะร้านมาตรฐาน SHA - ผับ บาร์ อาบอบนวด ยังปิด
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage