กรมสอบสวนคดีพิเศษจับกุมตัวผู้ต้องหาค้ามนุษย์ กรณี หลอกลวงหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณี ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ตามนโยบายรัฐบาลและนโยบายนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ตระหนักถึงปัญหาการค้ามนุษย์ เน้นด้านการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ให้หน่วยงานดำเนินการ อย่างจริงจังและเร่งด่วน โดยนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาการค้ามนุษย์ดังกล่าว จึงได้ขับเคลื่อนงานตามนโยบายฯ และได้กำชับ สั่งการให้กองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการประสานงานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่ามีหญิงไทยถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี ณ ประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ มีการหน่วงเหนี่ยว กักขัง ยึดหนังสือเดินทาง และบังคับให้ค้าประเวณี จึงทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถหลบหนีออกจากร้านได้ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่กรมตำรวจนครดูไบ เข้าตรวจค้นจับกุม ผู้เสียหายจึงเข้าแสดงตน เพื่อขอความช่วยเหลือให้ได้เดินทางกลับประเทศไทย จึงส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการ ตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้สั่งการให้กองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดีพิเศษ ที่ 8/2564 โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวน คดีพิเศษ ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาหญิงชาวไทย จำนวน 1 ราย ตามหมายจับของศาลอาญา ได้ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ตามความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และ ได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน โดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใดโดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบฯลฯ
สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ คือการเป็นผู้ชักชวนผู้เสียหายให้เดินทางไปทำงานนวด ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีรายได้ดี เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อได้เดินทางไปยังนครดูไบ แต่เมื่อเดินทางไปถึงแล้วกลับตกอยู่ในสภาพถูกบังคับให้ทำงานค้าประเวณี และถูกเจ้าของร้านยึดหนังสือเดินทาง อีกทั้งยังต้องตกอยู่ในสภาพหนี้สินที่แอบแฝงมาในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งก่อนที่จะเดินทางผู้เสียหายไม่เคยทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวมาก่อน หากผู้เสียหายไม่ยอมทำงานค้าประเวณีก็จะไม่มีเงินดำรงชีพ และไม่สามารถหลบหนีได้เนื่องจากถูกยึดหนังสือเดินทาง ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะดำเนินการขยายผล ถึงขบวนการซึ่งเป็นบุคคลชาวต่างชาติและดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป
กรมสอบสวนคดีพิเศษมีความมุ่งมั่นในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันและปราบปรามคดีด้านการ ค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง จึงขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลซึ่งเป็นนายหน้าอ้างว่ามีงานนวด ในต่างประเทศมีรายได้ดี อยู่กินสุขสบาย ไม่มีการบังคับขายบริการทางเพศ อาทิ สาธารณรัฐเกาหลี ประเทศมาเลเซีย หรือประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ราชอาณาจักรบาห์เรน เป็นต้น ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวง ทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ หรือทางสายด่วน 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวน คดีพิเศษ จะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ