กกต.แจ้งทุกพรรคการเมือง เตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงเลือกตั้งครั้งหน้า 'พ.ต.อ.จรุงวิทย์' ยืนยันเป็นขั้นตอนตามปกติ ไม่เกี่ยวกระแสข่าวยุบสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำหนังสือลงวันที่ 1 ต.ค.2564 ส่งถึงหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคการเมือง เรื่อง การเตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป โดยระบุว่า ตามที่ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมืองได้มีหนังสือแจ้งหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคการเมืองเพื่อโปรดทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในเรื่องสมาชิกพรรคการเมืองการจัดตั้งสาขาพรรดการเมือง การแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด การประชุมใหญ่สาขาพรรคการเมือง การประชุมใหญ่พรรคการเมือง และการเตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น
กกต.ขอเรียนว่า ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป กฎหมายกำหนดให้พรรคการเมืองซึ่งประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้น ดังนั้น เพื่อให้พรรคการเมืองได้เตรียมความพร้อมและดำเนินการเกี่ยวกับการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป จึงขอให้พรรคการเมืองตำเนินการ ดังนี้
1.การดำเนินการให้มีสมาชิกพรรคการเมือง พรรคการเมืองต้องดำเนินการตามมาตรา 24 มาตรา 25 มาตรา 26 มาตรา 27 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 ข้อ 24 ข้อ 25 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2563 และประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง สมาชิกพรรคการเมือง พ.ศ. 2564 โดยเฉพาะการบันทึกข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองในระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองให้เป็นปัจจุบัน เพื่อใช้ในการตรวจสอบการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองการจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง การแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด การประชุมใหญ่สาขาพรรคการเมืองการประชุมใหญ่พรรคการเมือง การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของพรรคการเมือง สาขาพรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้สมัครเข้ารับเลือก เป็นสมาชิกวุฒิสภา เป็นต้น
2.การจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง กรณีที่พรรคการเมืองได้จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองไว้แล้ว ตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 โดยมีเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบทั้งจังหวัด หากประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดในจังหวัดนั้น พรรคการเมืองต้องเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบจากทั้งจังหวัดเป็นเฉพาะเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น โดยต้องมีที่ตั้งสาขาพรรคการเมืองและคณะกรรมการสาขาพรรคการเมืองอยู่ในเขตเลือกตั้งนั้น และต้องมีสมาชิกพรรคการเมืองที่มีภูมิลำเนาในเขตเลือกตั้งนั้นตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป และแจ้งต่อนายทะเบียนพรรดการเมือง ตามมาตรา 33 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หากไม่ดำเนินการดังกล่าว พรรคการเมืองจะไม่สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้นได้ หรือจะไม่สามารถแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้นได้ เพราะจะชัดกับ มาตรา 35 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
กรณีที่พรรคการเมืองยังมิได้ฉัดตั้งสาขาพรรคการเมืองตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง (2) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 หากประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ก็จะต้องดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองให้เป็นไป ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 33 วรรคหนึ่ง (2) ประกอบประกาศนายทะเบียนพรรการเมือง เรื่อง การจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด พ.ศ. 2563โดยที่สาขาพรรคการเมือง แต่ละสาขาต้องมีสมาชิกพรรคการเมืองที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสาขาพรรคการเมือง ตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป โดยมีเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของสาขาพรรคการเมืองเฉพาะเขตเลือกตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่ง ทั้งนี้ สาขาพรรคการเมืองที่จัดตั้งตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง (2) เป็นองค์ประกอบหนึ่งขององค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 49 แห่ง พ.ร.ป. ฉบับเดียวกัน
3.การแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด กรณีที่พรรคการเมืองยังมิได้แต่งตั้ง ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดตามมาตรา แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หากประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จักต้องตำเนินการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 35 ประกอบประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด พ.ศ. 2563 โดยที่ในเขตเลือกตั้งนั้นต้องมีสมาชิกซึ่งมีภูมิลำเนาในเขตเลือกตั้งนั้นเกินหนึ่งร้อยคน ทั้งนี้ ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดเป็นองค์ประกอบหนึ่งขององค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองตามมาตรา 39 วรรคหนึ่งแห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 49 วรรคสอง แห่ง พ.ร.ป.ฉบับเดียวกัน
4.การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อมีกรณีที่ต้องสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมืองต้องจัดให้มีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประกอบด้วยบุคคลและจำนวนตามที่กำหนดในข้อบังคับพรรคการเมือง ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยกรรมการบริหารพรรคการเมือง ไม่เกินกึ่งหนึ่งของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง หัวหน้าสาขาพรรคการเมือง และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ทั้งนี้ จำนวนหัวหน้าสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรคการเมือง แต่อย่างน้อยต้องมีหัวหน้าสาขาพรรคการเมืองไม่น้อยกว่าสี่สาขา ซึ่งมาจากต่างภาคกันตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดตามมาตรา 33 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ทั้งนี้ การได้มาซึ่งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต้องกระทำการเลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองโดยวิธีการลงคะแนนลับ
การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมืองต้องดำเนินการตามมาตรา 50 และมาตรา 51 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และจะดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้เป็นการล่วงหน้าก่อนวันประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ได้ การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งหากพรรคการเมืองไปดำเนินการภายหลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อาจจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ไม่ทันนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
5.การดำเนินกิจกรรมตามข้อ 1-5 บางกิจกรรมสามารถดำเนินกิจกรรมไปพร้อมกันได้ อนึ่ง หากร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พุทธศักราช ... มีผลใช้บังคับพรรคการเมืองต้องปฏิบัติตามร่างรัฐรรมนูญ ฉบับดังกล่าว กฎหมาย รวมตลอดทั้งระเบียบประกาศและคำสั่งของ กกต. หรือนายทะเบียนพรรคการเมือง แล้วแต่กรณี
ขณะที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ เปิดเผยว่า การออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามปกติ เป็นขั้นตอนการประสานงานกับพรรคการเมืองให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยมีหนังสือแจ้งให้พรรคการเมืองได้เตรียมความพร้อมไปหลายฉบับแล้ว และออกมาอย่างต่อเนื่องตลอด เนื่องจากพรรคการเมืองต้องมีสมาชิกพรรคทั้งใหม่และเก่า รวมทั้งถ้าหากจะมีการเลือกตั้งสิ่งที่หนักที่สุดสำหรับพรรคการเมือง คือ ต้องมีสาขาพรรค หรือตัวแทนการเมืองประจำจังหวัดทุกเขตเลือกตั้ง จึงเป็นงานหนักของพรรค ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแจ้งเตือนพรรคการเมืองตลอด
“เมื่อเป็นกฎหมายใหม่ ไม่เหมือนเดิม นายทะเบียนพรรคการเมืองซึ่งมีหน้าที่ดูแลก็ต้องแจ้งให้พรรคการเมืองเตรียมตัวให้พร้อม” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
เมื่อถามว่า หนังสือดังกล่าวออกมาตรงกับช่วงกระแสข่าวที่จะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวยืนยันว่า การออกหนังสือไม่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวดังกล่าวแน่นอน เป็นการส่งหนังสือแจ้งตามปกติ
ที่มา : https://mgronline.com/politics/detail/9640000097845
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage