ธปท.เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นฯผู้ประกอบการ ‘ที่พักแรม’ พบอัตราเข้าพักเดือน ก.ค.เฉลี่ยอยู่ที่ 10% เผย 58% มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน เรียกร้องรัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วกว่าแผน
........................
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม ซึ่งสำรวจจากผู้ประกอบการที่พักโรงแรม 304 แห่ง (ในจำนวนนี้เป็น ASQ 28 แห่ง และ Hospitel 4 แห่ง) ระหว่างวันที่ 13-26 ก.ค.2564 พบว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยในเดือน ก.ค.2564 อยู่ที่ 10% ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน
ทั้งนี้ หากไม่รวมกลุ่มที่ปรับตัวมารับลูกค้าต่างชาติที่ทำงานในไทย และ workation staycation รวมทั้งกลุ่มที่เปิดรับนักท่องเที่ยวตามโครงการ sandbox (ส่วนมากเป็นรายใหญ่) พบว่าอัตราเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 6.5%
ขณะเดียวกัน จากการสำรวจผู้ประกอบการโรงแรม 272 แห่ง (ไม่รวมโรงแรมที่เป็น ASQ และ Hospitel) พบว่า 56% ของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราว คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งในไตรมาส 4/2564 และ 57% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด รายได้ยังกลับมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ขณะที่ผู้ประกอบการ 58% มีสภาพคล่องลดลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และเพียงพอในการดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือน
“ผู้ประกอบการที่พักแรมยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ต่อเนื่อง โดยอัตราเข้าพักยังอยู่ในระดับต่ำมาก ส่งผลให้เกือบ 60% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ มีสภาพคล่องลดลงจากเดือนก่อน และเพียงพอในการดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน ขณะที่การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติส่งผลบวกต่ออัตราการเข้าพักโดยรวมไม่มากนัก” ผลสำรวจของ ธปท. ร่วมกับสมาคมโรงแรมระบุ
สำหรับผลสำรวจเกี่ยวกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น พบว่า 69% ของผู้ประกอบการ เห็นด้วยกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่เป็นโรงแรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
ส่วนมาตรการช่วยเหลือที่ผู้ประกอบการที่พักแรมต้องการ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ได้แก่ การจัดหาและกระจายวัคซีนให้เร็วกว่าแผน ปรับจากอันดับ 4 ในการสำรวจครั้งก่อน อันดับ 2 การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย และอันดับ 3 การสนับสนุนค่าจ้างพนักงานเดิม
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/