ธปท.ออกแนวปฏิบัติการใช้เทคโนโลยี 'บล็อกเชน' ในการให้บริการทางการเงิน กำหนดแนวทางการบริหารความเสี่ยง 'ด้านไอที-กฎหมาย'
..................
เมื่อวันที่ 27 ก.ค. น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ออกแนวปฏิบัติการใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการให้บริการทางการเงิน เพื่อให้ผู้ให้บริการทางการเงินภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. ใช้เป็นแนวทางในการนำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าผู้ใช้บริการ และองค์กรธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้มีความปลอดภัยและความเชื่อมั่นแก่ประชาชนผู้ใช้บริการทางการเงินในโลกการเงินยุคดิจิทัลในอนาคต
สำหรับแนวปฏิบัติฉบับนี้เป็นกรอบหลักการในการนำเทคโนโลยี Blockchain มาพัฒนานวัตกรรมทางการเงินควบคู่ไปกับการดูแลความเสี่ยงอย่างรัดกุม โดยผู้ให้บริการทางการเงินภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. สามารถนำมาปรับใช้กับบริการทางการเงินที่มีการประยุกต์ใช้ Blockchain โดยเฉพาะในรูปแบบ Private Blockchain Network โดยเนื้อหาของแนวปฏิบัติ Blockchain ประกอบด้วยสาระสำคัญ 4 ส่วน ได้แก่
1) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในทางธุรกิจ
2) การกำกับดูแลการใช้เทคโนโลยี Blockchain
3) การบริหารจัดการความเสี่ยงด้าน IT
4) การบริหารความเสี่ยงทางกฎหมาย
ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้กำกับดูแลของ ธปท. นำแนวปฏิบัติฉบับนี้ไปปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bot.or.th/Thai/FIPCS/Documents/FOG/2564/ThaiPDF/25640101.pdf
ทั้งนี้ เทคโนโลยี Blockchain มีศักยภาพในการพัฒนาภาคการเงินเนื่องจากมีคุณสมบัติสำคัญเรื่องการกระจายข้อมูลจัดเก็บ การเข้ารหัสข้อมูล การเชื่อมต่อกันโดยอ้างอิงจากข้อมูลก่อนหน้า ทำให้การบริหารจัดการข้อมูลในเครือข่าย Blockchain มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ ข้อมูลใน Blockchain ถูกปลอมแปลงแก้ไขได้ยาก และช่วยลดขั้นตอนการทำงาน
ส่งผลให้ต้นทุนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลต่ำลง ทำให้ประสิทธิภาพการดำเนินงานสูงขึ้น และสามารถนำไปพัฒนาบริการทางการเงินได้หลากหลาย ซึ่งในปัจจุบันภาคการเงินของไทยมีการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้มากขึ้น เช่น การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลธุรกรรมการเงิน การโอนเงินระหว่างประเทศ การออกหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินต่างๆ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/