เปิดโครงการ 'Fah First Aid' นำยาฟ้าทะลายโจรเป็นทางเลือกช่วยรักษาผู้ป่วยโควิดอาการน้อย-ไม่มีอาการ พร้อมให้คำปรึกษาในเชิงข้อมูล ประชาชนทั่วไปสามารถขอรับข้อมูลได้ ย้ำแม้ยาฟ้าทะลายโจรจะมีคุณค่ามาก แต่ยังมีข้อจำกัด หญิงท้อง-หญิงให้นมบุตรยังไม่ควรใช้ และไม่ควรกินในเชิงป้องกัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน
............................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2564 พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวในประเด็นวิธีการใช้ยาฟ้าทะลายโจรและผลการใช้ในภาคสนามว่า ยาฟ้าทะลายโจรไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นยาสามัญประจำบ้านที่ใช้รักษาการหวัดมานานแล้วตั้งแต่ปี 2542 ล่าสุดไม่เพียงใช้รักษาโรคหวัดเท่านั้น มีงานวิจัยรองรับชัดเจนว่าฟ้าทะลายโจร เป็นทางเลือกในการรักษาโควิด ตั้งแต่ระยะเริ่มติดเชื้อ
พญ.อัมพร กล่าวอีกว่า สิ่งที่สำคัญในการรักษาโควิด อยู่ที่ตัวยาที่มีชื่อว่า แอนโดรกราโฟไลด์ หรือ Andrographolide ซึ่งจะต้องกินให้ได้รับ180 มิลลิกรัมต่อวัน กล่าวคือต้องกินในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่าจากการกินเพื่อรักษาหวัดตามปกติ เนื่องจากผลการศึกษาระบุว่าหากจะรักษาโควิดจะต้องกินยาในปริมาณที่มากพอ ต้องรีบกินยาโดยเร็ว
"ในการรักษาหวัด อาจมีการระบุขนาดยาไว้เพื่อให้ได้แอนโดกราโฟไลด์ประมาณ 60 มิลลิกรัม หรือกิน 4 เม็ดต่อมื้อ วันละ 3 มือ ดังนั้นพอจะเอามารักษาโควิด คิดง่ายๆ เพิ่มขึ้น 3 เท่า จากกินเพียง 4 เม็ด จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 12 เม็ดต่อมื้อ แล้วก็คงจำนวนมื้อ ไว้ที่ 3 มื้อเช่นเดิม" พญ.อัมพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ยาฟ้าทะลายโจรจะมีความปลอดภัยมาก แต่ยังมีข้อจำกัดและข้อควรระวังคือ ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ คือ คนที่มีผื่นลมพิษ ปากบวม ตาบวม หรือหน้าบวมขึ้นมาหลังจากกินยาฟ้าทะลายโจร นอกจากนั้นยังห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงในนมบุตร เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่มากพอ อาจเสี่ยงทำให้ทารกผิดปกติได้ ดังนั้นจึงไม่อยากให้เสี่ยง
ทั้งนี้ยาฟ้าทะลายโจรอาจมีคุณค่ามาก แต่ยังมีข้อควรระวังด้วยเช่นกันคือ หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรงได้ และควรระมัดระวังกับการใช้ร่วมกับสารกันเลือดเป็นลิ่ม ยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด และยาลดความดันเลือด เพราะอาจเสริมฤทธิ์กันได้
นอกจากนี้ ยาฟ้าทะลายโจรอาจจะช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่มีงานวิจัยไหนรองรับชัดเจนว่าสามารถป้องกันได้ ดังนั้นเราจึงไม่แนะนำให้กินป้องกัน ตรงกันข้ามให้ใช้ในกรณีรักษา เพียงแต่จะต้องรักษาให้เร็ว ในกลุ่มโรคหวัดแนะนำให้กินติดต่อกันเพียง 3 วัน เช่นเดียวกันกับกลุ่มผู้ป่วยโควิดจะแนะนำให้กินติดต่อกันเพียง 5 วันเท่านั้น
สำหรับผลการนำยาฟ้าทะลายโจรไปใช้ในภาคสนาม 2 แห่ง พบว่า ในเรือนจำนนทบุรี ใช้ทั้งสิ้น 1,300 ราย พบปอดบวม 50 ราย คิดเป็น 3.85% และในโรงพยาบาลบุษราคัม ใช้ทั้งสิ้น 525 ราย พบปอดบวม 20 ราย คิดเป็น 3.81% ส่วนการพบอาการข้างเคียงส่วนใหญ่จะมีอาการท้องเดิน คลื่นไส้ วิงเวียนอาเจียน ผื่น ลมพิษ ชามือ ชาเท้า อย่างไรก็ตามเมื่อหยุดยาทุกอย่างจะดีขึ้น ไม่เกิดปัญหาหรือความรุนแรงใดๆ
พญ.อัมพร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันได้มีโครงการ Fah First Aid เพื่อให้ได้รับคำปรึกษาปฐมพยาบาลในเชิงข้อมูลและกระบวนการรักษาตั้งแต่เริ่มแรก ซึ่งผู้สัมผัสเสี่ยงที่เริ่มมีอาการระหว่างรอผลตรวจหาเชื้อและรู้สึกเคว้งคว้าง สามารถขอปรึกษารับยาฟ้าทะลายโจรได้ และเมื่อทราบว่าติดโควิดแล้วและแพทย์พิจารณาให้สามารถกินยาฟ้าทะลายโจรได้ในกลุ่มผู้ป่วยอาการน้อย และไม่มีอาการ เมื่อผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาด้วยาฟ้าทะลายโจรที่มีแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 5 วัน
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่สนใจในเชิงข้อมูล พญ.อัมพร กล่าวอีกว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องรอให้ติดเชื้อได้ สามารถแสกนคิวอาร์โค้ด กรอกข้อมูล และแจ้งความประสงค์ว่าต้องการรับรู้ข้อมูลอะไร ต้องการให้ส่งข้อมูลอย่างไร และต้องการให้เราดูแลติดตามการรักษาอย่างไรบ้าง เนื่องจากเราคาดหวังว่าโครงการนี้ จะเป็นอีก 1 ทางเลือกที่จะร่วมช่วยกันในการให้ประชาชนกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/