"...ก่อนหน้านี้ มีผู้ติดเชื้อโควิดในจังหวัดตรังหลายราย ที่เข้าข่ายลักษณะมีไทม์ไลน์ที่ได้รับข้อสงสัย ว่ามีการปกปิดข้อมูล จากการไปร่วมกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน หรือไม่? อาทิ ไทม์ไลน์ สามี ภรรยา คู่หนึ่ง ที่โลกออนไลน์ระบุว่าเป็น ไทม์ไลน์ VIP เพราะมีเส้นสายรู้จักคนใหญ่คนโตในจังหวัด อ้างว่า ช่วงเวลา 9 วัน อยู่แต่ที่สวนทุเรียน ที่คนในพื้นที่ก็รู้กันดีว่า เบื้องหลังสวนทุเรียนแห่งนี้ แท้จริงทำกิจกรรมอะไรกันอยู่ หรือกรณีไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ 2-3 ราย ที่อ้างว่าไปพักโรงแรมแห่งหนึ่ง เป็นแรมเดือน บางรายมีภูมิลำเนา มีบ้านพักในพื้นที่ แต่กลับพักที่โรงแรม แถมทำกิจกรรมซ้ำเดิมติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะกิจกรรมช่วงเวลากลางคืนที่ยังคงเป็นปริศนา และเหมือนกันทุกวัน เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมโซเชียล..."
........................................
กลายเป็นประเด็นร้อนของชาวจังหวัดตรังขึ้นมาทันที!
ต่อกรณีไทม์ไลน์ก่อนการติดเชื้อโควิดลูกจ้างประจำของเทศบาลตำบลห้วยยอด จังหวัดตรัง รายหนึ่ง อายุประมาณ 54 ปี ที่ปรากฎข้อมูลต่อสาธารณชนว่า ในช่วงเช้าของทุกวันเวลาประมาณ 07.30 น. จะเดินทางมาเซ็นชื่อปฏิบัติงานที่เทศบาล จากนั้นเวลา 08.00 น. จะไปอยู่ที่คอกวัว ต.ห้วยยอด ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น ในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. - 24.00 น. แจ้งว่าจะไปอยู่ที่บ้านเพื่อน ต.ห้วยยอด ก่อนที่ในช่วงเวลา 00.30-02.00 น. จะขับรถพาภรรยาออกไปซื้อของที่ตลาดท่ากลางในอ.เมือง แล้วกลับมาขายของในตลาดศุภผล อ.ห้วยยอด ซึ่งมีการร้องเรียนมาจาก สมาชิกชมรมตรังต้านโกง
อันนำมาซึ่งข้อสงสัยหลายประการ อาทิ ทำไมเป็นลูกจ้างประจำลงชื่อที่เทศบาลแต่ไปเลี้ยงวัว เป็นลูกจ้างประจำกินเงินเดือนประจำ เสมือนข้าราชการ แต่ทำไมไม่ทำงานจนครบเวลาราชการทำไมกลับบ้านก่อนทุกวัน และที่สำคัญทำไมอยู่แต่บ้านเพื่อน บ้านเพื่อนที่ไปอยู่มีกิจกรรมทำอะไรกันอยู่ตลอดเวลา มีใครพยายามปกติข้อมูลไทม์ไลน์ที่แท้จริงหรือไม่?
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับคำชี้แจงจาก นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ว่า ได้สั่งการให้ท้องถิ่นเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกกรณีนี้อย่างเป็นทางการแล้ว ภายหลังได้รับรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากทางนายอำเภอห้วยยอด ว่า ไทม์ไลน์ ของ ลูกจ้างประจำของเทศบาลตำบลห้วยยอด จังหวัดตรัง ในช่วงเวลา 08.00 น. ที่ระบุว่า ไปอยู่ที่คอกวัว นั้น เป็นการไปรับจ้างเลี้ยงวัวชนของเพื่อนบ้าน ประมาณ 4-5 ตัว หลังจากที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดทำให้สนามวัวชนถูกสั่งปิดไปในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับไทม์ไลน์ ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. - 24.00 น. ของทุกวันที่ระบุว่าไปอยู่ที่บ้านเพื่อนนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง บอกว่า จะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกต่อว่าทำไมถึงต้องไปอยู่บ้านเพื่อนทุกวัน และที่สำคัญไปทำกิจกรรมอะไรกัน?
(อ่านประกอบ : เช้าเลี้ยงวัวชน-ข้อมูลบ้านเพื่อนยังไม่รู้! ผู้ว่าฯ ตรัง สั่งสอบไทม์ไลน์ลูกจ้างห้วยยอด, 10 โมง-เที่ยงคืน อยู่บ้านเพื่อนทุกวัน! นายกฯ ห้วยยอดตรัง สั่งสอบไทม์ไลน์ลูกจ้างติดโควิด)
ส่วน นายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น นายแพทย์ชำนาญการพิเศษโรงพยาบาลตรัง ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดตรัง(ศคบ.ตรัง) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวซึ่งมีการไลฟ์สดการแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดประจำวันของจ.ตรัง ถึงประเด็นร้อน ว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2564 นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบ กรณีข้อสงสัยในไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 จังหวัดตรังรายที่ 268 ซึ่งเป็นลูกจ้างของเทศบาลตำบลห้วยยอดแล้ว โดยมีท้องถิ่นจังหวัดตรังเป็นประธาน
“ในเรื่องการสอบสวนไทม์ไลน์และข้อเท็จจริงทั้งหลาย เป็นเรื่องที่ทางท้องถิ่นจังหวัดตรังจะได้ลงไปดำเนินการ เพื่อให้ความกระจ่างชัดแก่ประชาชน และการปกปิดไทม์ไลน์นั้นมีความผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับอยู่แล้ว ก็ต้องลงไปดูว่า ถ้าหากไม่ได้มีการปกปิดไทม์ไลน์ ก็อาจจะมีเรื่องของการที่จะผิดต่อระเบียบราชการหรือไม่ ทั้งนี้ต้องรอผลสอบของทางท้องถิ่นจังหวัดก่อน”น.พ.ตุลกานต์กล่าว
ผลการสอบสวนข้อมูลส่วนนี้ เป็นอย่างไร ต้องติดตามดูกันต่อไป
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับข้อมูลไทม์ไลน์บ้านเพื่อนปริศนาของลูกจ้างประจำเทศบาลตำบลห้วยยอดดังกล่าว หลังจากที่ปรากฎเป็นข่าวไปไม่นานนัก มีบุคคลหลายกลุ่มในจังหวัดตรัง โดยเฉพาะโลกออนไลน์ ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงกระแสเรียกร้องให้ กระบวนการตรวจสอบรับรองไทม์ไลน์ที่ดูเหมือนจะมีข้อบกพร่องหลายประการ
บทกำหนดโทษการปกปิด ปิดบัง ข้อมูลการสอบสวนโรค อันส่งผลกระทบต่อการแพร่ระบาด ซึ่งมีทั้งโทษปรับและจำคุก ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ นั้น ต้องบังคับใช้อย่างเท่าเทียม ทั้งต่อประชาชน และ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
เพราะก่อนหน้านี้ มีผู้ติดเชื้อโควิดในจังหวัดตรังหลายราย ที่เข้าข่ายลักษณะมีไทม์ไลน์ที่ได้รับข้อสงสัย ว่ามีการปกปิดข้อมูล จากการไปร่วมกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน หรือไม่?
อาทิ ไทม์ไลน์ สามี ภรรยา คู่หนึ่ง ที่โลกออนไลน์ระบุว่าเป็น ไทม์ไลน์ VIP เพราะมีเส้นสายรู้จักคนใหญ่คนโตในจังหวัด อ้างว่า ช่วงเวลา 9 วัน อยู่แต่ที่สวนทุเรียน ที่คนในพื้นที่ก็รู้กันดีว่า เบื้องหลังสวนทุเรียนแห่งนี้ แท้จริงทำกิจกรรมอะไรกันอยู่
หรือกรณีไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ 2-3 ราย ที่อ้างว่าไปพักโรงแรมแห่งหนึ่ง เป็นแรมเดือน บางรายมีภูมิลำเนา มีบ้านพักในพื้นที่ แต่กลับพักที่โรงแรม แถมทำกิจกรรมซ้ำเดิมติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะกิจกรรมช่วงเวลากลางคืนที่ยังคงเป็นปริศนา และเหมือนกันทุกวัน เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมโซเชียล
ขณะที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เขตเลือกตั้งที่ 2(อำเภอห้วยยอด) พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกโพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กแฟนเพจ “FC ผู้ใหญ่ตาน คนบ้านเรา” ต่อเนื่องเป็นตอนที่ 2 โดยลงภาพคำสั่งสำหนักนายกรัฐมนตรี ที่ 9/2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พร้อมภาพ QR-code ของศูนย์ปฏิบัติการการตรวจสอบการกระทำผิดกรณีสถานที่เล่นการพนัน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ให้ประชาชนแจ้งเบาะแสบ่อนการพนันในพื้นที่
พร้อมระบุให้เมืองตรังต้องปิดบ่อนเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาด เนื่องจากมีเสียงวิจารณ์ของชาวตรังตอนนี้ คือเรื่องไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อรายหนึ่งที่ ชาวบ้านสงสัยว่า มีบางอย่างปกปิด และเชื่อกันว่าเกี่ยวกับ บ่อนการพนัน
นายสาทิตย์ระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ตนเคยพูดในตอนไลฟ์สดว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่าตรังยังมีการเปิดบ่อนการพนัน ทั้งบ่อนวิ่งที่เกี่ยวพันกับผู้กว้างขวาง ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นคนระดับมีตำแหน่งการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ซึ่งต้องตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ และว่ากันว่ามีบ่อนถาวรของผู้มีอิทธิพลที่เจ้าหน้าที่เกรงใจรายหนึ่ง ขอให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและจัดการทันที มิเช่นนั้น จะกลายเป็นสถานที่เสี่ยง ไม่แน่อาจเหมือนตอนระบาดใหญ่จากบ่อนที่ระยองที่เคยเป็นข่าว
“เสียงสะท้อนของชาวบ้านครั้งนี้ได้ถามถึงความเที่ยงตรงและความจริงใจในการ ป้องกันและจัดการการระบาดของโควิด ว่าทำหน้าที่ตรงไปตรงมาเสมอหน้าหรือไม่ เช่น ให้ชาวบ้านต้องกักตัว เสียสละ ปิดตลาดขายของไม่ได้ในบางแห่ง แต่ทำไมกลับมีการเปิดบ่อนได้? ชาวบ้านต้องการให้บังคับใช้กฎหมายเท่ากัน ไม่ละเว้นคนมีเส้นมีสาย เพราะถ้าติดโควิดขึ้นมา สุดท้ายรัฐก็ต้องจ่ายค่ารักษาอยู่ดี วันนี้เสียงที่ชาวบ้านร้องเรียนเริ่มหนาหูขึ้น ยิ่งมีเรื่องไทม์ไลน์ผู้ป่วยยืนยัน ตรังเราจะนิ่งเฉยได้อย่างไร อย่างแรกต้องสอบหาไทม์ไลน์ที่แท้จริงและเปิดเผยให้คนรู้ อย่างที่สอง ต้องปิดบ่อนทันที อย่าให้ตรังมีกรณีแบบบ่อนระยอง และมีผู้ต้องหาแบบหลงจู๊คนดัง ที่สำคัญอย่าให้มีคลัสเตอร์บ่อนเมืองตรังเกิดขึ้น ไม่ควรมีเจ้าหน้าที่ต้องถูกย้ายเพราะบ่อน และคนตรังที่ติดโควิดจากบ่อนต้องไม่เกิดขึ้น”นายสาทิตย์ระบุ
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับปัญหาเรื่องการลักลอบเล่นการพนันในจังหวัดตรังนั้น นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า ได้กำชับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมไปถึงฝ่ายปกครอง ให้จับตาตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ถ้าหากพบว่า จุดไหนยังมีการลักลอบเล่นเกิดขึ้น จะต้องมีการลงโทษอย่างเด็ดขาดแน่นอน
แต่มีข้อมูลเชิงลับในพื้นที่ยืนยันว่า ปัญหาการเปิดบ่อนพนัน ในพื้นที่จังหวัดเป็นเรื่องที่ยากต่อการปราบปรามให้หมดสิ้นไปได้
ว่ากันว่า พงศสาวดารธุรกิจสีดำ จำพวกบ่อน ในจังหวัดตรัง เริ่มดำเนินกิจการกันมาตั้งแต่ก่อนปี 2544 แล้ว กลุ่มคนที่ดำเนินการเป็นขาใหญ่ ชาวบ้านมีประปราย จนมาถึงยุคหลังๆ โยงใยคนมีสีหลายสีอำนวยความสะดวก นำส่งน้ำร้อนน้ำชาเดือนละหลายกิโลเข้ามาที่ส่วนกลาง กทม. แม้จะมีสถานการณ์โควิด แต่ก็ยังเปิดให้บริการนักพนันต่อเนื่อง
ขณะที่ ธุรกิจสีดำเหล่านี้ ในจังหวัด ก็มีผู้ใหญ่ค่อยเป็นหูเป็นตาให้ จึงทำให้ไม่มีใครกล้าไปแตะต้อง และไม่กล้าพูดถึง ทำให้เกิดความวิตกกังวลของชาวบ้านในพื้นที่ว่า ธุรกิจสีดำเหล่านี้ คือ ช่องโหว่สำคัญในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดจำนวนมากของจังหวัดตรังในช่วงที่ผ่านมา หรือไม่?
ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด อันมีผลเชื่อมโยงมาจากธุรกิจบ่อนพนัน จึงเป็นสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวลอย่างมาก สำหรับทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่เว้นแม้แต่จังหวัดตรัง ณ ห้วงเวลานี้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/