เผยโฉมเอกสารคำสั่ง ปปง.ยึดอายัดทรัพย์ 3 ลอต ก๊วน ‘บรรเทิง เปียฉ่ำ-หลงจู๊ สมชาย - ธนา จุติกิติ์เดชา’ กับพวก เจ้าของบ่อนมาบตาพุด จ.ระยอง 221 รายการ 810.9 ล้าน เงินฝาก ที่ดินสิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ ในชื่อเครือญาติบริวาร
.................................
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สิน นายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก นายสมชาย จุติกิติ์เดชา (หลงจู๊สมชาย) นายธนา จุติกิติ์เดชา ลูกชาย บุคคลต่างๆ รวม 3 ครั้ง ทรัพย์สิน 221 รายการ มูลค่า 810,917,061.66 บาท เป็นเจ้าของบ่อนการพนันภายในซอยธนาคารธนชาต ถนนสุขุมวิท ตําบลมาบตาพุด อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง (บ่อนพนัน RJ มาบตาพุด) พบวงการเล่นพนันเอาทรัพย์สิน กันโดยไม่ได้รับอนุญาตแบ่งออกเป็น 3 วง ได้แก่ วงพนันเสือมังกร วงพนันไฮโลว์ และวงพนันเครื่องสล็อต แมชชีน (เครื่องผลไม้)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รวมรวมคำสั่ง ยึดและอายัดทรัพย์สิน นายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา (หลงจู๊สมชาย) นายธนา จุติกิติ์เดชา กับพวก มารายงาน
คำสั่งแรก คำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่ ย. 20/2564 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เรื่อง อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว รายนายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก กรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยมีวงเงินในการกระทําความผิดรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป จํานวน 35 รายการ(บัญชี) พร้อมดอกผล ในชื่อบุคคล จำนวน 11 คน ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากในชื่อ น.ส.ทองฤดี วงษ์นิยม , นายสมชาย จุติกิติ์เดชา (หลงจู๊สมชาย) , นายธนา จุติกิติ์เดชา ลูกชาย , น.ส.ทองฤดี วงษ์นิยม น.ส.วรรรณธณี เสงี่ยมศิลป์ และพันโท จรูญ เสงี่ยมศิลป์,น.ส.สุวภา เพิ่มศรีสุข ,นายสมชาย จุติกิติ์เดชา และนายดำรงค์ แซ่โง้ว ,น.ส.ธัญวรัตน์ พิเศษสุทธิกุล ,นายน้อย วงษ์นิยม ,นายอนุวัตร์ เอกจีน, น.ส.อุไรวรรณ วงษ์นิยม รวมมูลค่า 7,579,307.54 บาท (ดูตาราง)
คำสั่งที่สอง คำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่ ย. 22/2564 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เรื่อง อายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) รายนายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก จำนวน จํานวน 42 รายการ (บัญชี) รวมมูลค่า 6,697,754.12 บาท ในชื่อบุคคลรวม 15 คน ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากในชื่อ น.ส.อุไรวรรณ วงษ์นิยม, นายสมชาย จุติกิติ์เดชา ,นายสมชาย จุติกิติ์เดชา และนายดำรงค์ แซ่โง้ว,นายสมชาย จุติกิติ์เดชา และนายพงษ์ศักดิ์ สุรารักษ์ และนายอนุวัตร ศรีกันชัย , น.ส.ทองฤดี วงษ์นิยม , นายอนุวัตร เอกจีน,นายธนา จุติกิติ์เดชา , นายบรรเทิง เปียฉ่ำ,น.ส.ศิริพร พุทธามาตย์ ,นายน้อย วงษ์นิยม,น.ส.อุไรวรรณ วงษ์นิยม เพื่อเด็กหญิง พิริยาภรณ์ จุติกิติ์เดชา, น.ส.สุวภา เพิ่มศรีสุข,น.ส.พิริยาภรณ์ จุติกิติ์เดช ,นายเทอดศักดิ์ เชยกลิ่น (ดูตาราง)
คำสั่งที่สาม คําสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย. 52 /2564 ลงวันที่ 12 มี.ค.2564 เรื่องยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วครราว (เพิ่มเติม) ในคดีความผิดเกี่ยวกับการพนัน รายนายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก ทรัพย์สินต่างๆ รถยนต์ ที่ดินสิ่งปลูกสร้าง ในชื่อ บุคคลและนิติบุคคล(เช่าซื้อ) รวม 19 ราย จำนวน 144 รายการ รวมมูลค่า 796,640,000 บาท ได้แก่ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา ,นายดำรงค์ แซ่โง้ว, บริษัท บีเอ็ม ดับเบิ้ลยู ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด/นายดำรงค์ แซ่โง้ว ,บริษัท โตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด/นายดำรงค์ แซ่โง้ว, นายธนา จุติกิติ์เดชา, บริษัท โตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด/ นายธนา จุติกิติ์เดชา , น.ส.วันดี แซ่โง้ว, บริษัท ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด/น.ส.วันดี แซ่โง้ว, บริษัท โตโยต้าลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด/น.ส.วันดี แซ่โง้ว, ธนาคารธิสโก้ /น.ส.วันดี แซ่โง้ว, น.ส.อลิสา แจ้งสว่าง, บริษัท โตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด/น.ส.อลิสา แจ้งสว่าง , บริษัท โตโยต้าลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด/น.ส.อุไรวรรณ วงษ์นิยม , นายธนา จุติกิติ์เดชา และ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา, นายสมชาย จุติกิติ์เดชาและนายยศศักดิ์ วาจาสิทธิ์ ,น.ส.ทองดี วงษ์นิยม ,นายอนุวัตร เอกจีน,นายเฉลิมเกียรติ ศรีอัสดร ,นางอนุสรา ไชยวุฒิเลิศ (ดูตาราง)
สำหรับพฤติการณ์นายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก ตามที่ปรากฏในเอกสารคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม (ครั้งที่ 3) มีรายละเอียดดังนี้
ด้วยสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจาก กรมการปกครอง ตามหนังสือ ลับ ที่ มท 0307.11/1232 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 เรื่อง ขอให้ สํานักงาน ปปง. ดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในคดีความผิดเกี่ยวกับการพนัน รายนายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยมีวงเงินในการกระทําความผิดรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป กล่าวคือ
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 กรมการปกครอง ร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครองจังหวัดระยอง พนักงานฝ่ายปกครองอําเภอเมืองระยอง และเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้าตรวจสอบตามข้อร้องเรียนบ่อนการพนันภายในซอยธนาคารธนชาต ถนนสุขุมวิท ตําบลมาบตาพุด อําเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง (บ่อนพนัน RJ มาบตาพุด) พบวงการเล่นพนันเอาทรัพย์สิน กันโดยไม่ได้รับอนุญาตแบ่งออกเป็น 3 วง ได้แก่ วงพนันเสือมังกร วงพนันไฮโลว์ และวงพนันเครื่องสล็อต แมชชีน (เครื่องผลไม้) โดยมีนายบรรเทิง เปียฉ่ำ และนางสาวศิริพร พุทธามาตย์ ได้แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ว่าร่วมกันเป็นผู้จัดการและผู้ดูแลสถานที่เล่นการพนันทั้งหมด และตรวจยึดของกลางในคดีจํานวนหลายรายการ รวมของกลางที่เป็นเงินหมุนเวียนภายในบ่อนข้างต้น คิดเป็นเงินจํานวน 11,889,590 บาท ยังไม่รวม ทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ประเมินมูลค่า จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และข้อหา ร่วมกันกระทําการชุมนุม การทํากิจกรรม หรือการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ซึ่งฝ่าฝืนประกาศ หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทํา กิจกรรม การมั่วสุม ลงวันที่ 3 เมษายน 2563 โดยอาศัยอํานาจตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 5” ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สถานีตํารวจภูธรมาบตาพุด ได้รับคําร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 705/2563 ที่ 706/2563 และที่ 707/2563 และจากการรายงานการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุมของเจ้าพนักงานตํารวจของกองกํากับการปราบปราม พบว่ามีผู้ร่วมกันกระทําความผิดจํานวนหลายราย อาทิ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา นายธนา จุติกิติ์เดชา นายดํารงค์ แซ่โง้ว นางสาวอลิสา แจ้งสว่าง และนายน้อย วงษ์นิยม รวมถึงญาติพี่น้องใกล้ชิดคนอื่น ๆ เป็นต้น มีลักษณะเป็นการแบ่งหน้าที่กันทํา ทั้งยังมีลักษณะเป็นเครือข่ายองค์กร โดยนําเงินที่ได้จากการกระทําความผิดเกี่ยวกับบ่อนการพนันและตู้สล็อต ไปดําเนินการธุรกรรมทางการเงิน ทําการแปรสภาพเงินที่ได้มาจากการ กระทําความผิดไปเป็นทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ และยังมีพฤติการณ์เปิดบริษัทเพื่อแปรสภาพเงินที่ได้จากการ กระทําความผิดให้เป็นเงินนําไปหมุนเวียนในธุรอื่นที่ถูกกฎหมาย ซึ่งความผิดดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐาน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกระทําผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดฐานฟอกเงิน และมีการกระทําความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้ มีการสมคบกัน” อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (9) และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดดังกล่าว ต่อมาเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินได้มีคําสั่งที่ ย. 20/2564 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เรื่อง อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทําความผิดไว้ชั่วคราว รายนายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก จํานวน 35 รายการ พร้อมดอกผล และคําสั่ง ที่ ย. 22/2564 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เรื่อง อายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ ชั่วคราว (เพิ่มเติม) รายนายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก จํานวน 42 รายการ พร้อมดอกผล มีกําหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นั้น
จากการตรวจสอบรายงานการทําธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทําธุรกรรมของบุคคลรวมทั้ง ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทําความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงินในคดีดังกล่าว พบข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก จํานวน 144 รายการ ประกอบด้วยที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด และรถยนต์ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้ว ปรากฏหลักฐานเป็นที่ เชื่อได้ว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และเนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าว ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ประเภท ที่ดินตามโฉนดที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียน ในการเป็น ผู้ถือกรรมสิทธิ์โดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ อาจดําเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ ในทางทะเบียนได้ และสังหาริมทรัพย์ประเภทรถยนต์ อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียน ในการควบคุมการเสียภาษีหรือการเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินดังกล่าว โดยผู้มีชื่อเป็นผู้ครอบครองอาจ ดําเนินการโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้โดยง่าย หากมิได้มีการออกคําสั่งให้ยึด ทรัพย์สินไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดําเนินการโอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลได้มีคําสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของ แผ่นดิน สํานักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ ว่านายบรรเทิง เปียฉ่ำ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดและอาจมีการโอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรมว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบ การพิจารณาดําเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคําสั่งยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) จํานวน 144 รายการ พร้อมดอกผล มีกําหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2564 ถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2564 โดยมีรายการทรัพย์สินที่ยึดปรากฏตามบัญชีทรัพย์สินแนบท้ายคําสั่งนี้
เรื่องเกี่ยวข้อง กับ หลงจู๊ สมชาย
ศาลไม่ให้ประกัน! ส่ง‘หลงจู๊’พร้อมพวกเข้าเรือนจำ หวั่นหยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
จับ ‘หลงจู๊ สมชาย’ คดีจ้างวานฆ่า-ยึดทรัพย์เครือข่ายฟอกเงิน 880 ล้าน
เปิดธุรกิจ‘หลงจู๊-สมชาย’เจ้าของสถานบันเทิง-อสังหาฯ 3 บริษัท
บุกรวบ 'หลงจู๊สมชาย' เจ้าพ่อบ่อนภาคตะวันออกคาบ้านพัก จ.ระยอง
เหลือแค่แบงก์ 100 ใบเดียว! บก.ป.ค้นเซฟ'หลงจู๊สมชาย'-คาดข่าวรั่ว ประสาน ปปง.สอบต่อ
บก.ป.ลุยสอบคดีฟอกเงิน‘หลงจู๊สมชาย เปิดเซฟพบทอง-โฉนดที่ดินอื้อซุกไว้บ้านน้อง
พลิกกระทู้ ปมยุบทิ้งชุดเฉพาะกิจดีเอสไอหลังจับบ่อนใหญ่ระยอง ก่อนกรณีแหล่งแพร่โควิด
เรื่องเกี่ยวข้อง กับนายเสี่ยโป้
ส่องที่ตั้งบ้าน 3 หลัง 115.5 ล. ‘บานเย็น’แม่‘เสี่ยโป้’ คดีฟอกเงินบ่อนออนไลน์
เปิดคำสั่ง ปปง.อายัดทรัพย์‘เสี่ยโป้’3 ลอต 176 ล.- บ้าน‘บานเย็น’ 80 ล.- หลวงพ่อรวยด้วย
ปปง.ยึด-อายัดทรัพย์ เครือข่ายบ่อนหลงจู๊-เสี่ยโป้รวม 1.2 พันล้านบาท
ก่อน ตร.ค้น-ยึดทรัพย์หลายล.! พลิกธุรกิจเครื่องสำอาง‘วี.กู๊ดอานนท์’ของ‘แม่เสี่ยโป้’