"...เรื่องคงค้างใน กมธ.คณะใหญ่ 115 เรื่อง มีประเด็นร้องเรียนที่หลากหลาย ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่ แบ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ดิน 20 เรื่อง เกี่ยวกับการเบียดบังเงินงบประมาณ 10 เรื่อง เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง 26 เรื่อง ให้หรือรับสินบน 3 เรื่อง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 28 เรื่อง อื่นๆ อีก 17 เรื่อง สำหรับนักการเมือง-เจ้าหน้าที่รัฐมีเรื่องร้องเรียน 8 เรื่อง..."
..................................................
‘กรรมาธิการสามัญ’ ถือเป็นกลไกสำคัญที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ใช้ในการขับเคลื่อนการทำงาน ทั้งพิจารณาร่างกฎหมาย ศึกษา รวมถึงพิจารณาสอบสวน ตรวจสอบการทำหน้าที่ในเรื่องต่างๆ
โดยกรรมาธิการ (กมธ.) ที่มีบทบาทในการตรวจสอบฝ่ายบริหารเป็นอย่างมาก คือ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หรือที่เรียกกันว่า กมธ.ปราบโกง ที่มี 'พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส' ส.ส.และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน
ตลอด 1 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา กมธ.ชุดนี้ ประชุมไปแล้ว 80 ครั้ง แต่ประเด็นที่ได้รับความสนใจจากสังคม กลับเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาภายใน กมธ.เอง โดยเฉพาะการปะทะคารม ระหว่าง ‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์’ กับ 2 ส.ส.พลังประชารัฐ ‘ปารีณา ไกรคุปต์ – สิระ เจนจาคะ’
ในทางกลับกัน กมธ.ปราบโกง ยังลุยสอบ ‘คดีดัง’ หลายเรื่องด้วยกัน อาทิ กรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอสที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต รวมถึงการตรวจสอบพฤติกรรมของนักการเมือง-เจ้าหน้าที่รัฐอีกหลายคน
เมื่อตรวจสอบวาระการประชุมของ กมธ.ปราบโกง จะพบว่า ยังมีเรื่องพิจารณาคงค้าง ที่ส่วนใหญ่เป็นการร้องทุกข์จากชาวบ้าน ตั้งแต่เรื่องเล็กจนถึงเรื่องใหญ่ รวม 128 เรื่อง แบ่งเป็น เรื่องที่อยู่ใน กมธ.คณะใหญ่ 115 เรื่อง อยู่ในคณะอนุ กมธ.ชุดที่ 1 จำนวน 9 เรื่อง และอยู่ในคณะอนุ กมธ.ชุดที่ จำนวน 4 เรื่อง
โดยคณะอนุ กมธ.ชุดที่ 1 ที่มี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.เพื่อไทย เป็นประธาน มีเรื่องค้างพิจารณา รวม 9 เรื่อง อาทิ กรณีจัดซื้อครุภัณฑ์เพื่อการพัฒนาเครือข่ายการศึกษาแห่งชาติ (NEdNet) ระยะ 2 , กรณีตรวจสอบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ , ศึกษามาตรการในการป้องกันการบริหารจัดการและการใช้งบประมาณของสถาบันพัฒนาองค์การชุมชน (พอช.) , กรณีขอให้ตรวจสอบเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เป็นต้น
ส่วนคณะอนุ กมธ.ชุดที่ 2 ที่มีนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.ก้าวไกล เป็นประธาน มีเรื่องค้างพิจารณา รวม 4 เรื่อง อาทิ กรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 , กรณีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการควบคุมตัว นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ และนายภาณุพงศ์ จาดนอก สองแกนนำม็อบราษฎร , กรณีตรวจสอบการดำเนินกิจการของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย รวมถึง กรณีที่อดีตสมาชิกวุฒิสภา ข้อให้สอบหาข้อเท็จจริงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พักอาศัยในบ้านพักรับรองโดยใช้งบประมาณของกองทัพบกจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ
ขณะที่เรื่องคงค้างใน กมธ.คณะใหญ่ 115 เรื่อง ซึ่งมีประเด็นร้องเรียนที่หลากหลาย ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องของนักการเมือง-เจ้าหน้าที่รัฐ
แบ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ดิน 20 เรื่อง เกี่ยวกับการเบียดบังเงินงบประมาณ 10 เรื่อง เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง 26 เรื่อง ให้หรือรับสินบน 3 เรื่อง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 28 เรื่อง อื่นๆ อีก 17 เรื่อง
สำหรับนักการเมือง-เจ้าหน้าที่รัฐมีเรื่องร้องเรียน 8 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ‘ปารีณา ไกรคุปต์’ ส.ส.พลังประชารัฐ จำนวน 2 เรื่อง โดยขอให้ตรวจสอบการรายงานบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) รวมถึงกรณีถือครองที่ดินบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ
เกี่ยวกับ ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ รองนายกรัฐมนตรี 1 เรื่อง คือ ขอให้ฟื้นการพิจารณากรณีการยืมนาฬิกาหรูอีกครั้งหนึ่ง
เกี่ยวกับ ‘สิระ เจนจาคะ’ ส.ส.พลังประชารัฐ 1 เรื่อง กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ช่วงที่มีการลงพื้นที่ตรวจสอบโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
อีก 4 เรื่อง เป็นเรื่องร้องเรียนจาก ‘เอกชัย หงส์กังวาน’ นักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมพวก เข้ายื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบนักการเมือง-เจ้าหน้าที่รัฐ ดังนี้
1.ขอให้ตรวจสอบ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร , นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 , พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่วข้อง กรณีไม่ดำเนินการจับกุม พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร ตามหมายจับของศาล
2.ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีปฏิเสธคำร้องการตรวจสอบคุณสบัติของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์
3.ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก และ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ใช้อำนาจโดยมิชอบในการแจ้งความร้องทุกข์และดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
4. ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีไม่มาปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับการแต่งตั้ง
ด้าน ‘ธีรัจชัย พันธุมาศ’ ในฐานโฆษก กมธ. และประธานอนุ กมธ.ชุดที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุที่มีเรื่องคงค้างมากกว่า 100 เรื่อง ส่วนหนึ่งมาจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ให้นโยบายไว้ว่า ‘รับทุกเรื่องที่เกี่ยวกับทุจริต’ ทำให้เรื่องร้องเรียนไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ถูกบรรจุอยู่ในบัญชีพิจารณาทั้งหมด
โดย กมธ.ชุดนี้มีทั้งหมด 14 คน มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นประธาน ส่วน ส.ส. อีก 13 คนแบ่งงานกันทำ ตามความถนัดของตนเอง ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วทุกคนจะมีเรื่องร้องเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนเองประมาณ 7-10 เรื่อง ซึ่งจะแบ่งงานตามความถนัดของแต่ละคน
อาทิ ปัญหาที่ดิน มีผู้รับผิดชอบ 3 คน คือ นายสุทา ประทีป ณ ถลาง รองประธาน กมธ. และ ส.ส.พลังประชารัฐ , นายจารึก ศรีอ่อน รองประธาน กมธ. และส.ส.พลังท้องถิ่นไท รวมถึงนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ เลขาฯ กมธ.และ ส.ส.เพื่อไทย
"เราแบ่งงานกันทำตามความถนัดของแต่ละคน เช่น เรื่องปัญหาที่ดิน จะมีคุณสุธา คุณจารึก และคุณประเดิมชัย ส่วนความผิดของราชการก็จะเป็นท่านอื่น หรืออย่างกรณีของผมก็จะเน้นไปที่คดีการเมือง คดีที่มีความซับซ้อน รวมถึงคดีคนเด่นคนดัง แม้กระทั่งเรื่องนายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในความรับผิดชอบของผม" นายธีรัจชัย กล่าว
นายธีรัจชัย เปิดเผยด้วยว่า แม้ กมธ.ปราบโกง จะมีข่าวออกมาเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ แต่ในข้อเท็จจริง เรื่องร้องเรียนของชาวบ้านได้รับการแก้ไขในห้องอนุ กมธ.ไปแล้วจำนวนมาก เพียงแต่ไม่ได้มีการชี้แจงให้เป็นข่าวแต่อย่างใด
"เราอยากให้เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติจริงๆ ไม่ได้อยากให้เป็นข่าวหรือกลายเป็นเรื่องการเมืองว่าเราทำอะไรไปบ้าง อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองมีอีกหลายที่คาดว่าจะดำเนินการตรวจสอบแล้วเสร็จในปีนี้ ซึ่งจะทยอยนำเสนอให้สังคมรับทราบต่อไปในภายหลัง" นายธีรัจชัย กล่าว
ทั้งหมดเป็นความคืบหน้าการทำงานของ กมธ.ปราบโกง ที่ยังคงต้องจับตาต่อไปว่า 100 เรื่องร้องเรียนที่ค้างในห้องประชุมจะนำไปสู่การแก้ปัญหาได้มากน้อยเพียงใด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage