Exclusive: แง้มห้องประชุมบอร์ดสวนสัตว์ ล้วงผลสอบ 'ลูกเก้ง'

picdannsdsds22 10 63

"...คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ ยืนยันว่า ไม่ได้ละทิ้งประเด็นพบโครงกระดูกสัตว์ในคอกจัดแสดงด้านหน้า และเพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ควรนำส่งตัวอย่างโครงกระดูกสัตว์ไปตรวจสอบลายพิมพ์ทาง DNA (DNA FINGERPRINT FOR PARENTAGE ANALYSIS) ว่ามีความเกี่ยวพันกับเก้งเผือกตัวแม่ ชื่อ “มูมู่” หรือไม่ หากมีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับเก้งเผือกชื่อ “มูมู่” คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ จะยุติการสอบสวนประเด็นการหายไปของเก้งเผือกที่ชื่อ “คุณภูมิ” แต่หากไม่มีความเกี่ยวพันธ์ทางสายเลือด คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ จะดำเนินการสอบสวนต่อไป..."

.................

ยังคงเป็นประเด็นข่าวสำคัญที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ให้ความสำคัญติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกรณี ลูกเก้งเผือก สายพันธุ์พระราชทานในสวนสัตว์สงขลา จำนวน 2 ตัว สูญหายและตายลงอย่างปริศนา

โดยความคืบหน้าล่าสุดของเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2563 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีการประชุมรับรองมติรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี ลูกเก้งเผือก สายพันธุ์พระราชทานในสวนสัตว์สงขลา จำนวน 2 ตัว สูญหายและตายลงอย่างปริศนา ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่มี นายอภิเดช สิงหเสนี รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ เป็นประธาน

ซึ่งมีข้อสรุป ใน 2 ประเด็นหลัก คือ

1. กรณีลูกเก้งเผือก (คุณภูมิ) ตัวแรก ที่หายไปในช่วงเดือนก.พ.2563 ก่อนจะมีการตรวจสอบพบซากกระดูกสัตว์ ในช่วงเดือนเม.ย.2563 นั้น คณะกรรมการตรวจสอบฯ ระบุว่า เนื่องจากระยะเวลาการตรวจสอบสวนมีค่อนข้างน้อย ประกอบกับเกิดกรณี นายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ไปติดตามตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ด้วยตนเองและถูกยิงเสียชีวิต จึงทำให้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการหายตัวไปของลูกเก้งเผือกตัวแรกได้ชัดเจน

pickomujyhtgggcccccccgccccccg22 10 63

ส่วนกรณีซากโครงกระดูกที่มีรายงานการพบในส่วนพื้นที่จัดแสดงนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ในวันที่ 15 พ.ค.2563 ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา มีหนังสือถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อขอให้ตรวจพิสูจน์พันธุกรรมซากสัตว์ป่าจากตัวอย่างซากกระดูกสัตว์ ตามความเห็นของหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ วิจัย และสุขภาพสัตว์

แต่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงไม่พบรายงานเกี่ยวกับซากสัตว์มายังองค์การสวนสัตว์ฯ

ทั้งนี้ คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ ยืนยันว่า ไม่ได้ละทิ้งประเด็นพบโครงกระดูกสัตว์ในคอกจัดแสดงด้านหน้า และเพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ควรนำส่งตัวอย่างโครงกระดูกสัตว์ไปตรวจสอบลายพิมพ์ทาง DNA (DNA FINGERPRINT FOR PARENTAGE ANALYSIS) ว่ามีความเกี่ยวพันกับเก้งเผือกตัวแม่ ชื่อ “มูมู่” หรือไม่

หากมีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับเก้งเผือกชื่อ “มูมู่” คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ จะยุติการสอบสวนประเด็นการหายไปของเก้งเผือกที่ชื่อ “คุณภูมิ”

แต่หากไม่มีความเกี่ยวพันธ์ทางสายเลือด คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ จะดำเนินการสอบสวนต่อไป

2. กรณีลูกเก้งเผือก (คุณภาค) ตัวที่สอง ที่หายไปในช่วงเดือนก.ย.2563 คณะกรรมการฯ สรุปผลเป็นทางการแล้วว่า "ถูกงูเหลือมกิน"

pickomujyhtgggccccccgccccccg22 10 63

โดย พบวัตถุพยาน คือ งูเหลือม และมีรายงานยืนยันการชันสูตรจากสัตว์แพทย์ของสวนสัตว์สงขลาที่ทำการชันสูตรซากงูเหลือมที่มีซากเก้งเผือกอยู่ภายในท้องงูจริง ปัจจุบันซากสัตว์ทั้งสองชนิดยังอยู่ในความครอบครองของโรงพยาบาลสัตว์ของสวนสัตว์สงขลา

ส่วนเหตุการถูกงูเหลือมกินดังกล่าว จะเป็นการจัดฉากของบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อจะกลบเกลื่อนสาเหตุการหายตัวไปของ ลูกเก้งเผือก (คุณภูมิ) ตัวแรก หรือไม่ รวมไปถึง ปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่าโดยใช้สวนสัตว์ของรัฐ เป็นแหล่งฟอกสัตว์นั้น เนื่องจากขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับกระทรวงขึ้นมาเป็นทางการ มีนายเฉลิมชัย ปาปะทา ผู้ตรวจราชการกระทรวง ทส. เป็นประธาน ดังนั้น การตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 2 ประเด็นนี้ ก็คงจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับกระทรวงที่จะเป็นผู้รับผิดชอบ

ซึ่งจากการประสานงานเบื้องต้น ได้รับรายงานว่า ปัจจุบันคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับกระทรวง ได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว โดยเริ่มต้นจากการตรวจสอบกรณีเก้งเผือกของสวนสัตว์สงขลา เป็นกรณีแรก ก่อนจะขยายผลการตรวจสอบไปยังสวนสัตว์ของรัฐแห่งอื่นต่อไป

สำนักข่าวอิศรา รายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ในรายงานผลการสรุปการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่มี นายอภิเดช สิงหเสนี รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ เป็นประธาน ยังได้สรุปข้อมูลผลการตรวจสอบที่สำคัญอีกหลายประเด็น คือ

หนึ่ง ประเด็นเก้งเผือกสูญหายไปจากพื้นที่ส่วนแสดง ใครเป็นผู้รับผิดชอบ?

โดยจากการตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติงานกรณีเก้งเผือกสูญหายนับตั้งแต่พนักงานบำรุงสัตว์ จนถึงผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา พบดังนี้

(1) มีความล่าช้าด้านเอกสารและการสื่อสารภายใน ประกอบกับความใส่ใจต่อสัตว์ชนิดดังกล่าวที่ควรดูแลเป็นพิเศษและต้องมีการควบคุมการดูแลอย่างเคร่งครัดมีไม่เพียงพอ

(2) ระบบการตรวจสอบของพนักงานเลี้ยงดู ระบบรักษาความปลอดภัยของสวนสัตว์สงขลาเพื่อป้องกันสัตว์หาย หรือสัตว์ถูกสัตว์อื่นเข้ามารบกวนและถูกทำร้ายภายในสวนสัตว์สงขลาในยามปกติและยามวิกาลมีเพียงการลาดตระเวนเป็นช่วงเวลากับพื้นที่โดยรวมไม่สัมพันธ์กับขนาดพื้นที่ของสวนสัตว์สงขลาที่มีเนื้อที่โดยประมาณ 991 ไร่ จึงไม่เพียงพอในการป้องกันดูแลรักษาสัตว์พร้อมกับสอดส่องดูแลสถานที่ของหน่วยงาน

สอง กรณีการรักษาความปลอดภัยกับสวัสดิภาพสัตว์และทรัพย์สินของสวนสัตว์สงขลา มีดังนี้

- จากการตรวจสอบไม่พบแผนพร้อมรายงานมาตรการป้องกันความปลอดภัยกับสวัสดิภาพสัตว์ หรือการเฝ้าระวังความปลอดภัยของสัตว์และทรัพย์สินภายในสวนสัตว์อย่างมีประสิทธิภาพต่อผู้บังคับบัญชา

- จากการตรวจสอบพื้นที่ สภาพคอกจัดแสดงมีหลายจุดที่มีโอกาสให้งูสามารถเข้าไปในพื้นที่ และแฝงตัวอยู่ภายในคอกจัดแสดงได้ อีกทั้งบริเวณข้างคอกจัดแสดงมีต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านยื่นเข้าไปในส่วนจัดแสดงอาจทำให้เป็นช่องทางที่งูเข้าไปภายในคอกจัดแสดงง่ายขึ้น สภาพคอกกักเก้งเผือก เป็นหินเทียม มักเป็นโพรงข้างในจึงมีโอกาสที่จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหรือใช้เป็นที่ซ่อนตัวของสัตว์เลื้อยคลานที่อาจเป็นอันตรายกับสัตว์ รวมทั้งแนวรั้วตาข่ายและต้นไม้ที่เป็นช่องทางให้สัตว์อื่นเข้ามาภายในและทำร้ายเก้งเผือกได้ อีกทั้งส่วนจัดแสดงมีลักษณะเปิด รั้วไม่สามารถกั้นบุคคลที่คาดว่าจะเข้าไปขโมยได้

-ประกอบกับจากการสอบถามพยานพบว่า เวลาหลังจากเลิกเข้าใช้บริการสวนสัตว์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา มีนโยบายให้บุคคลภายนอกเข้ามาออกกำลังกายภายในสวนสัตว์สงขลา ตั้งแต่เวลา 18 .00 น. จนถึงเวลาโดยประมาณ 19.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิด ของประตูทางเข้าลัดของสวนสัตว์สงขลาด้วย

สาม ประชากรเก้งเผือกในบัญชีทรัพย์สินสัตว์

ปัจจุบัน องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ มีเก้งเผือกในบัญชีทรัพย์สินสัตว์มีชีวิตจำนวนทั้งสิ้น 21 ตัว (ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2563 ) โดยเก้งเผือกที่เกิดและอยู่ภายใต้การดูแลในบัญชีทรัพย์สินสัตว์มีชีวิตของสวนสัตว์สงขลามีจำนวนทั้งสิ้น 3 ตัว ประกอบด้วย คุณมูมู่ คุณภูมิ และคุณภาค ปรากฏตามพงศาวลีเก้งเผือกขององค์การสวนสัตว์ฯ และเอกสารข้อมูลประจำตัวสัตว์ของเก้งเผือกทั้งสามตัวที่สวนสัตว์สงขลา (Specimen report) ดังนี้

pickomujyhtggggg22 10 63

ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุม คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แสดงความห่วงใยต่อปัญหาการบริหารจัดการดูแลประชากรสัตว์ ของสวนสัตว์ในสังกัดทั้งหมด จึงได้มอบนโยบายให้ฝ่ายบริหารไปพิจารณาปรับปรุงแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งระบบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยขึ้นมาได้อีก

อาทิ การทำบัญชีสัตว์ ที่ต้องยึดตามข้อมูลจริง แจ้งข้อมูลภายใน 48 ชั่วโมง เปิดเผยข้อมูลสัตว์ผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้ประชาชนเข้ามาร่วมตรวจสอบได้ เป็นต้น

ทั้งหมดนี่ คือ ความคืบหน้าการตรวจสอบกรณี ลูกเก้งเผือก สายพันธุ์พระราชทานในสวนสัตว์สงขลา จำนวน 2 ตัว สูญหายและตายลงอย่างปริศนา ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบและนำมาเสนอให้สาธารณชนรับทราบล่าสุดในขณะนี้

อ่านประกอบ :

ดีเอ็นเอไม่ตรงดำเนินคดีแน่! มติบอร์ดสวนสัตว์ส่งซากเก้งให้กรมอุทยานฯตรวจ-ตั้ง รษก.ผอ.

ส่งตรวจ DNA กระดูก- 'จัดฉาก' ปล่อยงูขย้ำ? - จับตาบอร์ดสวนสัตว์ สางปมลูกเก้งหาย-ตายปริศนา

‘วราวุธ’สั่งสอบสวนสัตว์ทั่ว ปท.เอี่ยวค้าสัตว์ป่าหรือไม่-ให้ ปธ.บอร์ดสางปมเก้งเผือกหาย

หายหรือตายต้องได้คำตอบ!'บิ๊กตู่'สั่งเคลียร์ปมลูกเก้ง-เสียใจสูญเสีย 2 เจ้าหน้าที่

สรุปลูกเก้งตาย 2 เหลือแม่ 1 ตัว! กก.สอบชงบอร์ดสวนสัตว์เคลียร์ปมหายปริศนา 6 ต.ค.

พบ 'นายสัตวแพทย์ภูวดล' ผู้ก่อเหตุยิง ผอ.องค์การสวนสัตว์เสียชีวิต-ยิงตัวตายที่บ้านพักแล้ว

ด่วน! ผอ.องค์การสวนสัตว์ ถูกจนท.สวนสัตว์สงขลา ยิงเสียชีวิตระหว่างสอบสวนคดี 'ลูกเก้งเผือก'

เปิดรายงานวินาที 'ผอ.องค์การสวนสัตว์' ถูกยิงเสียชีวิต-รมว.ทส.สั่งปธ.บอร์ด บินด่วนคุมสถานการณ์

'ลูกเก้งเผือก' สายพันธุ์พระราชทานหาย! สวนสัตว์สงขลา สั่งสอบน่าจะโดนขโมย-ผอ.แจงถูกงูกิน

ปธ.บอร์ดย้ำเรื่องใหญ่มาก! องค์การสวนสัตว์ สั่งสอบทันที 'ลูกเก้งเผือก' สายพันธุ์พระราชทานหาย

เด้ง 'ผอ.สงขลา' เข้ากรุ! องค์การสวนสัตว์ สั่งย้ายด่วน รอผลสอบ 'ลูกเก้งเผือก' หายปริศนา