"...สำนักข่าว CNN รายงานว่า เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา คณะลูกขุนใหญ่ของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal grand jury) ได้มีคำสั่งฟ้องนายบรอคแมน กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการเลี่ยงภาษี การฉ้อโกงผ่านระบบธนาคาร การฟอกเงิน และข้อหาอื่น ๆ ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องกว่า 20 ปี และเลี่ยงภาษีไปได้ราว 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และยังตรวจพบการฉ้อฉลผู้ลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทด้วย..."
.................................
นายโรเบิร์ต ที บรอคแมน (Robert T. Brockman) เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยีแห่งมลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้โดนจับข้อหาเลี่ยงภาษีจำนวนกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท) นับเป็นการเลี่ยงภาษีที่ใหญ่ที่สุดที่สหรัฐอเมริกา
นายบรอคแมน ซึ่งเคยประจำเป็นทหารเรือสหรัฐและทำงานให้กับบริษัทฟอร์ดและไอบีเอ็ม (IBM) ต่อมาได้ก่อตั้ง Universal Computer Systems ระบบคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสำหรับผู้ขายรถยนต์ในปีพ.ศ. 2513 และเมื่อปีพ.ศ.2549 บริษัทได้ควบรวมกับเรย์โนลด์ส แอนด์ เรย์โนลด์ส (Reynolds & Reynolds) ปัจจุบันมีนายบรอคแมนเป็นซีอีโอและประธานบริษัท
สำนักข่าว CNN รายงานว่า เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา คณะลูกขุนใหญ่ของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal grand jury) ได้มีคำสั่งฟ้องนายบรอคแมน กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการเลี่ยงภาษี การฉ้อโกงผ่านระบบธนาคาร การฟอกเงิน และข้อหาอื่น ๆ ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องกว่า 20 ปี และเลี่ยงภาษีไปได้ราว 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และยังตรวจพบการฉ้อฉลผู้ลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทด้วย
ข้อหาทั้ง 39 ข้อหานั้นโยงใยกับกลุ่มบริษัทต่างชาติและบัญชีธนาคารอันซับซ้อน การนำรายได้ที่ไม่ถูกชี้แจงไปซื้อเรือยอร์ชชื่อ "เทอร์มอยล์" การสร้างระบบรหัสลับของอีเมลเพื่อใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างพนักงานภายใต้ชื่อว่า "Bonefish" และ "Snapper;" นอกจากนี้ยังมีการส่งผู้จัดการด้านการเงินเข้าร่วม "สัมมนาฟอกเงิน" ภายใต้นามแฝงและโน้มน้าวให้ผู้จัดการการเงินรายดังกล่าวทำลายเอกสารและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วยเครื่องทำลายเอกสารและค้อนอีกด้วย
นายจิม ลี (Jim Lee) หัวหน้าฝ่ายสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมของสรรพากรสหรัฐกล่าวว่า "จากประสบการณ์การทำงานกว่า 25 ปี ฉันยังไม่เคยพบเห็นรูปแบบของความโลภและความพยายามในการปกปิดอย่างเช่นครั้งนี้เลย"
จากการตรวจสอบพบว่า นายบรอคแมนเข้าเป็นผู้ถือหุ้นของ Vista Equity Partners ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนผู้ลงทุนในการพัฒนาโปรแกรม ข้อมูลและเทคโนโลยี ได้ใช้บริษัทและบัญชีธนาคารที่จดทะเบียนในหมู่เกาะเบอร์มิวด้าและเนวิสในการปกปิดเงินที่ได้จากการลงทุนดังกล่าวจากสรรพากรสหรัฐ
นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่านายบรอคแมนได้สั่งให้พนักงานลงวันที่ย้อนหลังในบันทึกต่าง ๆ และใช้การสื่อสารผ่านระบบรหัสเพื่อปกปิดปฏิบัติการนี้ นายบรอคแมนยังถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงการซื้อขายตราสารหนี้ของโปรแกรมบริษัทเป็นเงินจำนวนกว่า 68 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.1 พันล้านบาท) ขณะที่เป็นผู้มีข้อมูลภายในบริษัท
ขณะเดียวกัน เรย์โนลด์ส แอนด์ เรย์โนลด์ส ได้กล่าวว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดนั้นมุ่งไปที่การกระทำของนายบรอคแมนในส่วนที่อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบทางวิชาชีพของนายบรอคแมนที่เกี่ยวกับเรย์โนลด์ส แอนด์ เรย์โนลด์ส บริษัทไม่ได้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดและยังคงมั่นใจในความแข็งแกร่งของบริษัท
ในขณะที่นายโรเบิร์ต สมิทธ์ (Robert Smith) ประธานและซีอีโอของ Vista Equity Partners ยินยอมเข้าตกลงใน "ข้อตกลงไม่ดำเนินคดี" (non-prosecution agreement) ซึ่งเปิดเผยว่า นายสมิทธิ์จะต้องจ่ายภาษีและค่าปรับจำนวน 139 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.3 พันล้านบาท) และจะต้องยกเลิกคำขอคืนภาษีจำนวน 182 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.6 พันล้านบาท) แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี
ทั้งนี้ พบว่านายสมิทธ์ได้ซุกซ่อนเงินไว้ในบัญชีซึ่งจดทะเบียนในประเทศเบลีซและเนวิส ใช้รายได้ที่ไม่ได้ถูกชี้แจงในการซื้อบ้านพักตากอากาศในเมืองโซโนมา บ้านพักสกีในเทือกเขาประเทศฝรั่งเศส และยังนำไปบริจาคการกุศลและช่วยซ่อมแซมบ้านพักเด็กและทหารผ่านศึกผู้เจ็บป่วยในรัฐโคโลราโดอีกด้วย ซึ่งนายสมิทธิ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่เคยมีคำว่าสายสำหรับการพูดความจริง
ทั้งนี้ นายบรอคแมนได้ปรากฏตัวต่อหน้าศาลรัฐบาลกลางสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาและให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งสิ้น โดยได้รับอนุญาตให้ประกันตัวภายใต้วงเงินประกัน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 31 ล้านบาท)
แปลจาก: https://edition.cnn.com/2020/10/17/business/robert-brockman-tax-evasion-charges/index.html