"....ล่าสุด ย้อนกลับไปตรวจสอบข้อมูล หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง พบว่า ยังประกอบธุรกิจตามปกติอยู่ นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2562 (นำส่งเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563) แจ้งว่า มีรายได้จากการขายหรือการให้บริการ 9,561,880.58 บาท รายได้ดอกเบี้ย 12,500.00 บาท รวมรายได้ 9,574,380.58 บาท มีต้นทุนขายหรือต้นทุนการให้บริการ 8,061,571.53 บาท ค่าใช้จ่ายในการขาย 979,017.82 บาท รวมรายจ่าย 9,040,589.35 บาท กำไรสุทธิ 497,316.11 บาท..."
......................
โครงการจัดซื้อถุงน้ำใจหรือ แคร์เซ็ต ให้กับผู้สูงอายุ 70 ปี ที่ต้องอยู่บ้านตามคำสั่งของจังหวัดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากโรคระบาด โควิด-19 จำนวน 27,700 ชุด ชุดละ 590 บาท รวมวงเงิน 16,343,000 บาท ของ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำพูน ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องเป็นทางการแล้ว
ผู้เกี่ยวข้องมี 2 กลุ่ม คือ
1. เจ้าหน้าที่รัฐ ได้แก่ นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน, นายกำธร เนตรผาบ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน, นายมนู ศรีประสาท รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน, นายเสริมชัย ลี้เขียววงศ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน, นางสุดสงวน จักร์คำ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน และนายดรุณพัฒน์ อินดี รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน มีมูลความผิดฐานเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, มาตรา 157 และเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542มาตรา 10, มาตรา 12 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
2. สำหรับกลุ่มเอกชน ได้แก่ (1) ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี. กรุ๊ป เทรดดิ้ง, (2) นางสาวณัฐวรรณ รัตนคำนวณ หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี. กรุ๊ป เทรดดิ้ง, (3) นายเทวินทร์ วิธี, (4) ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มพูนโชค, (5) นายนิกร ญาณโรจน์ หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มพูนโชค, และ (6) นางรุ่งทิพ ทุนอินทร์ เจ้าของร้านรุ่งทิพ เอ็นเตอร์ไพร์ท มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐในความผิดดังกล่าวข้างต้น และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4
ประเด็นสำคัญที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ได้แก่ อบจ.ลำพูน ดำเนินการโครงการดังกล่าวโดยไม่มีการสืบหาราคาชุดของใช้ประจำวัน (Care Set) มีการกระทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี. กรุ๊ป เทรดดิ้ง ได้รับงาน
โดยในขั้นตอนการจัดซื้อ คณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ได้มีหนังสือเชิญไปยังห้าง/ร้าน จำนวน 5 แห่ง ซึ่งเป็นห้าง/ร้าน ในกลุ่มเดียวกันและมีความสัมพันธ์กับห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี. กรุ๊ป เทรดดิ้ง โดยนายเทวินทร์ วิธี ได้นำห้าง/ร้าน จำนวน 3 ราย มายื่นเสนอราคาประกอบด้วย (1) ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี. กรุ๊ป เทรดดิ้ง, (2) ร้านรุ่งทิพ เอ็นเตอร์ไพร์ท และ (3) ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มพูนโชค ซึ่งทั้ง 3 ราย ได้เสนอราคารวม 16,343,000 บาท หรือชุดละ 590 บาท เท่ากัน และองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนได้เลือกและเร่งรัดให้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี. กรุ๊ป เทรดดิ้ง ได้เป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ตามบันทึกข้อตกลงซื้อขาย เลขที่ 53/2563 ลงวันที่ 7 เมษายน 2563 จำนวนเงิน 16,343,000 บาท โดยนายกำธร เนตรผาบ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ปฏิบัติราชการแทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน เป็นผู้ลงนามอนุมัติ
สำหรับราคาชุดของใช้ประจำวัน (Care Set) จำนวน 13 รายการ นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงว่าราคาต้นทุน ของห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี. กรุ๊ป เทรดดิ้ง มีต้นทุนของราคาสินค้าชุดละประมาณ 234.24 บาท และจากการสืบราคาจากห้าง/ร้าน ที่จำหน่ายสินค้าในจังหวัดลำพูน จำนวน 25 ร้านค้า พบว่าราคาเฉลี่ยชุดของใช้ประจำวัน (Care Set) มีราคาเฉลี่ยเพียงชุดละ 315.45 บาท ดังนั้น การจัดซื้อขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนดังกล่าว จึงเป็นการจัดซื้อในราคาที่สูงกว่าในท้องตลาดและทำให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนได้รับความเสียหาย เป็นเงินประมาณ 7.6 ล้านบาท
(อ่านประกอบ : เสียหาย 7.6 ล.! ป.ป.ช.ชี้มูลผิด นายก อบจ.ลำพูน-พวก ทุจริตจัดซื้อแคร์เซ็ตแพงเกินจริง)
ทั้งนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับ หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง คู่สัญญาขายชุด แคร์เซ็ต ให้อบจ.ลำพูน นั้น สำนักข่าวอิศรา เคยนำมาเสนอไปแล้วว่า จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 209 หมู่ที่ 3 ตำบลป่าซาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
แจ้งประกอบธุรกิจ จำหน่ายเครื่องเขียนและอุปกรณ์ทุกชนิด
ปรากฎชื่อ นางสาว ณัฐวรรณ รัตนคำนวณ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ ถือหุ้นใหญ่คนละ 50% เท่ากับกัน นาง นฤมล รัตนคำนวณ
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ย้อนกลับไปตรวจสอบข้อมูล หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง พบว่า ยังประกอบธุรกิจตามปกติอยู่
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2562 (นำส่งเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563) แจ้งว่า มีรายได้จากการขายหรือการให้บริการ 9,561,880.58 บาท รายได้ดอกเบี้ย 12,500.00 บาท รวมรายได้ 9,574,380.58 บาท มีต้นทุนขายหรือต้นทุนการให้บริการ 8,061,571.53 บาท ค่าใช้จ่ายในการขาย 979,017.82 บาท รวมรายจ่าย 9,040,589.35 บาท
กำไรสุทธิ 497,316.11 บาท
ทั้งนี้ เกี่ยวกับข้อมูลการเข้ามารับงานโครงการจัดซื้อถุงน้ำใจหรือ แคร์เซ็ต ของ หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง นั้น ในช่วงเดือน เม.ย.2563 ที่เริ่มปรากฎข่าวนี้ใหม่ สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง เพื่อขอสัมภาษณ์ นางสาว ณัฐวรรณ รัตนคำนวณ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้ในเอกสารส่งมอบสินค้าให้กับอบจ. ลำพูน เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้
เบื้องต้น มีผู้ชายรายหนึ่งรับสาย ระบุสถานะว่า เป็นแฟนของนางสาว ณัฐวรรณ รัตนคำนวณ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง
ก่อนจะให้ข้อมูลว่า หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง เข้าไปเสนอราคาขายสินค้าในโครงการฯ นี้ หลังได้รับหนังสือเชิญเป็นทางการจาก อบจ. ลำพูน
"ร้านเราทำธุรกิจขายสินค้าให้กับหน่วยงานราชการมากว่า 20 ปีแล้ว ได้งานหลายที่ไม่ใช่แค่ อบจ.ลำพูน เท่านั้น"
"ส่วนการขายสินค้าโครงการนี้ให้กับ อบจ.ลำพูน เริ่มต้นหลังจากที่เราได้รับหนังสือเชิญให้ไปเข้ารวมเหมือนกับเอกชนรายอื่น และก็ได้รับข้อมูลว่า ทางอบจ.ลำพูน ต้องการสินค้าอะไรบ้าง เราก็มาดูรายละเอียดในส่วนของเราว่าทำได้หรือไม่ เมื่อเห็นว่าเราพอจะทำได้ สามารถจัดหาสินค้าที่อบจ.ลำพูนต้องการได้ แม้ว่าจะมีเวลาไม่มากนัก และพอมีกำไรในการทำธุรกิจ เราก็เสนอราคาสินค้าไปให้ทาง อบจ.ลำพูน พิจารณา เมื่อเขาเลือกเรา เราก็รับงาน หาของมาส่งให้ครบถ้วนตามที่เขาต้องการ"
เมื่อถามว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า สินค้ากับราคาไม่เหมาะสมกัน
ตัวแทน หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้งฯ ตอบว่า "ทางหจก.ฯ ไม่ได้เป็นคนกำหนดรายละเอียดสินค้าว่าจะต้องมีอะไรบ้าง ทาง อบจ.ลำพูน เป็นคนกำหนดสินค้ามา เรามีหน้าที่จัดหาของให้เขาให้ครบ ไปวิ่งหาของมาส่งให้ครบตามสเปคที่กำหนดไว้"
เมื่อถามว่า ไปรับสินค้าจำนวนมากจากไหนมาขายได้ในระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้?
ตัวแทน หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้งฯ ตอบว่า "เราทำธุรกิจขายสินค้าให้กับหน่วยงานราชการมาหลายสิบปี เรามีช่องทางในการหาสินค้า ซึ่งงานนี้สินค้าบางตัว เราก็ไปซื้อมาจาก แม็คโคร ส่วนสินค้าชนิดไหนที่แม็คโครไม่มีเราก็ไปหาซื้อมาจากแหล่งอื่นที่เรารู้จัก และเมื่อเป็นงานที่ต้องแข่งกับเวลา ของบางอย่างจึงอาจจะมีราคาแพง อย่างเช่น หน้ากากอนามัยในจังหวัดไม่มี เราต้องไปสั่งซื้อจากโรงงานในกทม. มันก็ต้องมีค่าใช้จ่าย มีต้นทุน ค่าขนส่ง คนที่ขายของให้เรา เขาก็ต้องการกำไร เป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ แต่เราคิดว่าเราทำได้ เราก็เสนอราคาไป มันขึ้นอยู่กับ อบจ.ลำพูน ว่าจะพิจารณาเลือกเราเข้าไปรับงานหรือไม่"
เมื่อถามว่า แต่สินค้าบางรายการ ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีราคาแพงเกินไปอย่างเช่น ถุงพลาสติกใสซิปล็อค ขนาด 12x18 นิ้ว พร้อมสติ๊กเกอร์ อบจ.ลำพูน ใบละ 55 บาท
ตัวแทน หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้งฯ ตอบว่า "ราคาถุงในท้องตลาดอาจไม่สูงมาก แต่ที่ราคามันสูงเป็นเพราะต้องมีการติดสติกเกอร์ด้วย ซึ่งตอนแรกที่เราเข้าไปรับงาน เรายังไม่รู้ว่ารูปแบบของสติกเกอร์ที่จะให้ติดเป็นแบบไหน เราก็เลยบวกค่าความเสี่ยงเข้าไป และเมื่อเราได้งานมาแล้ว เราก็ไปจ้างออกแบบ สั่งพิมพ์สติกเกอร์มาติด ซึ่งในช่วงเวลางานเร่งด่วนและต้องการของจำนวนมากแบบนี้ ราคามันจึงต้องสูงเป็นธรรมดา"
เมื่อถามย้ำว่า รู้จักใครในอบจ.ลำพูน หรือไม่
ตัวแทน หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้งฯ ตอบว่า "ผมทำธุรกิจขายสินค้าให้กับหน่วยงานราชการมาหลายปี ก็ต้องรู้จักคนในหน่วยงานราชการอยู่แล้ว แต่ก็แค่รู้จักกันในฐานะคู่ค้า แต่ไม่ได้สนิทสนมกับใครถึงขนาดไปนั่งกินข้าวด้วยกันแบบนั้นไม่มี"
เมื่อถามว่า สรุปแล้ว หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้งฯ ทำธุรกิจอะไรกันแน่
ตัวแทน หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้งฯ ตอบว่า "เรารับจ้างขายสินค้าให้กับหน่วยงานราชการทั่วไป แต่มีหน้าร้านขายเครื่องเขียนอยู่ แม้จะเป็นร้านค้าเล็กๆ เก่าๆ แต่เราก็ไม่เคยมีปัญหาในการทำธุรกิจอะไร เพราะเรารู้จักที่ติดต่อหาของมาส่งให้ได้
"เกี่ยวกับโครงการนี้ เราพร้อมให้ความร่วมมือชี้แจงข้อมูลทุกอย่าง หน่วยงานไหนเรียกเราไปเราก็พร้อมให้ความร่วมมือ "
ขณะที่ นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูน เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราเช่นกัน ว่า อบจ. ลำพูน ได้ทำสัญญาจัดซื้อถุงน้ำใจหรือ แคร์เซ็ต กับ หจก. พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง จริง จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการจัดหาสินค้า ได้รับแจ้งว่า ดำเนินการตามขั้นตอนทุกประการ ทั้งการสอบราคาจากเอกชนจำนวน 3 ราย จนกระทั่งได้หจก.ฯ แห่งนี้มา
"โครงการนี้ มีความเร่งรีบต้องรีบดำเนินการ ในการนำสิ่งของไปมอบให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ตามนโยบายป้องกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่เราก็พยายามไปหาตัวเอกชนมา จนกระทั่งได้ หจก.แห่งนี้ ซึ่งยืนยันว่า สามารถทำงานได้ตามกำหนดเวลาแน่นอน"
@นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูน
เมื่อถามว่า คุณภาพสินค้า กับราคา ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม นายกอบจ. ลำพูน ตอบว่า "เท่าที่ถามสอบถามเจ้าหน้าที่ ก็ได้รับการยืนยันว่า คุณภาพสินค้ากับราคา มีความเหมาะสมกัน ส่วนหจก.จะรับสินค้ามาจากไหนนั้น ผมไม่ทราบรายละเอียดมากนัก "
เมื่อถามว่า ทำไมนายกอบจ. ไม่ลงนามในบันทึกข้อตกลงซื้อขายด้วยตัวเอง นายกอบจ. ลำพูน ตอบว่า "เป็นเรื่องปกติในการทำงานของผมอยู่แล้ว มีมักจะกระจายอำนาจให้ผู้อื่นมีส่วนช่วยในการทำงานด้วย"
"ยืนยันว่าเรื่องนี้ ไม่มีปัญหาอะไร ได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้ว และได้รับการยืนยันว่าทำตามขั้นตอนราชการ ทุกคนทำงานด้วยความระมัดระวังอยู่แล้ว ไม่อยากให้มีปัญหาอะไร ....น่าจะสามารถจัดส่งรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ต่อทางจังหวัดได้ทั้งหมด ไม่มีอะไรต้องปิดบังกันอยู่แล้ว" นายกอบจ.ลำพูนกล่าวทิ้งท้าย
อ่านข่าวประกอบ
มีมูลว่าซื้อแพงเกินจริง! ป.ป.ช.ตั้งอนุฯไต่สวนนายก อบจ.ลำพูนปมแคร์เซ็ต 590 บ./ชุด
ไม่เหมือนลำพูน! อบต.ไม้ขาว ซื้อถุงยังชีพโควิค แจกข้าว-ป.กระป๋อง-น้ำปลา 9 พันชุดๆละ465 บ.
หจก.เชียงใหม่ได้อีก1สัญญา! อบจ.ลำพูน ควัก 1.8 ล.ซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิโควิด 594 ตัว
พบอีก! อบจ.ลำพูน ซื้อเครื่องพ่นกันโควิด 11 ตัว 1 ล้าน-เจาะจง 2 บ.เชียงใหม่ ขายให้
ชัดแล้ว! หจก.ขายแคร์เซ็ตคนชรา16.3 ล.ได้งานแจกกลุ่มกักตัวตปท.อีก300ชุด-เจ้าของยันโปร่งใส
เปิดตัว หจก.ขายแคร์เซ็ตคนชรา อบจ.ลำพูน 16.3 ล.-นายกฯ ยันสินค้าเหมาะสม-จ่ายเงินหมดแล้ว
ถุงใบละ55บ.แพงเพราะสติกเกอร์! หจก.ขายแคร์เซ็ตคนชรา อบจ.ลำพูน 16.3 ล. ยันรับงานโปร่งใส
พบ อบจ.ลำพูน ควัก1.6 แสน ซื้อครุภัณฑ์ หจก.กลุ่มขายแคร์เซ็ต16.3 ล.- ลงนามวันเดียวกัน
ข้อมูลใหม่! อบจ.ลำพูน ซื้อแคร์เซ็ตช่วยโควิดแจกกลุ่มคนมาจากตปท.ด้วย 300 ชุดๆ ละ 566 บ.
รองผู้ว่าฯ ลำพูน ยกทีมสอบปากคำซื้อแคร์เซ็ต16.3 ล.-นายกฯ อบจ. ยันไม่ถอดใจพร้อมชี้แจง
เอ็กซ์คลูซีฟ : ผลสอบแคร์เซ็ตอบจ.ลำพูน แพงเกินจริง 7 ล.-ผู้ว่าฯ โวยเจอยัดไส้รายงานประชุม
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage