"... ในประเด็นเรื่องราคาสินค้า คณะกรรมการตรวจสอบ รายงานว่า ได้ไปสืบราคาสินค้าในท้องตลาด รวมไปถึงร้านค้า และห้างค้าสินค้าปลีก ที่มีการระบุว่าเป็นต้นทางในการจัดซื้อสินค้า พบว่า ของที่ซื้อมามีราคาแพงเกินจริงประมาณ 7 ล้านบาท แต่เนื่องจากมีการสรุปผลการสอบสวนไปแล้วว่า การจัดซื้อสินค้าไม่ชอบด้วยระเบียบ ประเด็นเรื่องการจัดซื้อสินค้าแพงเกินจริง 7 ล้าน จึงไม่ได้ระบุถึงอะไรกันมาก..."
"ภายหลังสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นั้น ขณะนี้ได้รับรายงานแล้ว พบการซื้อไม่ชอบด้วยระเบียบการช่วยเหลือประชาชนด้านสาธารณภัย เป็นผลให้เกิดความเสียหายเต็มจำนวนกว่า 16 ล้าน 3 แสนบาท ผู้เกี่ยวข้องเป็นทั้งข้าราชการการเมือง และข้าราชการประจำประมาณ 10 คน
จากนี้จะส่งเรื่องให้คณะกรรมชุดที่ 2 ซึ่งแต่งตั้งขึ้นไว้รอแล้ว โดยกรรมการชุดที่ 2 จะดำเนินการในการสอบวินัย ดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน หรือหากไม่พอก็สามารถต่อได้อีก 30 วัน รวม ทั้งหมด 90 วัน
ขณะเดียวกันก็จะมีการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนการละเมิด กำหนดค่าความเสียหาย ส่งต่อให้กรมบัญชีกลางทำงานควบคู่กันไปด้วย พิจารณาสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องชดใช้เงินคืนต่อไป"
คือ คำชี้แจงล่าสุด ของ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ที่เปิดเผยต่อสาธารณชนถึงความคืบหน้าผลการสอบสวนกรณีการใช้จ่ายงบประมาณกว่า 16.3 ล้านบาท ของ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำพูน ในการจัดซื้อถุงน้ำใจหรือ แคร์เซ็ต ให้กับผู้สูงอายุ 70 ปี ที่ต้องอยู่บ้านตามคำสั่งของจังหวัดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากโรคระบาด โควิด-19 จำนวน 27,700 ชุด ชุดละ 590 บาท ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสินค้าที่จัดซื้อมาไม่สมกับราคางบประมาณที่จ่ายไปก่อนหน้านี้
(อ่านประกอบ : จัดซื้อไม่ชอบ! ผู้ว่าฯลำพูน เผยผลสอบแคร์เซ็ต อบจ.16.3 ล. ชงฟันวินัย-อาญา-ละเมิดต่อ)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ติดต่อไปยัง นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เพื่อสอบถามรายละเอียดผลการสอบสวนกรณีนี้เพิ่มเติม
โดยได้รับการยืนยันจาก นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องจำนวนกว่า 10 ราย ถูกคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชี้มูลความผิดกรณีนี้ เป็นเพราะตรวจสอบพบว่าการซื้อครั้งนี้ไม่ชอบด้วยระเบียบการช่วยเหลือประชาชนด้านสาธารณภัย มีการระบุสินค้าเฉพาะเอาไว้
"การช่วยเหลือประชาชนด้านสาธารณภัย จะต้องช่วยให้ไปเป็นตามหลักการระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ เช่น การจัดซื้อสิ่งของ ถ้าเป็นถุงยังชีพ หมายถึงสิ่งของช่วยประทังชีวิต ถ้าจัดซื้อเป็นอาหาร ก็ต้อง 3 มื้อ ตกอยู่ที่มื้อละไม่เกิน 30 บาท ถ้าเป็นค่าซ่อมบ้านพัก ก็จะมีการระบุเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ เอาไว้ เมื่อคณะกรรมการฯ นำสิ่งของที่ อบจ.ลำพูน จัดซื้อไว้มาเปรียบเทียบกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบ พบว่าการจัดซื้อทุกรายการที่ไม่ตรงกับระเบียบ จึงถือเป็นการจัดซื้อไม่ชอบตามระเบียบ"
นายพงศ์รัตน์ กล่าวย้ำว่า "เมื่อการใช้จ่ายเงินไม่เป็นไปตามระเบียบ สิ่งของที่จัดซื้อมาไม่ถูกต้อง เป็นความเสียหาย เมื่อมีความเสียหายก็จะต้องมีผู้ชดใช้"
@ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน
เมื่อสอบถามถึงประเด็นเรื่องราคาสินค้าที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีราคาแพงเกินความเป็นจริง นายพงศ์รัตน์ กล่าวว่า ในประเด็นเรื่องราคาสินค้า คณะกรรมการตรวจสอบ รายงานว่า ได้ไปสืบราคาสินค้าในท้องตลาด รวมไปถึงร้านค้า และห้างค้าสินค้าปลีก ที่มีการระบุว่าเป็นต้นทางในการจัดซื้อสินค้า พบว่า ของที่ซื้อมามีราคาแพงเกินจริงประมาณ 7 ล้านบาท แต่เนื่องจากมีการสรุปผลการสอบสวนไปแล้วว่า การจัดซื้อสินค้าไม่ชอบด้วยระเบียบ ประเด็นเรื่องการจัดซื้อสินค้าแพงเกินจริง 7 ล้าน จึงไม่ได้ระบุถึงอะไรกันมาก
เมื่อถามถึงผู้เกี่ยวข้องจำนวน 10 ราย ที่ถูกสอบสวนว่าเป็นใครบ้าง
นายพงศ์รัตน์ กล่าวว่า "ในรายงานการตรวจสอบ คณะกรรมการฯ ระบุว่ามีผู้เกี่ยวข้องประมาณ 10 ราย แต่ผมขอยังไม่บอกว่าเป็นใครบ้าง เพราะยังต้องมีการสอบสวนอีกหลายขั้นตอน ซึ่งในขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสอบวินัย จะมีการแยกข้อเท็จจริงที่ทำมาเป็นจัดทำข้อกล่าวหา ผู้ส่งให้ผู้เกี่ยวข้องแต่ละรายได้รับทราบ เพื่อเปิดโอกาสให้ชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป อย่างไรก็ดี รายงานผลการสอบสวนที่ได้รับมา ทางจังหวัดได้มีการทำสำเนา ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นทางการไปแล้ว"
ส่วนกรณีที่ปรากฎเอกสารรายงานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน ครั้งที่ 8/2563 วันที่ 31 มี.ค.2563 ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ว่า มีการระบุรายละเอียดสินค้าที่จะจัดซื้อถุงน้ำใจหรือ แคร์เซ็ต 13 รายการ รวมอยู่ด้วยแล้วนั้น
นายพงศ์รัตน์ กล่าวชี้แจงว่า เป็นฝีมือของบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่กำลังบิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิดว่า ผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อแคร์เซ็ตของอบจ.ลำพูน ด้วย เพราะในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอกสารรายงานการประชุมนั้น มีความผิดพลาดในเรื่องการบันทึกข้อมูลเกิดขึ้น
" ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน ครั้งที่ 8/2563 วันที่ 31 มี.ค.2563 ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์การป้องกันโรคโควิด และมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เกี่ยวกับการให้ผู้สูงอายุ 70 ปี ต้องพักอาศัยอยู่ในบ้าน ห้ามออกไปไหน โดยไม่จำเป็นเพราะเป็นความเสี่ยง ทางจังหวัดก็มีการรับเรื่องมาพิจารณาและมีมติรับหลักการมาปฏิบัติ ในการให้ควบคุมดูแลผู้สูงอายุ พักอาศัยอยู่ในบ้าน ห้ามออกไปไหน ซึ่งในการประชุมวันนั้น มีตัวแทนจากหน่วยงานสาธารณสุขเสนอว่า ถ้าจะให้กลุ่มผู้สูงอายุอยู่แต่ในบ้าน ก็ควรมีการจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นให้หน่อย เพื่อให้คนกลุ่มนี้แยกตัวไม่ใช้ของปะปนกับสมาชิกในบ้าน ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบกับแนวทางนี้ และรับหลักการให้ซื้อของจำเป็น แต่การดำเนินการจะต้องเป็นไปตามระเบียบ ให้ท้องถิ่นไปตรวจสอบดู แต่ไม่ได้มีการระบุรายละเอียดสินค้า 13 รายการแต่อย่างใด ซึ่งในการประชุมครั้งต่อมา เมื่อมีการตรวจสอบพบการเขียนรายงานการประชุมในลักษณะดังกล่าว ก็ได้มีการสอบถามเจ้าหน้าที่ ก็พบว่า เป็นการเขียนโดยพลการของฝ่ายเลขานุการ ซึ่งเป็นคนจากสธ."
ผู้ว่าจังหวัดลำพูน ยังกล่าวย้ำว่า "ยืนยันว่ามติที่ประชุม วันที่ 31 มี.ค. แค่เห็นชอบในหลักการว่าให้มีการจัดซื้อสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน แต่การดำเนินการจะต้องเป็นไปตามระเบียบเท่านั้น ไม่ได้มีการระบุรายละเอียดสินค้าทั้ง 13 รายการว่า ให้ไปจัดซื้ออะไรบ้าง ซึ่งกรณีนี้ ผมได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงไปแล้วอีกหนึ่งกรณีว่า มีใครเกี่ยวข้องบ้าง และมีวัตถุประสงค์อะไรที่ทำเรื่องแบบนี้"
อ่านประกอบ :
อบจ.สระบุรี
อบจ.สระบุรี ก็ซื้อ! เครื่องพ่นกันโควิดตัวละ8.5หมื่น-จัดเต็มกล้องตรวจอุณหภูมิ 2 ล้าน
สั่งเลิกซื้อกล้องตรวจอุณหภูมิ 2 ล้านแล้ว! ปลัดฯ อบจ.สระบุรี แจงจัดหาของกันโควิด 20 ล.โปร่งใส
อบจ.สมุทรปราการ
อบจ.ปากน้ำซื้อจริง! แอลกอฮอล์กันโควิด 294 ล.เอกชนรายเดียว-ปลัดแจงทำตามขั้นตอนไม่มีนอกใน
อบจ.ปากน้ำ ซื้อโดรนกันโควิดอีก 6 ชุด 1.8 ล. อ้างใช้บินพ่นยาพื้นที่สีแดง -ปลัดยันทำถูกต้อง
สืบราคากลางพร้อมบ.พ่อ! เปิดตัวคู่สัญญาขายโดรนกันโควิด อบจ.ปากน้ำ1.8 ล. ยันสินค้ามีคุณภาพ
จังหวัดภูเก็ต
เปิดคำชี้แจงบ.เอ็นริชฯ กรณีโบรชัวร์สินค้าโผล่หนังสือเวียนภูเก็ต-อบจ.ฯซื้อแล้ว 4 เครื่อง 2.9 แสน
ข้อมูลใหม่เครื่องพ่นกันโควิด! 'ภูเก็ต' สั่งซื้อยกจว.-แนบเอกสารชื่อบ.โบรชัวร์สินค้าครบ
ได้สเปคมาจากสธ.! ท้องถิ่นภูเก็ต รับบกพร่องปล่อยชื่อบ.โผล่หนังสือเวียนซื้อเครื่องพ่นกันโควิด
เทศบาลหลักหก
ยื่น ป.ป.ช.แล้ว! 'เชาว์' พาสมาชิกหลักหกร้องสอบบิ๊กเทศบาล-พวก 6 ราย ซื้อเครื่องพ่นกันโควิด
คืนเงินเทศบาลแล้ว! เปิดตัวผู้ขายเครื่องพ่นกันโควิดตัวละ 8.5 หมื่น แจงของหายากทำราคาแพง
โชว์ใบส่งเครื่องพ่นกันโควิดตัวละ 8.5 หมื่น-ซื้อชุดใส่ด้วย1.7 แสน- เทศบาลหลักหก ยันโปร่งใส
เผยโฉม 'เครื่องพ่นกันโควิด' เทศบาลหลักหกตัวละ 8.5 หมื่น-ผู้แทนจำหน่ายยันราคาส่งแค่ 1.7 หมื่น
'เชาว์' โต้ข้ออ้างกักตัว14 วัน! ยันมีหลักฐาน นายกฯหลักหก เซ็นเช็คซื้อเครื่องพ่นกันโควิดเอง
ไปกักตัวมา14 วัน ไม่รู้ใครทำ! นายกเทศมนตรีหลักหก เรียกจนท.แจงซื้อเครื่องพ่นกันโควิดแพงเวอร์
อบจ.ลำพูน
หจก.เชียงใหม่ได้อีก1สัญญา! อบจ.ลำพูน ควัก 1.8 ล.ซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิโควิด 594 ตัว
พบอีก! อบจ.ลำพูน ซื้อเครื่องพ่นกันโควิด 11 ตัว 1 ล้าน-เจาะจง 2 บ.เชียงใหม่ ขายให้
ชัดแล้ว! หจก.ขายแคร์เซ็ตคนชรา16.3 ล.ได้งานแจกกลุ่มกักตัวตปท.อีก300ชุด-เจ้าของยันโปร่งใส
เปิดตัว หจก.ขายแคร์เซ็ตคนชรา อบจ.ลำพูน 16.3 ล.-นายกฯ ยันสินค้าเหมาะสม-จ่ายเงินหมดแล้ว
ถุงใบละ55บ.แพงเพราะสติกเกอร์! หจก.ขายแคร์เซ็ตคนชรา อบจ.ลำพูน 16.3 ล. ยันรับงานโปร่งใส
พบ อบจ.ลำพูน ควัก1.6 แสน ซื้อครุภัณฑ์ หจก.กลุ่มขายแคร์เซ็ต16.3 ล.- ลงนามวันเดียวกัน
ข้อมูลใหม่! อบจ.ลำพูน ซื้อแคร์เซ็ตช่วยโควิดแจกกลุ่มคนมาจากตปท.ด้วย 300 ชุดๆ ละ 566 บ.
รองผู้ว่าฯ ลำพูน ยกทีมสอบปากคำซื้อแคร์เซ็ต16.3 ล.-นายกฯ อบจ. ยันไม่ถอดใจพร้อมชี้แจง
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage