“...สำนักข่าวอิศราได้ติดต่อไปยัง ศ.ดร.ธีระ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ได้รับคำชี้แจงว่า เคยได้เข้าไปเป็นผู้ทรงคุณวุฒิฯในมหาวิทยาลัยนี้จริง แต่เอกสารแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิฯฉบับดังกล่าวไม่ใช่ความจริงอย่างแน่นอน เนื่องจากว่าในเอกสารต้องอ่านงานพิจารณาตำแหน่งขอ ผศ.ในสาขาวิชาภาษาศาสตร์ประยุกต์ ซึ่งดูจากรายชื่อแล้ว มีผู้ทรงคุณวุฒิฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาขาพิจารณานั้นเลย เช่น ศ.ดร.บรรพต เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ ฉะนั้นจึงไม่สามารถอ่านงานวิชาการด้านภาษาได้เลย ตามข้อกำหนดของหลักเกณฑ์ขอตำแหน่งวิชาการ อีกข้อสังเกตในเอกสารปรากฏผู้กรรมการทรงคุณวุฒิฯมากถึง 5 ราย ปกติจะใช้เฉพาะการขอในกรณีพิเศษเท่านั้น... ”
.................................
ประเด็นตรวจสอบข้อร้องเรียนการปลอมแปลงลายมือชื่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิประเมินผลงานทางวิชาการและจริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (มรภ.) เบิกจ่ายเงินค่าอ่านงาน ขอตำแหน่งทางวิชากร ในเบื้องต้นผู้บริหารมหาวิทยาลัยยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลความจริง และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจากฝ่ายบริหารและสภามหาวิทยาลัยในขณะนี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า ศ.ดร.บรรพต สุวรรณประเสริฐ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร ปัจจุบันเกษียณอายุราชการ และ ศ.ดร.อภิรัฐ ศิริธราธิวัตร อาจารย์คณะวิศวกรรมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ปรากฎชื่อเป็น 2 ใน 4 คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ เพื่อประเมินผลงานของผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) รายหนึ่ง เพื่อขึ้นเป็นรองศาสตราจารย์ (รศ.) ได้ออกมายืนยันพร้อมแสดงหลักฐานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการเรื่องนี้แต่อย่างใด
(อ่านประกอบ: เขียนชื่อยังผิด! เปิดข้อมูล อ.รายที่ 2 จาก 'มข.' โดนปลอมลายเซ็นตั้งกก.ประเมินงานวิชาการ, เทียบชัดๆ ลายเซ็นปลอมชื่อตั้งกก.ประเมินงานวิชาการ มรภ.สารคาม-ใช้เบิกค่าน้ำมันรถด้วย)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับแจ้งข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมอีกหลายชุด ที่ยืนยันว่า มีอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิฯ อีกหลายราย ปรากฏชื่อในเอกสารแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิฯ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด
โดยหนึ่งในชุดเอกสารที่ได้รับมา ปรากฏชื่อของ ศ.ดร.ธีระ รุญเจริญ อดีตคณบดีคณะศึกษาศาสตร์และอดีตคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการตรวจและประเมินผลงานวิชาการ ของอาจารย์คนหนึ่ง เพื่อขอตำแหน่ง ผศ. ในสาขาภาษาศาสตร์ประยุกต์ และมีรายชื่อของกรรมการตำแหน่ง ศ. อีก 5 คน ปรากฏในเอกสารด้วย หนึ่งในรายชื่อนั้นคือ ศ.ดร.บรรพต สุวรรณประเสริฐ ที่เคยได้รายงานไปแล้วว่า โดนปลอมแปลงลายเซ็นเบิกจ่ายค่าอ่านงานและค่าน้ำมันรถโดยที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว (อ่านประกอบ : เทียบชัดๆ ลายเซ็นปลอมชื่อตั้งกก.ประเมินงานวิชาการ มรภ.สารคาม-ใช้เบิกค่าน้ำมันรถด้วย)
ขณะที่ สำนักข่าวอิศราได้ติดต่อไปยัง ศ.ดร.ธีระ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ได้รับคำชี้แจงว่า เคยได้เข้าไปเป็นผู้ทรงคุณวุฒิฯในมหาวิทยาลัยนี้จริง แต่เอกสารแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิฯฉบับดังกล่าวไม่ใช่ความจริงอย่างแน่นอน เนื่องจากว่าในเอกสารต้องอ่านงานพิจารณาตำแหน่งขอ ผศ.ในสาขาวิชาภาษาศาสตร์ประยุกต์ ซึ่งดูจากรายชื่อแล้ว มีผู้ทรงคุณวุฒิฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาขาพิจารณานั้นเลย เช่น ศ.ดร.บรรพต เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ ฉะนั้นจึงไม่สามารถอ่านงานวิชาการด้านภาษาได้เลย ตามข้อกำหนดของหลักเกณฑ์ขอตำแหน่งวิชาการ อีกข้อสังเกตในเอกสารปรากฏผู้กรรมการทรงคุณวุฒิฯมากถึง 5 ราย ปกติจะใช้เฉพาะการขอในกรณีพิเศษเท่านั้น
“ดูจากรายชื่อแล้ว หลายท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิฯในสายวิชาชีพที่ไม่มีเกี่ยวข้องกับผู้ขอตำแหน่ง ศ.ดร.บรรพต เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ ทำให้เอกสารฉบับดังกล่าวนี้ไม่ใช่เอกสารจริง อีกข้อสังเกตผมได้เห็นเอกสารแต่งตั้งจำนวนหลายชุด ที่มีชื่อผมเป็นผู้ทรงคุณวุฒิฯขอตำแหน่งวิชาการบางราย มีการออกคำสั่งผู้ทรงคุณวุฒิฯหลายชุดที่ไม่เป็นความจริงขึ้นมาเพื่อเบิกจ่ายเงินค่าอ่านงานและค่าเดินทาง” ศ.ดร.ธีระ กล่าว
สำหรับจากเอกสารชุดเดียวกันนี้ปรากฏชื่อของ ศ.ดร.ธีระ ถูกนำชื่อไปเบิกจ่ายค่าอ่านงานวิชาการจำนวน 9,000 บาท และค่าน้ำมันรถยนต์ทะเบียน กธ 6733 สงขลา ไป - กลับ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช และ โรงแรมสวนสุนันทา จ.กรุงเทพมหานคร 5,200บาท โดยเอกสารระบุที่อยู่ว่าเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ขณะที่ ศ.ดร.ธีระ เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา หลังจากเห็นเอกสารและลายเซ็นดังกล่าวว่า ไม่ได้เขียนเอกสารชุดดังกล่าวแน่นอน และไม่เคยมีที่อยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช อีกทั้งทะเบียนรถยนต์สงขลา ก็ไม่ใช่ของตน ตามที่ปรากฏในเอกสาร
“ไม่เคยมีป้ายรถทะเบียนสงขลา และที่อยู่ในเอกสารระบุ ผมเคยทำงานเป็นคณะกรรมการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการ (ก.พ.ว.) ด้วย ช่วยงานมาก็หลายปี ไม่คิดว่าจะทำกันอย่างนี้เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโดนปลอมเอกสารอีกกี่ชุด อีกกี่คำสั่ง” ศ.ดร.ธีระ กล่าว
นอกจากนี้ ศ.ดร.ธีระ ยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงเอกสารปลอมหลายอย่าง อาทิ การปลอมเอกสารวาระและสรุปการประชุม ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง และมีข้อสงสัยต่อว่าจะมีการใช้เอกสารดังกล่าวนำเข้าไปเสนอต่อ ก.พ.ว. เพื่อพิจารณาให้ตำแหน่งทางวิชาการด้วยหรือไม่
ศ.ดร.ธีระ ยังได้ยืนยันกับสำนักข่าวอิศราต่อว่า หลังจากได้รับรู้เรื่องราว การปลอมแปลงเอกสารและลายมือชื่อ ที่ปรากฏชื่อของตนด้วยนั้น ทำให้เกิดความไม่สบายใจ อยากให้มีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบอย่าจริงจัง ว่าความเป็นมาอย่างไร ทำไมเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ สถานีตำรวจสภ.เมืองมหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา
“ผมได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่สภ.มหาสารคาม เป็นการร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบสวนหาความจริงต่อเรื่องนี้ โดยที่เชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น ให้มหาวิทยาลัยเร่งตรวจสอบ นำคนผิดมาลงโทษ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป”
ด้าน ผศ.ดร.ภูษิต บุญทองเถิง รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการเรื่องของการสอบสวนหาความผิดเรื่องดังกล่าวแล้ว และทางสภามหาวิทยาลัยก็ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยดำเนินการตามกรอบระยะเวลา ที่กฎหมายกำหนด ทั้งหมดอยู่ในขั้นของการดำเนินการเพื่อหามูลความผิด ถ้าพบก็จะพิจารณาว่าจะดำเนินการตามข้อกฎหมายต่อได้อย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องของการแจ้งความ ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นมาอย่างไร และมีมูลค่าความเสียหายเท่าไหร่ ผศ.ดร.ภูษิต ตอบว่า ไม่สามารถให้ข้อมูลเรื่องนี้ทางโทรศัพท์ได้
ศ.ดร.ธีระ รุญเจริญ แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ สถานีตำรวจสภ.เมืองมหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา
อ่านประกอบ :
เขียนชื่อยังผิด! เปิดข้อมูล อ.รายที่ 2 จาก 'มข.' โดนปลอมลายเซ็นตั้งกก.ประเมินงานวิชาการ
เทียบชัดๆ ลายเซ็นปลอมชื่อตั้งกก.ประเมินงานวิชาการ มรภ.สารคาม-ใช้เบิกค่าน้ำมันรถด้วย
พบขบวนการปลอมลายเซ็นตั้งกก.ประเมินงานวิชาการ ม.ดังอีสาน!ผู้บริหารฯรับมีทุจริตสั่งสอบแล้ว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage