“...แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2562 มีรายได้รวม 349,137,825 บาท รายจ่ายรวม 322,985,009 บาท เสียภาษีเงินได้ 10,802,311 บาทกำไรสุทธิ 15,350,505 บาท…”
กำลังเป็นประเด็นดรามาร้อนแรงในโลกออนไลน์!
ภายหลังเฟซบุ๊กออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณีศาลมีคำสั่งให้เฟซบุ๊กปิดกลุ่ม รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ซึ่งถูกทางการไทยระบุว่าเป็นกลุ่มที่กระทำความผิดตามกฎหมาย อย่างไรก็ดีข้อเรียกร้องจากรัฐบาลไทยครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่รุนแรง และขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน รวมถึงเสรีภาพในการแสดงออก พร้อมกับเตรียมโต้แย้งข้อกฎหมายในเรื่องนี้ การแทรกแซงของรัฐบาลเช่นนี้ถือเป็นการบั่นทอนความสามารถของเฟซบุ๊กในการลงทุนในไทย (อ่านประกอบ : บั่นทอนลงทุนในไทย!'เฟซบุ๊ก'แถลง รบ.แทรกแซงเกินขอบเขต นายกฯแจงคำสั่งศาลปิดเพจผิด กม.)
อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2563 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ชี้แจงถึงกรณี้นี้ยืนยันว่า คำสั่งดังกล่าวดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมไทย โดยดำเนินการให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ปิดเนื้อหาที่เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ไปแล้วกว่า 1,024 รายการ ยืนยันไม่ใช่การกลั่นแกล้งบุคคลใด
นายพุทธิพงษ์ ระบุด้วยว่า หากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นจริง กระทรวงดิจิทัลฯ มีทีมกฎหมายศึกษาข้อมูลพร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องการถอนการลงทุนนั้น บริษัทข้ามชาติก่อนเข้ามาลงทุนในไทยต้องศึกษาบริบท ระเบียบทางสังคมมาก่อนแล้ว ต้องแยกให้ได้ ห้ามไม่ได้หากเฟซบุ๊กตัดสินใจเช่นนั้น (อ่านประกอบ : เมินถอนทุน-ตั้งทีมสู้! รมว.ดิจิทัลฯลั่นขอเฟซบุ๊กปิดกลุ่มหมิ่นสถาบันฯทำตามกฎหมายไทย)
ไม่ว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้จะมีบทสรุปออกมาอย่างไร?
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ธุรกิจของเฟซบุ๊กในไทยเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีหลัง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2563 พบว่า บริษัท เฟซบุ๊ก (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2558 ทุนปัจจุบัน 108 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจ กิจกรรมการบริการอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในอื่น ๆ ตั้งอยู่ที่ 127 อาคารเกษร ทาวเวอร์ ชั้น 27 ห้องเลขที่ เอ บี ซี ดี อี เอฟ และ Corridor ถ.ราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
ปรากฏชื่อ นายเดวิด วิลเลี่ยง คลิง น.ส.ซูซาน เจนนิเฟอร์ ซิโมน เทย์เลอร์ และนายไมเคิล ลี จอห์นสัน เป็นกรรมการ
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2562 มีรายได้รวม 349,137,825 บาท รายจ่ายรวม 322,985,009 บาท เสียภาษีเงินได้ 10,802,311 บาทกำไรสุทธิ 15,350,505 บาท
มีสินทรัพย์รวม 212,518,007 บาท เป็นสินทรัพย์หมุนเวียน 134,128,778 บาท สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 78,389,229 บาท ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 73,591,157 บาท ลูกหนี้การค้าสุทธิ 8,525,717 บาท มีหนี้สินรวม 70,636,800 บาท เป็นหนี้สินหมุนเวียน 55,337,264 บาท หนี้สินไม่หมุนเวียน 15,299,536 บาท
ย้อนไปเมื่อปี 2561 แจ้งรายได้รวม 252,875,498 บาท รายจ่าวรวม 233,654,262 บาท กำไรสุทธิ 10,260,014 บาท ส่วนปี 2560 แจ้งรายได้รวม 113,758,745 บาท รายจ่ายรวม 105,372,985 บาท กำไรสุทธิ 5,578,377 บาท
เท่ากับว่ารายได้ช่วงปี 2562 เพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2561 กว่า 96.2 ล้านบาทเลยทีเดียว?
ข้อมูลจาก Customer Insight เว็บไซต์สำรวจสถิติระดับโลก เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กในไทย พบว่า มีบัญชีผู้ใช้ประมาณ 45 ล้านบัญชี แบ่งเป็น เพศชาย 23 ล้านบัญชี เพศหญิง 22 ล้านบัญชี จากจำนวนผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 2.3 พันล้านบัญชี
ขณะที่ข้อมูลจาก Thailand Zocial Award 2019 ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กทุก ๆ วัน มากถึง 37 ล้านบัญชี โดย 98% ของผู้ใช้ในไทยเลนผ่านสมาร์ทโฟน (อ้างอิงข้อมูลจาก : https://www.thumbsup.in.th/facebook-thailand-insight)
ทั้งหมดคือข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการลงทุนของเฟซบุ๊กในไทย ก่อนกรณีดรามาบนโลกออนไลน์ในประเด็นเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็น
ท้ายที่สุดเรื่องนี้จะมีบทสรุปอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด
หมายเหตุ : ภาพประกอบเฟซบุ๊ก จาก https://techcrunch.com/
อ่านประกอบ :
เมินถอนทุน-ตั้งทีมสู้! รมว.ดิจิทัลฯลั่นขอเฟซบุ๊กปิดกลุ่มหมิ่นสถาบันฯทำตามกฎหมายไทย
บั่นทอนลงทุนในไทย!'เฟซบุ๊ก'แถลง รบ.แทรกแซงเกินขอบเขต นายกฯแจงคำสั่งศาลปิดเพจผิด กม.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/