"...ชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งเกิดความรู้สึกต่อต้านที่บางรัฐและห้างร้านหลายแห่ง ได้กำหนดให้ต้องสวมใส่หน้ากากเพื่อช่วยลดการแพร่ของไวรัสโควิด-19 จากผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ..."
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19 มากที่สุดในโลก โดยมีผู้ติดเชื้อถึง 1.34 ล้านคน และเสียชีวิตอีกกว่า 80,000 ราย
แต่ชาวอเมริกันหลายคนก็ยังไม่ยอมสวมหน้ากากเวลาอยู่ในที่สาธารณะ
แม้จะมีคำแนะนำจากองค์กรอนามัยโลกและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ว่าหน้ากากจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อตัวนี้ได้
นักจิตวิทยาชาวอเมริกันชี้ว่าหลายคนเลือกที่จะไม่ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนขี้ขลาดหรืออ่อนแอ แม้ว่าในใจลึกๆก็มีความกังวลว่าจะติดเชื้อเช่นกัน และก็มีชาวอเมริกันบางส่วนที่เห็นว่าการบังคับใส่หน้ากากในที่สาธารณะนั้นเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของตน และผิดรัฐธรรมนูญ
David Abrams นักจิตวิทยาและศาสตราจารย์ด้านพฤติกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก กล่าวว่ามีหลายคนที่มองว่าการใส่หน้ากากก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่ากลัวจะติดไวรัสอย่างมาก ดังนั้นเพื่อจะแสดงให้เห็นว่าตนมีความแกร่งกล้า จึงไม่ยอมใส่หน้ากากเสียเลย
เขากล่าวว่าคนพวกนี้แม้ว่าจะมีความกลัวอยู่ในใจลึกๆ แต่ก็ไม่กล้าที่จะแสดงออกมาให้ใครเห็น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะคนเรามีสัญชาตญาณของบรรพบุรุษสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่จะเก็บซ่อนความกลัวไว้เพื่อให้ตัวเองปลอดภัยจากสัตว์อื่น
ชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งเกิดความรู้สึกต่อต้านที่บางรัฐและห้างร้านหลายแห่ง ได้กำหนดให้ต้องสวมใส่หน้ากากเพื่อช่วยลดการแพร่ของไวรัสโควิด-19 จากผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ Abrams อธิบายว่าตามหลักจิตวิทยานั้น เมื่อคนเราถูกบอกให้ทำอะไรที่ขัดกับวิถีปฏิบัติเดิมๆของตน ก็มักจะต่อต้านและตอบโต้คนที่สั่งให้ทำ
นายแพทย์ David Aronoff ศาสตราจารย์ด้านแพทยศาสตร์และผู้อำนวยการฝ่ายโรคติดต่อของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย Vanderbilt กล่าวว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับการใส่หน้ากากเพื่อเหตุผลด้านสุขภาพ ดังนั้นเมื่อถูกบังคับให้ต้องใส่หน้ากากตอนไปซื้อของหรือออกกำลังกายในที่สาธารณะ จึงมีการต่อต้านอย่างรุนแรง
Steven Taylor นักจิตวิทยาและผู้เขียนหนังสือ "The Psychology of Pandemics (จิตวิทยาของโรคระบาด)" กล่าวว่าธรรมชาติของคนนั้นจะต่อต้านเมื่อถูกสั่งให้ทำอะไร แม้ว่าสิ่งนั้นจะช่วยให้ตนเองปลอดภัย "คนเราให้ความสำคัญกับเสรีภาพ และจะเกิดความขุ่นเคืองและโกรธแค้น เมื่อมีคนพยายามจะละเมิดเสรีภาพของตน"
เมื่อเร็วๆนี้ได้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นในรัฐมิชิแกน ซึ่งกำหนดให้ทุกคนต้องสวมหน้ากากเวลาเข้าห้างร้านต่างๆ พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างแห่งหนึ่งถูกลูกค้ายิงเสียชีวิตเพราะไม่ยอมให้เข้าร้านเนื่องจากไม่ได้สวมหน้ากาก
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว พนักงานของห้างร้านหลายแห่งในเมืองสติลวอเตอร์ รัฐโอคลาโฮมา ถูกขู่ทำร้ายร่างกายเพราะพยายามบังคับใช้คำสั่งของนายกเทศมนตรี ที่ให้ลูกค้าต้องสวมหน้ากากเมื่อเข้าร้านและภัตตาคาร วันรุ่งขึ้นนายกเทศมนตรี Will Joyce ต้องเปลี่ยนคำสั่ง จากบังคับให้สวมหน้ากาก เป็นแค่แนะนำให้สวมหน้ากากเท่านั้น
Norman McNickle ผู้บริหารคนหนึ่งของเมือง กล่าวว่าที่ต้องเปลี่ยนแปลงคำสั่งเพราะไม่ต้องการให้พนักงานของห้างร้านต่างๆต้องเสี่ยงกับการถูกทำร้ายร่างกาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีไม่พอที่จะไปรักษาความปลอดภัยให้
เขาเห็นว่าพวกต่อต้านอ้างอย่างผิดๆ ว่าการกำหนดให้สวมหน้ากากนั้นละเมิดรัฐธรรมนูญ และอ้างว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์บังคับให้พลเมืองต้องสวมหน้ากาก
เรียบเรียงโดยอ้างอิงข้อมูลจาก https://edition.cnn.com/2020/05/06/health/why-people-dont-wear-masks-wellness-trnd/index.html
อ่านเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
พบอเมริกันผิวดำเสี่ยงสูง ป่วย-ตาย จากโควิด-19 มากกว่าคนผิวขาว
รัฐมิสซูรีเริ่มก่อน! ยื่นฟ้องจีนปกปิดข้อมูลโควิด-19 กักตุนหน้ากาก ทำไวรัสลุกลามทั่วโลก
เตือนญี่ปุ่นขาดแคลนห้องไอซียู ‘การแพทย์ฉุกเฉินล่มสลาย’ ยอดตายอาจถึงหลักแสน
ไวรัสโควิด-19 สร้างปัญหาสองเด้งให้ตะวันออกกลาง
บริการพิเศษช่วงโควิด-19 ระบาด: ส่งสินค้าถึงหน้าบ้านด้วยเลื่อนหิมะเทียมสุนัข
หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เตือนให้ระวังโรคระบาดตั้งแต่ปลายปีก่อน แต่ทรัมป์ไม่ฟัง
เหตุเกิดที่ ‘วิสคอนซิน’ เหยียดเชื้อชาติ กรณี‘ไวรัส โควิด-19’ ลามเข้าสถาบันการศึกษา
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/