"...จากการตรวจสอบพบต้นไม้ยางนาขนาดใหญ่ล้มอยู่ 1 ต้น มีการสุมไฟโคนต้นให้ยืนต้นตาย และในพื้นที่ยังมีต้นยางนาขนาดใหญ่เหลือเพียง 12 ต้น แต่มีการเจาะ และเผาสุมไฟโคนต้นไม้ทุกต้น เพื่อเอาน้ำมันยาง และให้ต้นไม้ยืนต้นตาย ก่อนโค่นออก เพื่อใช้ประโยชน์ในที่ดินได้เต็มที่..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2563 เวลา 11.00 น. ชุดปฏิบัติการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 (ศปป.4) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุด ปฏิบัติการฯ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ท.เรืองสิทธิ์ มิตรภานนท์ ผู้อำนวยการศปป.4 ร่วมกับกรมป่าไม้ ภายใต้การอำนวยการของ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นำโดยนายสมชาย ฉิมแย้ม บูรณาการหน่วยงานประกอบด้วย กอ.รมน.จังหวัด ตำรวจ สภ.เขาค้อ และฝ่ายปกครอง อ.เขาค้อ นำโดยนายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอ เข้าตรวจสอบการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาปางก่อ และป่าวังชมภู ของนายทุนรายใหญ่ บริเวณ หมู่ 3 บ.มุกโต ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ พื้นที่ป่าถูกบุกรุกไถพรวนเป็นบริเวณกว้าง พื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกขิง บางส่วนปลูกสัปปะรด บางส่วนมีการไถพรวนแต่ยังไม่ได้ปลูก และบางส่วนมีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม สภาพมีเพียงหญ้าคา กอพง หญ้าคอมมิวนิสต์ และวัชพืชปกคลุม
พบต้นไม้ยางนาขนาดใหญ่ล้มอยู่ 1 ต้น มีการสุมไฟโคนต้นให้ยืนต้นตาย และในพื้นที่ยังมีต้นยางนาขนาดใหญ่เหลือเพียง 12 ต้น แต่มีการเจาะ และเผาสุมไฟโคนต้นไม้ทุกต้น เพื่อเอาน้ำมันยาง และให้ต้นไม้ยืนต้นตาย ก่อนโค่นออก เพื่อใช้ประโยชน์ในที่ดินได้เต็มที่
(อ่านประกอบ : เผายางนายักษ์ 13 ต้นให้ยืนตาย! ผู้สมัคร ส.ส.- เสี่ยร้านทอง รุกป่าเขาค้อ 436 ไร่)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา นำได้ภาพชุดการเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าหลังบ้านมุกโตในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู ท้องที่หมู่ที่ 3 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบอีกครั้ง
@แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ แสดงบริเวณพื้นที่ตรวจยึด
-ปี 2545 มีป่าไม้เต็มบริเวณ-
-ปี 2560 พื้นที่ป่าไม้ลดจำนวนลงอย่างมาก-
-ภาพต้นไม้ยางนาขนาดใหญ่ล้มอยู่ 1 ต้น มีการสุมไฟโคนต้นให้ยืนต้นตาย
และในพื้นที่ยังมีต้นยางนาขนาดใหญ่เหลือเพียง 12 ต้น แต่มีการเจาะ และเผาสุมไฟโคนต้นไม้ทุกต้น-
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพื้นที่ของนายทุน รวม 2 แปลง พื้นที่รวม 436 - 1 - 32 ไร่ ค่าเสียหายของรัฐในเบื้องต้นคิดเป็นเงิน รวม 29,777,000 บาท ได้แก่
แปลงที่ 1 เป็นของเป็นอดีตผู้สมัคร สส. สอบตก ใน จ.เพชรบูรณ์ เข้ามากว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว
โดยพบมีการฝังเสาคอนกรีต เพื่อปลูกต้นพริกไทยทั่วบริเวณ แต่ไม่ได้ผล ปัจจุบันให้ชาวม้งเช่าปลูกขิง และสับปะรด เมื่อตรวจสอบข้อมูลการสำรวจการถือครองที่ดินตาม มติ ครม. 30 มิ.ย.41 พบว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือเป็นของนายทุนรายนี้แล้ว ซึ่งไม่เข้าเงื่อนไขตาม มติ ครม.ดังกล่าว และบางส่วนไม่มีการสำรวจการถือครอง จึงตรวจยึดพื้นที่ 311 - 1 - 32 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน จำนวน 21,246,473 บาท
แปลงที่ 2 เป็นของนายทุนชื่อ ‘เสี่ยใหม่’ เจ้าของร้านขายทองชื่อดัง ในเมืองเพชรบูรณ์ มีคนดูแลอยู่ใน บ.มุกโตปัจจุบันให้ชาวม้งเช่าปลูกขิง และข้าวไร่
เมื่อตรวจสอบข้อมูลการสำรวจการถือครองที่ดินตาม มติ ครม. 30 มิ.ย.41 พบว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือเป็นของนายทุนรายนี้ ประมาณ 6-7 ปี แล้ว ซึ่งไม่เข้าเงื่อนไขตาม มติ ครม.ดังกล่าว และบางส่วนไม่มีการสำรวจการถือครอง โดยในพื้นที่นายทุนรายนี้มีต้นยางนาขนาดใหญ่ 12 ต้น มีการทำลายโดยเจาะ และเผาสุมไฟโคนต้นไม้ทุกต้นด้วย จึงตรวจยึดพื้นที่ 125 - 0 - 00ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็น 8,530,527 บาท
ผลความคืบหน้าคดีจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามดูกันต่อไป
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage