“...เบื้องลึกเบื้องหลังสาเหตุที่กระทรวงยุติธรรมมีคำสั่ง ‘โยกย้าย’ พ.ต.ท.กรวัชร์ กลับไปรับตำแหน่งเดิม คือผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมนั้น มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่า เป็นการส่งสัญญาณว่า ฝ่ายดีเอสไออาจไม่ต้องการอุทธรณ์คดีฟอกเงินของนายพานทองแท้ดังกล่าว…”
แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาดไปทั่วโลก รวมไปถึงหลายจังหวัดในประเทศไทย รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 พร้อมกับเร่งผลักดันมาตรการเยียวยาช่วยเหลือต่าง ๆ ออกมาอย่างเร่งด่วน
แต่ยังมีหลายคดีสำคัญที่ยังเดินอยู่ในชั้นศาล
คดีฟอกเงินจากการทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานคร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเช็ค 10 ล้านบาทของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เช่นเดียวกัน ?
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษายกฟ้องนายพานทองแท้ กรณีรับเช็ค 10 ล้านบาท จากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อดีตผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร โดยเงินดังกล่าวสืบเนื่องจากที่ธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานครโดยทุจริต
อย่างไรก็ดีความเห็นของผู้พิพากษาแตกเป็น 2 ส่วน โดยผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเห็นว่า นายพานทองแท้ มีความผิด สมควรลงโทษจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนผู้พิพากษาอีกรายหนึ่งในองค์คณะเห็นว่า นายพานทองแท้ไม่มีความผิด เห็นควรรยกฟ้อง ส่งผลให้ต้องยกประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา มาตรา 184 ที่บัญญัติว่า ในการประชุมปรึกษาเพื่อมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ให้อธิบดีผู้พิพากษาข้าหลวงยุติธรรม หัวหน้าผู้พิพากษาในศาลนั้นหรือเจ้าของสำนวนเป็นประธาน ถามผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาทีละคน ให้ออกความเห็นทุกประเด็นที่จะวินิจฉัย ให้ประธานออกความเห็นสุดท้าย การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก ถ้าในปัญหาใดมีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายหรือเกินกว่าสองฝ่ายขึ้นไป จะหาเสียงข้างมากมิได้ ให้ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า (อ่านประกอบ : เบื้องหลัง'โอ๊ค'รอด! เผยความเห็นแย้งคดีฟอกเงิน องค์คณะผู้พิพากษาให้จำคุก 4 ปี)
ความคืบหน้าคดีนี้ เนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้ส่งสำนวนให้อัยการฟ้อง เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง อัยการต้องทำหนังสือสอบถามไปยังฝ่ายดีเอสไอว่า ควรอุทธรณ์คดีดังกล่าวหรือไม่ แต่จนถึงปัจจุบันฝ่ายดีเอสไอยังไม่มีคำตอบในเรื่องนี้
ตามกฎหมาย หากศาลมีคำพิพากษาอย่างใดอย่างหนึ่ง ภายใน 1 เดือน คู่ความต้องยื่นอุทธรณ์ ทำให้ฝ่ายอัยการได้ทำเรื่องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์แก่ศาลอาญาคดีทุจริตฯอย่างน้อย 4 ครั้ง และจะครบกำหนดอีกรอบในวันที่ 25 เม.ย. 2563 ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ดีประเด็นที่น่าสนใจ เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ลงนามคำสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ 109/2563 เรื่อง ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการรักษาการแทน โดยยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งให้ข้าราชการราย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม ที่รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ ให้กลับไปปฏิบัติราชการตามตำแหน่งที่ต้นสังกัด
แหล่งข่าวระดับสูงจากหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ที่ผ่านมาในชั้นการสอบสวนของดีเอสไอคดีฟอกเงินกรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานครโดยทุจริตนั้น พ.ต.ท.กรวัชร์ มีบทบาทอย่างมาก และเป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบคดี รวมถึงตอนเป็นคณะทำงานของดีเอสไอก็มีความเห็นสั่งฟ้อง แต่พอเรื่องถึงระดับกรม ดีเอสไอกลับมีท่าทีไม่สั่งฟ้อง แต่ท้ายที่สุดดีเอสไอต้องสั่งฟ้อง แต่ฟ้องกรณีเดียวคือ กรณีรับเช็ค 10 ล้านบาท แต่ไม่ฟ้องกรณีรับเช็ค 26 ล้านบาท
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ตามกฎหมายแล้วฝ่ายอัยการต้องทำหนังสือมาสอบถามดีเอสไอว่า จะอุทธรณ์หรือไม่ นั่นคือต้องทำหนังสือสอบถาม พ.ต.ท.กรวัชร์ ที่รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ (พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง) ที่ป่วยต้องรับการผ่าตัดตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 และท้ายที่สุดแจ้งขอลาออกจากราชการ โดยมีผลในวันที่ 2 เม.ย. 2563
ว่ากันว่า เบื้องลึกเบื้องหลังสาเหตุที่กระทรวงยุติธรรมมีคำสั่ง ‘โยกย้าย’ พ.ต.ท.กรวัชร์ กลับไปรับตำแหน่งเดิม คือผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมนั้น มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่า เป็นการส่งสัญญาณว่า ฝ่ายดีเอสไออาจไม่ต้องการอุทธรณ์คดีฟอกเงินของนายพานทองแท้ดังกล่าว
เพราะในชั้นการสอบสวน รวมถึงในคณะทำงานของดีเอสไอ พ.ต.ท.กรวัชร์ คือหนึ่งในมือทำคดี และเป็นผู้มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายพานทองแท้มาแล้ว ดังนั้นหากปล่อยให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ยังอยู่ในตำแหน่ง อาจมีความเห็นสมควรอุทธรณ์คดีดังกล่าวได้ ?
กระแสข่าวนี้ ล้อกันกับ ‘ทิศทางการเมือง’ ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า ‘คนหลังฉาก’ ผู้มีอิทธิพลในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ‘บางพรรค’ ต่อสายดีลกับ ‘บุคคลระดับสูงในรัฐบาล’ เพื่อต่อรองกรณีนี้ โดยแลกกับการไม่อภิปราย ‘บิ๊กรัฐบาลบางราย’ ส่งผลให้หลังจบการอภิปรายเกิดความบาดหมางคลางแคลงใจกันในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ?
ท้ายที่สุด ดีเอสไอจะมีความเห็นอุทธรณ์คดีฟอกเงินของนายพานทองแท้หรือไม่ คงต้องจับตาดูกัน ก่อนที่ศาลนัดอีกครั้งในวันที่ 25 เม.ย.นี้ !
หมายเหตุ : ภาพประกอบ พ.ต.ท.กรวัชร์ จาก https://thailandsupercars.com/
อ่านประกอบ :
เบื้องหลัง'โอ๊ค'รอด! เผยความเห็นแย้งคดีฟอกเงิน องค์คณะผู้พิพากษาให้จำคุก 4 ปี
ไม่รู้ว่าเงินจากการทำผิด! ละเอียดคำพิพากษายกฟ้อง‘พานทองแท้’คดีฟอกเงินกรุงไทย
‘พานทองแท้’รอด! ศาลยกฟ้องคดีฟอกเงินกู้กรุงไทย-เผยความเห็นแย้งควรสั่งคุก 4 ปี
EXCLUSIVE:เส้นทางเช็ค26ล.คดีฟอกเงินกู้กรุงไทย ก่อน อัยการ-DSI สั่งไม่ฟ้อง ‘โอ๊ค-แม่เลขาฯพจมาน’
ศาลนัดพิพากษาคดีฟอกเงิน 25 พ.ย.- ‘โอ๊ค’ยันคำเดิม!ได้เช็ค 10 ล.ลงขันทำธุรกิจ
ดีเอสไอ ส่งสำนวนฟ้อง 'พานทองแท้' กับพวกฟอกเงินกรุงไทย
คณะทำงานดีเอสไอสอบเพิ่ม‘โอ๊ค-พวก’ คดีฟอกเงินหลังถูกร้อง-ทั้งที่สรุปสั่งฟ้องแล้ว
ก่อน ปปง.กล่าวโทษคดีฟอกเงินกรุงไทย ขุมธุรกิจพันล.‘พานทองแท้’ ปี’59ฟัน198 ล.ขาดทุนยับ
คำวินิจฉัยผู้พิพากษาฯชำแหละเส้นทางเงินคดีกรุงไทยโยง'พานทองแท้-มานพ'
เฉลยชื่อผู้รับเช็คจาก'เสี่ยวิชัย’คดีกรุงไทย-‘พานทองแท้-มานพ’อยู่ในข่าย?
ย้อนเส้นทางคดีฟอกเงินกรุงไทย!ชื่อ‘พานทองแท้-พวก’โผล่รับเช็ค-ไม่เอ่ยถึงมูลนิธิรัฐบุรุษฯ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/