“...สถานะของนายมิ่งขวัญขณะนี้ อาจเรียกได้ว่า ‘ลูกผีลูกคน’ แม้ ‘ขาไม่ลอย’ เพราะมีสถานะ ส.ส. ติดตัวอยู่ก็ตาม ถ้าวันใดวันหนึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่มีมติโหวต ‘ขับ’ นายมิ่งขวัญออกจากพรรค การจะไปหาพรรคใหม่อาจเป็นเรื่องยากพอสมควร…”
การพลิกขั้วย้ายข้างของพรรคเศรษฐกิจใหม่ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงไม่กี่สัปดาห์ กลายเป็นชนวนเหตุร้อนแรงทางการเมืองอย่างยิ่งในขณะนี้
พลันที่ นายสุภดิช อากาศฤกษ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่คนปัจจุบัน ลงนามในหนังสืออ้างมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ขอถอนตัวจากฝ่ายค้าน ไปทำหน้าที่ ‘อิสระ’ ส่งผลให้เสียงของ ส.ส. ในพรรคจำนวน 6 ราย กลายเป็นเสียงที่ ‘ล้ำค่า’ อย่างยิ่ง
ทว่าอาจเหลือเพียง 5 ราย เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2563 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ แถลงเปิดใจยืนยัน ‘ล่มหัวใจท้าย’ กับฝ่ายค้านเหมือนเดิม ขอแยกทางกับพรรคเศรษฐกิจใหม่ แต่ไม่ลาออก ส.ส. (อ่านประกอบ : ล่มหัวจมท้ายฝ่ายค้าน! ‘มิ่งขวัญ’แถลงแยกทางพรรคเศรษฐกิจใหม่ แต่ไม่ไขก๊อก ส.ส., เป็นทางการ! เคาะแล้ว 6 รมต.ถูกซักฟอกมี'บิ๊กป้อม'ด้วย-เศรษฐกิจใหม่ถอนตัวฝ่ายค้าน)
ทำให้พรรคเศรษฐกิจใหม่อาจเหลือเพียง 5 เสียงที่เป็น ‘อิสระ’
ได้แก่ นายสุภดิช อากาศฤกษ์ หัวหน้าพรรค นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล นายภาสกร เงินเจริญกุล นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ และนางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ โดยเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด
อย่างไรก็ดีแม้ปัจจุบันฝ่ายรัฐบาลมีเสียงข้างมากเกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ด้วยอุบัติเหตุทางการเมืองของฝ่ายค้านเอง เช่น ส.ส.ลาออก ส.ส.ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต หรือกรณีล่าสุด ส.ส.ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่งด้วยกรณีหุ้นสื่อก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากได้เสียงของพรรคเศรษฐกิจใหม่อีกอย่างน้อย 5 รายเข้ามาตุนไว้ จะเพิ่มความอุ่นใจอย่างยิ่ง
ในสถานการณ์ที่พรรคร่วมรัฐบาล ‘บางพรรค’ ขับเคี่ยวจ้องเลื่อยขาเก้าอี้กัน เล่นแต่ ‘การเมือง’ ไม่สนใจ ‘บ้านเมือง’ ?
กลับมาที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มีการยื่นญัตติแล้วอย่างเป็นทางการ 6 รายชื่อ ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ (อ่านประกอบ : เปิดชนักติดหลังส่องข้อครหา 6 รมต. ถูกฝ่ายค้านซักฟอก-ไฉนไร้เงา ภท.-ปชป.?)
ทั้ง 6 รายจะเห็นได้ว่า ล้วนเป็น ‘หน้าเดิม’ จากยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งสิ้น ไม่มีรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ แม้แต่รายเดียวที่ถูกซักฟอกครั้งนี้
อาจสะท้อนให้เห็นถึงคุณลักษณะเด่นนักการเมือง ‘แมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวัน’ ?
ในเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นไม่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้คลายความกดดันลงไปได้พอสมควร ส่วนเรื่องการโหวตล้มรัฐบาลนั้น คงเป็นไปได้ยาก เพราะอย่างที่บอกว่าฝ่ายรัฐบาลมีเสียงเกินครึ่งหนึ่งของสภาอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องดึง ส.ส. พรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 5 รายมาร่วมด้วยซ้ำ
ตัดกลับมาที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นักการเมืองใหญ่ ไฉนถึงตัดสินใจเลือกอยู่กับเคียงข้างฝ่ายค้าน ที่น่าจะยังสู้ไม่ไหว ในเวทีสภาผู้แทนราษฎรตอนนี้ ?
ฉายภาพย้อนกลับไปสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร นายมิ่งขวัญ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการคิดค้นแคมเปญด้านการท่องเที่ยว เช่น ตลาดเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ เทศกาลตรุษจีนไชนาทาวน์เยาวราช ทำให้ผลงานเข้าตานายทักษิณ จนถึงแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ อสมท สร้างผลงานชิ้นโบว์แดงปรับเปลี่ยนช่อง 9 ให้กลายเป็นโมเดิร์นไนน์ทีวี จนสำเร็จ พร้อมเขี่ยรายการ ‘เมืองไทยรายสัปดาห์’ ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ทิ้งจากผังช่อง ส่งผลให้กลายเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งการเมืองไทยในเวลาต่อมา
ในวันรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 โมเดิร์นไนน์ทีวี ยุค ‘มิ่งขวัญ’ เป็นสถานีโทรทัศน์ช่องเดียวที่ถ่ายทอดสัญญาการโฟนอินของนายทักษิณ ชินวัตร ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ต่อสู้กับฝ่ายคณะรัฐประหารที่ยึดสถานีโทรทัศน์ไว้ทุกช่องแล้ว ทำให้นายทักษิณ ไว้วางใจนายมิ่งขวัญเป็นอย่างมาก จนได้รับการตบรางวัลนั่งเก้าอี้รัฐมนตรียุคนายสมัคร สุนทรเวช ปี 2551
อย่างไรก็ดีช่วงปี 2554 ภายใต้พรรคเพื่อไทย บทบาทของนายมิ่งขวัญดรอปลง และท่าทีของนายมิ่งขวัญบางอย่างทำให้นายทักษิณไม่พอใจอย่างมาก จนถูกเขี่ยทิ้งพ้นทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย หลังจากนั้นนายมิ่งขวัญก็หายหน้าไปในวงการการเมือง ก่อนกลับมาอีกครั้งในการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา (อ่านประกอบ : ย้อนเส้นทาง 'มิ่งขวัญ' มิตรเก่า 'ทักษิณ' ผู้รับปากจัดตั้งรบ.กลุ่มเพื่อไทย แบบมีเงื่อนไข?)
โดยในช่วงก่อนการเลือกตั้งนั้น นายมิ่งขวัญ ถูกชักชวนจากขั้วพรรคพลังประชารัฐ ผ่านคอนเนคชั่น ‘อดีตนาย’ ที่นายมิ่งขวัญเคยเป็นที่ปรึกษา ขณะเดียวกันคอนเนคชั่นจากฝ่ายนายทักษิณ ยังคงพอมีอยู่บ้าง และท้ายที่สุดตัดสินใจเลือกเคียงข้างฝ่ายค้าน
ทว่าบรรดาแกนนำที่เหลือในพรรคเศรษฐกิจใหม่ ดูท่าทีไม่ค่อยพอใจนัก ส่งผลให้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ อำนาจหน้าที่การตัดสินใจมิได้ขึ้นอยู่กับนายมิ่งขวัญ
กระทั่งเกิดเหตุการณ์ ‘งูเห่าภาคสอง’ ในสภาฯ ที่ปรากฏชื่อ ส.ส. จากพรรคเศรษฐกิจใหม่ ลงมติโหวตสวนฝ่ายค้านรวมอยู่ด้วย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า 'กินกล้วย' ไปแล้ว จนมาชัดเจนเมื่อแกนนำพรรคแยกตัวจากฝ่ายค้านในเวลาต่อมา
สถานะของนายมิ่งขวัญขณะนี้ อาจเรียกได้ว่า ‘ลูกผีลูกคน’ แม้ ‘ขาไม่ลอย’ เพราะมีสถานะ ส.ส. ติดตัวอยู่ก็ตาม ถ้าวันใดวันหนึ่ง หรือหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากคณะกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่มีมติโหวต ‘ขับ’ นายมิ่งขวัญออกจากพรรค การจะไปหาพรรคใหม่อาจเป็นเรื่องยากพอสมควร
เพราะถึงจะมีคอนเนคชั่นกับพรรคเพื่อไทย แต่คนที่ทำนายทักษิณเคืองโกรธ ถ้าไม่สำคัญจริง การจะกลับเข้าพรรคอีกเป็นเรื่องลำบากมาก จะไปทางฝั่งรัฐบาลก็คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากหลายครั้งที่นายมิ่งขวัญแสดงจุดยืนชัดเจนต่อต้าน คสช. นั่นจึงอาจทำให้ต้องระเห็จระเหินไปอยู่พรรคเล็กฝ่ายค้าน ก็เป็นไปได้ ?
ท้ายที่สุดการที่นายมิ่งขวัญ ออกแอ็คชั่นแสดงจุดยืนอยู่กับฝ่ายค้านครั้งนี้ อาจเป็นการเดิมพันครั้งสุดท้ายในทางการเมือง อนาคตจะเป็นเช่นไร คงต้องติดตามกันต่อไป !
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/