“...โจทก์มีพยานหลักฐานแค่ว่า นายพานทองแท้ เป็นบุตรนายทักษิณ ส่วนนายวิชัยกู้สินเชื่อโดยการทุจริต ส่วนนายพานทองแท้ สนิทกับนายรัชฎา เท่านั้น ไม่ปรากฏว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งไปกว่านั้น นอกจากนี้ช่วงเวลาดังกล่าว นายพานทองแท้ อายุ 26 ปี เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ม.รามคำแหง มีทรัพย์สินในส่วนหุ้นประมาณ 4,000 ล้านบาท เมื่อนำเช็คจำนวน 10 ล้านบาท มาเทียบกับทรัพย์สินของนายพานทองแท้ขณะนั้น คิดเป็น 0.0025% ขณะเดียวกันวงเงินการทุจริตในคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานคร ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.0001% เท่านั้น...”
“เส้นทางการเงินดังกล่าวเป็นไปด้วยความเปิดเผย ไม่ปิดบัง หรือซุกซ่อน หรืออำพรางแต่อย่างใด นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถตรวจสอบเส้นทางเงินได้ตลอดเวลา ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลภายหลังได้ ไม่ใช่เป็นการปกปิด หรืออำพรางการได้มา พฤติการณ์จึงยังเชื่อไม่ได้ว่านายพานทองแท้ ได้เงินจากนายวิชัยมาจากการกระทำความผิด ในเมื่อไม่รู้ หรือเชื่อว่าไม่รู้ว่าเงินดังกล่าวมาจากการกระทำความผิด คดีจึงฟังไม่ได้ว่าสมคบกับนายวิชัยในการฟอกเงิน”
คือใจความสำคัญที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษายกฟ้องคดีที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีฟอกเงิน กรณีรับเช็ค 10 ล้านบาทจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อดีตผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร ที่สืบเนื่องจากคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานครโดยทุจริต
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจนอกเหนือจากการยกฟ้องแล้ว คือผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเดิมยังมีความเห็นแย้งว่า ควรลงโทษจำคุกนายพานทองแท้ 4 ปีในคดีดังกล่าวด้วย (อ่านประกอบ : ‘พานทองแท้’รอด! ศาลยกฟ้องคดีฟอกเงินกู้กรุงไทย-เผยความเห็นแย้งควรสั่งคุก 4 ปี)
เพื่อให้สาธารณชนทราบข้อเท็จจริงมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปคำพิพากษาคดีดังกล่าวมาให้รับทราบ ดังนี้
@มีประเด็นต้องพิจารณาว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร มีความผิดตามคำฟ้องหรือไม่
นายพานทองแท้ แก้ข้อกล่าวหาว่า เช็คจำนวน 10 ล้านบาท ดังกล่าวมาจากนายวิชัย ที่จ่ายแทนนายรัชฎา เพื่อร่วมลงทุนในการซื้อขายรถยนต์หรู ต่อมานายวิชัย ถูกศาลฎีกาฯคำพิพากษากระทำความผิดฐานฟอกเงิน และและโดยลงโทษจำคุก โดยในคำพิพากษาระบุว่า นายวิชัย ได้นำเงินที่เกิดจากสินเชื่อที่ได้รับการปล่อยกู้ดังกล่าวไปซื้อหุ้นจองของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. แล้วเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินที่เกิดจากการกระทำผิดฐานฟอกเงิน นอกจากนี้ยังมีการโอนเข้าออกผ่านกระบวนการหลายครั้ง ดังนั้นจึงไม่อาจทราบได้ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่เกิดจากการฟอกเงิน และเงินที่ได้รับมาจึงไม่ผิด
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติว่า นายวิชัย กับพวกถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกฐานทุจริตคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานคร ขณะเดียวกันนิยามความผิดตามการฟอกเงินนั้น ไม่ว่าเงินดังกล่าวจะเปลี่ยนมือไปกี่ครั้ง ถือว่าเป็นของกลางมูลฐานความผิดฟอกเงินอยู่ดี และไม่อาจทำให้พ้นผิดได้ คำชี้แจงของนายพานทองแท้ ไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง
@ประเด็นต่อมา นายพานทองแท้ ร่วมกันโอน หรือปกปิด หรือซุกซ่อนเช็คจำนวน 10 ล้านบาท มีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 (1) หรือไม่
โจทก์ (พนักงานอัยการ) อ้างว่า นายพานทองแท้ มีความสนิทสนมกับนายรัชฎา และก่อนเกิดเหตุนายวิชัย เป็นนักธุรกิจทีมีชื่อเสียง ส่วนนายพานทองแท้ เป็นบุตรของนายทักษิณ ครอบครัวนายพานทองแท้ กับครอบครัวนายวิชัย มีความสนิทสนมกัน ดังนั้นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทดังกล่าว จึงอาจเป็นการตอบแทนบางประการจากการธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อ
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงจากศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกนายวิชัย กับพวก คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อดังกล่าว ต่อมาพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ดังนั้นที่นายพานทองแท้ และนายรัชฎา คบหากันเป็นเพื่อน มีรสนิยมเดียวกัน เช่น การเลี้ยงปลาคาร์ฟ ตีกอล์ฟ ถ่ายรูป เล่นรถหรู เป็นต้น ดังนั้นที่นายรัชฎาให้นายวิชัยจ่ายเช็คให้นายพานทองแท้ 10 ล้านบาท ลงทุนทำรถหรูในไทย ขณะที่เส้นทางการเงินดังกล่าวเป็นไปด้วยความเปิดเผย ไม่ปิดบัง หรือซุกซ่อน หรืออำพรางแต่อย่างใด นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถตรวจสอบเส้นทางเงินได้ตลอดเวลา ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลภายหลังได้ ไม่ใช่เป็นการปกปิด หรืออำพรางการได้มา
พฤติการณ์จึงยังเชื่อไม่ได้ว่ายพานทองแท้ ได้เงินจากนายวิชัยมาจากการกระทำความผิด ในเมื่อไม่รู้ หรือเชื่อว่าไม่รู้ว่าเงินดังกล่าวมาจากการกระทำความผิด คดีจึงฟังไม่ได้ว่าสมคบกับนายวิชัยในการฟอกเงิน
ศาลพิจารณาว่า โจทก์มีพยานหลักฐานแค่ว่า นายพานทองแท้ เป็นบุตรนายทักษิณ ส่วนนายวิชัยกู้สินเชื่อโดยการทุจริต ส่วนนายพานทองแท้ สนิทกับนายรัชฎา เท่านั้น ไม่ปรากฎว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งไปกว่านั้น นอกจากนี้ช่วงเวลาดังกล่าว นายพานทองแท้ อายุ 26 ปี เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ม.รามคำแหง มีทรัพย์สินในส่วนหุ้นประมาณ 4,000 ล้านบาท เมื่อนำเช็คจำนวน 10 ล้านบาท มาเทียบกับทรัพย์สินของนายพานทองแท้ขณะนั้น คิดเป็น 0.0025% ขณะเดียวกันวงเงินการทุจริตในคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานคร ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.0001% เท่านั้น
โจทก์อ้างว่า นายวิชัย มีความผิดมูลฐานในคดีฟอกเงิน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่แน่ใจ ต้องรอผลคดีให้เสร็จสิ้นก่อน จึงยากกว่าจะรู้ว่านายวิชัย จ่ายเช็คจำนวน 10 ล้านบาทดังกล่าวรู้ หรือควรรู้ว่ามีความผิด ดังนั้นตามพยานหลักฐานโจทก์จึงยังรับฟังไม่ได้ว่ามีความผิด พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังการอ่านคำพิพากษา ผู้พิพากษาชี้แจงว่า คดีดังกล่าวเกิดความเห็นแย้งกันขึ้น ภายใต้การพิจารณาข้อกฎหมายเดียวกัน โดยหนึ่งในองค์คณะผู้พิพากษายืนยันความเห็นว่าควรพิพากษาลงโทษจำคุกนายพานทองแท้ 4 ปี โดยในคำพิพากษาศาลฉบับเต็ม จะแนบความเห็นแย้งของผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเดิมไว้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวมีองค์คณะผู้พิพากษา 2 ราย โดยการตัดสินดังกล่าวเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 184 ในการประชุมปรึกษาเพื่อมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ให้อธิบดีผู้พิพากษาข้าหลวงยุติธรรม หัวหน้าผู้พิพากษาในศาลนั้นหรือเจ้าของสำนวนเป็นประธาน ถามผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาทีละคน ให้ออกความเห็นทุกประเด็นที่จะวินิจฉัย ให้ประธานออกความเห็นสุดท้าย การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก ถ้าในปัญหาใดมีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายหรือเกินกว่าสองฝ่ายขึ้นไป จะหาเสียงข้างมากมิได้ ให้ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า
อ่านประกอบ :
‘พานทองแท้’รอด! ศาลยกฟ้องคดีฟอกเงินกู้กรุงไทย-เผยความเห็นแย้งควรสั่งคุก 4 ปี
EXCLUSIVE:เส้นทางเช็ค26ล.คดีฟอกเงินกู้กรุงไทย ก่อน อัยการ-DSI สั่งไม่ฟ้อง ‘โอ๊ค-แม่เลขาฯพจมาน’
ศาลนัดพิพากษาคดีฟอกเงิน 25 พ.ย.- ‘โอ๊ค’ยันคำเดิม!ได้เช็ค 10 ล.ลงขันทำธุรกิจ
ดีเอสไอ ส่งสำนวนฟ้อง 'พานทองแท้' กับพวกฟอกเงินกรุงไทย
คณะทำงานดีเอสไอสอบเพิ่ม‘โอ๊ค-พวก’ คดีฟอกเงินหลังถูกร้อง-ทั้งที่สรุปสั่งฟ้องแล้ว
ก่อน ปปง.กล่าวโทษคดีฟอกเงินกรุงไทย ขุมธุรกิจพันล.‘พานทองแท้’ ปี’59ฟัน198 ล.ขาดทุนยับ
คำวินิจฉัยผู้พิพากษาฯชำแหละเส้นทางเงินคดีกรุงไทยโยง'พานทองแท้-มานพ'
เฉลยชื่อผู้รับเช็คจาก'เสี่ยวิชัย’คดีกรุงไทย-‘พานทองแท้-มานพ’อยู่ในข่าย?
ย้อนเส้นทางคดีฟอกเงินกรุงไทย!ชื่อ‘พานทองแท้-พวก’โผล่รับเช็ค-ไม่เอ่ยถึงมูลนิธิรัฐบุรุษฯ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก BBC Thai