"...บริษัท รอยเนท จำกัด (มหาชน) เคยปรากฎเป็นข่าวดังในแวดวงธุรกิจตลาดหุ้น ในช่วงปี 2546 เมื่อถูก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ นายกิตติพัฒน์ เยาวพฤกษ์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัทรอยเนท จำกัด (มหาชน) ต่อกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการประสานงาน ดำเนินคดีความผิดตามกฎหมายการเงินการคลังพิจารณาดำเนินการควบคู่ด้วย เนื่องจากพบว่า นายกิตติพัฒน์จงใจ ตกแต่งบัญชี เพื่อลวงผู้ถือหุ้นและบุคคลอื่นที่จะซื้อหุ้นบริษัทรอยเนท.."
"เมื่อสัปดาห์ก่อน มีผู้ต้องขังรายหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับคดีนายสนธิ (ลิ้มทองกุล) แต่กระทำความผิดในลักษณะคล้ายคลึงกัน ถูกจำคุกในฐานะเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท รอยเนท จำกัด (มหาชน) แต่ก็มีข้อโต้แย้งในเชิงกฎหมาย ได้อุทธรณ์คำสั่งคณะกรรมการอภัยโทษว่า ได้รับการลดโทษน้อยไป ตามมาตรา 8 โต้แย้งว่า ความจริงต้องได้รับการลดโทษตามมาตรา 7 ซึ่งลดโทษมากกว่า จึงยื่นเรื่องเข้ามา สาเหตุสำคัญที่้อธิบายคือ องค์ประกอบของความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตามบัญชีแนบท้ายมี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 2. เป็นกรรมการผู้จัดการหรือเป็นผู้มีส่วนได้เสีย 3. บริษัทต้องเป็นสถาบันทางการเงิน ซึ่งบริษัท รอยเนท ที่ผู้ต้องขังอุทธรณ์ เป็นบริษัทเกี่ยวกับการสื่อสาร ไม่ใช่สถาบันทางการเงิน
เมื่อเสนอไปที่คณะกรรมการอภัยโทษพิจารณา ผู้พิพากษารายหนึ่งที่เป็นกรรมการอภัยโทษในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ก็เขียนว่าคำร้องอุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น มีมูลจึงให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งการตีความลักษณะของกฎหมายอภัยโทษเหล่านี้ต้องตีความให้เป็นคุณตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและเคร่งครัด หากบริษัทที่ผู้ร้องอุทธรณ์ไม่ใช่สถาบันการเงิน ถือว่าไม่เข้าองค์ประกอบของบัญชีแนบท้าย ผู้ต้องขังที่ยื่นเรื่องรายนั้นก็ได้รับการลดโทษเพิ่ม เมื่อเรื่องมาถึงกรมราชทัณฑ์ พบว่ามีการตีความแตกต่าง ก็จะกระทบกับผู้ต้องขังคนอื่น จึงทำการสำรวจ พบว่าคดีนายสนธิเป็นคดีลักษณะเดียวกัน เพราะบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ไม่ใช่สถาบันการเงินเช่นเดียวกับบริษัท รอยเนท เพราะฉะนั้นนายสนธิจึงมีลักษณะเดียวกัน แต่นายสนธิมีอายุเกิน 70 ปี และไม่ติดบัญชีแนบท้าย"
คือ ประเด็นสำคัญในรายละเอียดคำชี้แจง ของ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอท เอชดี หมายเลข 30 กรณีการปล่อยตัว นายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 71 ปี ผู้ต้องขังคดีตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2562 ที่ผ่านมา (อ้างอิงข้อมูลข่าวส่วนนี้จาก https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000085421)
น่าสนใจว่า ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท รอยเนท จำกัด (มหาชน) ที่ถูกกล่าวอ้างถึงเป็นอย่างไร?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบฐานข้อมูลในโลกออนไลน์ พบว่า บริษัท รอยเนท จำกัด (มหาชน) เคยปรากฎเป็นข่าวดังในแวดวงธุรกิจตลาดหุ้น ในช่วงปี 2546
เมื่อถูก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ นายกิตติพัฒน์ เยาวพฤกษ์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัทรอยเนท จำกัด (มหาชน) ต่อกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการประสานงาน ดำเนินคดีความผิดตามกฎหมายการเงินการคลังพิจารณาดำเนินการควบคู่ด้วย
เนื่องจากพบว่า นายกิตติพัฒน์จงใจ ตกแต่งบัญชี เพื่อลวงผู้ถือหุ้นและบุคคลอื่นที่จะซื้อหุ้นบริษัทรอยเนท
โดย สำนักงาน ก.ล.ต. ระบุผลการสอบสวนและบทลงโทษว่า นายกิตติพัฒน์ ได้การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ได้แก่
1. การกระทำผิดตามมาตรา 56 ประกอบมาตรา 238 มาตรา 274 มาตรา 300 และมาตรา 312 โดยจัดทำบัญชีไม่ถูกต้องตรงต่อความจริง และลงข้อความเท็จเกี่ยวกับฐานะทางการเงินหรือผลประกอบการ ซึ่งผลจากการตรวจสอบระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2545 บริษัทได้ขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า มีการวางขายอินเทอร์เน็ต การ์ด ผ่านร้านค้าต่างๆ และถือเป็นวิธีปฏิบัติต่อร้านค้าว่า หากยังไม่สามารถขายสินค้าได้ก็จะยังไม่เรียกเก็บเงิน
ทั้งนี้ ตามมาตรฐานบัญชี บริษัทยังไม่สามารถรับรู้รายได้จากการขายสินค้าดังกล่าว แต่นายกิตติพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้บริหารมีอำนาจควบคุมและสั่งการในบริษัทโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตลาด ระบบคอมพิวเตอร์ และบัญชี รวมทั้งเป็นผู้ได้รับทราบวิธีการบันทึกบัญชีที่ถูกต้องได้จัดการให้บริษัทรับรู้รายได้ดังกล่าวทันที
จึงมีผลให้งบการเงินของบริษัทแสดงผลจากขาดทุนเป็นกำไรมาโดยตลอด และเมื่อผู้สอบบัญชีได้สอบถามและตั้งข้อสงสัย นายกิตติพัฒน์ก็ไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ผู้สอบบัญชีทราบ
สำนักงาน ก.ล.ต. จึงเห็นว่านายกิตติพัฒน์ ได้มีการสั่งการหรือยินยอมให้บริษัทกระทำความผิดตามมาตราต่างๆดังกล่าว
2. นายกิตติพัฒน์ ได้ซื้อขายหุ้นของบริษัทผ่านบัญชีของตัวเองและบัญชีของบุคคลอื่น รวมทั้งมีการขายหุ้นโดยไม่เคยรายงานตามหน้าที่ของผู้บริหารจำานวน 83 รายการ กล่าวคือ ไม่ได้รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหุ้นทุก 5% ซึ่งส่วนใหญ่การซื้อขายหุ้นดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่งบการเงินของบริษัทแสดงผลการดำเนินงานที่ไม่ถูกต้อง สำานักงาน ก.ล.ต. จึงเห็นว่านายกิตติพัฒน์มีเจตนา ปกปิดตามมาตรา 246
3. นายกิตติพัฒน์ได้ขายหุ้นของบริษัทบางส่วนในช่วงที่ผู้สอบบัญชีได้แจ้งให้ทราบว่าผู้สอบบัญชีจะตั้งข้อสังเกตในงบการเงินไตรมาสที่ 3 ปี 2545 เกี่ยวกับการรับรู้รายได้จากการขายที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีและจะระบุผลกระทบของการจัดทำงบการเงินที่ไม่ถูกต้องไว้ในรายงานด้วย ซึ่งข้อเท็จจริงนี้เป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นบริษัทที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ จึงถือเป็นการอาศัยข้อมูลภายในที่ยังไม่ได้เปิดเผย (insider trading) เพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้ลงทุนทั่วไปและถือเป็นความผิดตามมาตรา 241
กล่าวคือ นายกิตติพัฒน์ได้จงใจตกแต่งบัญชีเพื่อลวงบุคคลอื่น เจตนาปกปิดรายงานการซื้อขายหุ้น และใช้ข้อมูลภายในในการขายหุ้น ออกอันเป็นการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายอื่น อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น (อ้างอิงข้อมูลส่วนนี้ จากข้อมูลบทวิเคราะห์ของ สุทิน โชติสิงห์ ที่ปรึกษากฎหมายประจำ บริษัท สำนักกฎหมายนิติจำกัด https://www.dlo.co.th/files/law_case.pdf)
จากนั้น ในช่วงเดือน มี.ค.2554 มีข่าวปรากฎว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาลงโทษนายกิตติพัฒน์ เยาวพฤกษ์ กรณีตกแต่งบัญชีเพื่อลวงบุคคลอื่น ปกปิดรายงานการซื้อขายหลักทรัพย์ และใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหลักทรัพย์ โดยให้จำคุก 8 ปี 18 เดือนและปรับ 1,880,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา (อ้างอิงข่าวส่วนนี้จาก https://mgronline.com/daily/detail/9540000036950)
ขณะที่คดีความในส่วนของนายสนธินั้น เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2559 ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก 20 ปี แก่นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสุรเดช มุขยางกูร อดีตกรรมการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) น.ส.เยาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟู บริษัท แมเนเจอร์ฯ และ น.ส.วยุพิน จันทนา อดีตกรรมการ บริษัท แมเนเจอร์ฯ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรณีทำเอกสารเท็จค้ำประกันกู้ธนาคารกรุงไทย วงเงินกว่า 1,078 ล้านบาท
กรณีช่วงปี 2540 ได้ร่วมกันทำสำเนารายงานการประชุมของกรรมการบริษัทที่เป็นเท็จว่า มีมติให้บริษัท แมเนเจอร์ฯ เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้กับบริษัท เดอะ เอ็มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่นายสนธิเป็นผู้ถือหุ้น กับธนาคารกรุงไทย รวม 6 ครั้ง เป็นเงินกว่า 1,078 ล้านบาท โดยนายสนธิ นายสุรเดช และ น.ส.เยาวลักษณ์ ไม่ได้ขออนุมัติจากมติที่ประชุมกรรมการบริษัท ต่อมาบริษัท เอ็มกรุ๊ปฯ ผิดนัดชำระเงินกู้ ส่งผลให้บริษัท แมเนเจอร์ฯ ในฐานะผู้ค้ำประกันต้องรับภาระเป็นผู้ชำระหนี้ให้กับธนาคารกรุงไทยเป็นจำนวน 259 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังร่วมกันให้มีการเปลี่ยนแปลงตัดทอนทำบัญชีไม่ตรงกับความเป็นจริง และไม่ได้นำภาระการค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าวซึ่งถือเป็นรายการที่ทำให้รายได้ของบริษัท แมเนเจอร์ฯ เปลี่ยนแปลงผิดปกติ ซึ่งต้องแสดงรายการไว้ในงบการเงินประจำปี 2539-2541 และต้องนำส่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อลวงให้ผู้ถือหุ้นของบริษัท แมเนเจอร์ฯ ขาดประโยชน์ที่ควรได้รับ รวมทั้งเป็นการลวงให้นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ได้รับรู้ถึงการค้ำประกันหนี้ดังกล่าว (อ่านประกอบ : ศาลฎีกาสั่งคุก‘สนธิ-พวก’ 20 ปี ทำเอกสารเท็จค้ำประกันกู้แบงก์กรุงไทยพันล.)
สำหรับสถานะของ บริษัท รอยเนท จำกัด (มหาชน) นั้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท รอยเนท จำกัด (มหาชน) จดทะเบียน 17 พฤษภาคม 2544 ทุนขณะนั้น 111,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 17/38 ซอยเสรีไทย 43 ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการค้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ปรากฎชื่อ นาย กิตติพัฒน์ เยาวพฤกษ์ นายอนันต์ ลี่มงคลกุล นายวันชัย อภิวสุชัย นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
อย่างไรก็ดี ศาลล้มละลายกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551 ให้ บริษัท รอยเนท จำกัด (มหาชน) ล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่ 2383/2550
ทั้งหมดนี่ คือ โพรไฟล์ ของ บริษัท รอยเนท จำกัด (มหาชน) ที่ถูกกล่าวถึงต่อกรณี กรมราชทัณฑ์ ปล่อยตัว 'นายสนธิ ลิ้มทองกุล' หลังจำคุก 3 ปี 1 เดือน เข้าเกณฑ์นักโทษชั้นดี ที่ปรากฎเป็นข่าวดังอยู่ในห้วงเวลานี้
อ่านประกอบ :
ไร้ใบสั่ง-ไม่เกี่ยวการเมือง! กรมราชทัณฑ์ ปล่อยตัว 'สนธิ ลิ้มทองกุล' นักโทษชั้นดี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/