ส่องคดีทุจริตโลก : อดีตผบ.เรือเสบียงสหรัฐ สารภาพรับสินบน แลกเปลี่ยนข้อมูลลับให้เอกชน

"...กองทัพเรือสหรัฐ ได้รายงานข้อมูลการสืบสวนภายใต้ปฏิบัติการณ์ของภาครัฐชื่อว่า "Fat Leonard" จนเป็นเหตุทำให้อดีตผู้บัญชาการเรือช่วยรบและขนเสบียง กองทัพเรือสหรัฐนายหนึ่ง ต้องออกมายอมรับว่าเคยได้รับสินบนเป็นสิทธิประโยชน์การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง การเข้าพักที่โรงแรม ไอแพด และค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสำหรับตัวเขาและครอบครัวเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ในประเทศเกาหลีใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ข้อมูลตารางการเข้าเทียบท่าเรือของเรือภายใต้บัญชาการแก่บริษัทดูแลจัดการเรือขณะเทียบท่า (Husbanding Company) แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเกาหลีใต้..."

Shipp

ส่องคดีทุจริตโลกสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ในสัปดาห์นี้ ยังคงอยู่กันที่ประเด็นการทุจริตในแวดวงกองทัพทั่วโลก

คราวนี้เป็นกรณีของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา โดยเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ www.news.usni.org ของกองทัพเรือสหรัฐ ได้รายงานข้อมูลการสืบสวนภายใต้ปฏิบัติการณ์ของภาครัฐชื่อว่า "Fat Leonard" จนเป็นเหตุทำให้อดีตผู้บัญชาการเรือช่วยรบและขนเสบียง กองทัพเรือสหรัฐนายหนึ่ง ต้องออกมายอมรับว่าเคยได้รับสินบนเป็นสิทธิประโยชน์การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง การเข้าพักที่โรงแรม ไอแพด และค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสำหรับตัวเขาและครอบครัวเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ในประเทศเกาหลีใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ข้อมูลตารางการเข้าเทียบท่าเรือของเรือภายใต้บัญชาการแก่บริษัทดูแลจัดการเรือขณะเทียบท่า (Husbanding Company) แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเกาหลีใต้

สำหรับอดีตผู้บัญชาการเรือรายนี้ คือ นายเจมส์ ไดรเวอร์ เป็นอดีตกัปตันเรือ USNS Charles Drew ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.2556 จนถึง ม.ค.2557 ซึ่งอัยการกลางสหรัฐได้ตั้งข้อหากับนายเจมส์ว่ามีพฤติการณ์เปิดเผยข้อมูลลับของทางราชการ เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในช่วงที่ทำหน้าที่เป็นกัปตันเรือ ซึ่งข้อมูลลับที่ว่านั้น ก็คือ ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรือและข้อมูลการเดินทางของเรือ

ขณะที่มีรายงานเอกสารจากคณะลูกขุนใหญ่รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2561 ให้ข้อมูลว่านายเจมส์นั้นได้กดดันเจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่บริษัทบริการเรือชาวเกาหลีใต้ จำนวน 2 นาย แทนที่จะติดต่อกับบริษัทอื่นๆที่เข้าร่วมแข่งขันประมูลงานการบริการเรือรบสหรัฐอเมริกา ซึ่งเนื้อหาการหารือกันนั้น เป็นรายละเอียดที่ทางบริษัทเกาหลีใต้แห่งนี้ จะเสนอให้สิทธิในการบริการยุทธปัจจัยต่างๆแก่เรือรบกองทัพเรือสหรัฐที่เข้าเทียบท่าในประเทศเกาหลีใต้

โดยนายเจมส์ ถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมสมรู้ร่วมคิดในกรณีการรับสินบนและปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางหน่วยงานรัฐ ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการเอาผิดกับนายเจมส์แค่กรณีเดียวเท่านั้น ก็คือ กรณีสมรู้ร่วมคิดกันกระทำความผิด และได้ถอนฟ้องนายเจมส์ในข้อหาที่เหลือ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่นายเจมส์ จะให้ความร่วมมือในการสืบสวนคดีครั้งนี้

ซึ่งในตอนแรกตามข้อมูลบันทึกเอกสารของศาลระบุว่า นายเจมส์ อาจต้องโทษจำคุกเป็นระยะเวลา 18-24 เดือน หรืออาจจะลงโทษสูงสุดโดยการจำคุกเป็นระยะ 3 ปี สำหรับความผิดดังกล่าว แต่ทางหน่วยงานรัฐก็ได้พยายามที่จะหาทางช่วยเหลือให้นายเจมส์ได้รับโทษสถานเบาที่สุดในทุกทาง เนื่องจากความช่วยเหลือของนายเจมส์ต่อคดีนี้ และการทำข้อตกลงเพื่อรับสารภาพระหว่างหน่วยงานรัฐกับนายเจมส์

จนในที่สุดศาลแขวงมิชิแกนตะวันออก ก็ได้ตัดสินโทษปรับนายเจมส์เป็นเงินแค่ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 64,512 บาทเท่านั้น

สำหรับประวัติของนายเจมส์นั้น เกษียณอายุจากหน้าที่ราชการเมื่อเดือน ส.ค. 2558 มีประวัติการทำงานในทะเลเป็นระยะเวลา 35 ปี ไม่เคยมีข้อด่างพร้อยแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จากข้อกล่าวหานั้น มีการระบุว่า นายเจมส์ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเดินเรือไปยังอีเมล์ส่วนตัวของนาย Sung Yol David Kim เจ้าของบริษัท DK Marine Service ซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ในเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้

ซึ่งในเวลาต่อมา บริษัท DK Marine Service ก็ได้สิทธิ์ทำสัญญากับกองทัพเรือเพื่อให้บริการเรือ USNS Charles Drew ในช่วงที่เรือลำนี้เทียบท่าที่ ท่าเรือชินแฮ เกาหลีใต้ นับตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2556 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ ทางอัยการสหรัฐอเมริกา ยังได้กล่าวหานายเจมส์และนายคิมเพิ่มเติมว่าทั้ง 2 คนนั้น ได้ร่วมกันวางแผนอย่าลับๆ กับผู้อำนวยการบริษัท DK Marine Service ซึ่งไม่ปรากฎนามรายหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ดูแลด้านโลจิสติกส์ให้กับเรือที่เข้าและออกท่าเรือทุกลำที่ได้ลงทะเบียนไว้กับทางบริษัท

"การที่จะให้บริการเรือรบสหรัฐในด้านเสบียงและบริการต่างๆ จะต้องมีการทำเอกสารภายในซึ่งเรียกกันว่าคำขอให้บริการด้านโลจิสติกส์ (LOGRQ) และส่งเอกสารจากตัวผู้บังคับการเรือไปยังสำนักงานของผู้ให้บริการ โดยกระบวนการทั้งหมดนี้จะต้องผ่านการให้คำรับรองจากศูนย์การจัดการด้านโลจิสติกส์ กองทัพเรือสหรัฐ ซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกซูกะ ประเทศญี่ปุ่น” ถ้อยคำหนึ่งจากข้อกล่าวหาต่อนายเจมส์ได้ระบุเอาไว้

ทั้งนี้ นอกเหนือจากข้อมูลกำหนดการเดินเรือแล้ว นายเจมส์ยังได้ส่งมอบข้อมูลการประกวดราคาซึ่งเสนอโดยบริษัทดูแลจัดการเรือขณะเทียบท่ารายอื่นๆที่เป็นคู่แข่งของ บริษัท DK Marine Service และยังได้ส่งมอบข้อบังคับอันเป็นความลับของเรือรบสหรัฐอเมริกาจำนวน 3 ข้อให้กับบริษัท DK Marine Service ด้วยเช่นกัน ซึ่งข้อบังคับที่ว่านี้เป็นข้อบังคับที่ถูกเขียนโดยตรงจากศูนย์บังคับบัญชาในเมืองวอชิงตัน ดีซี ส่งตรงไปยังเรือรบสหรัฐอเมริกาทุกลำ

และยังมีข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่านอกเหนือจากบริษัท DK Marine Service แล้ว นายเจมส์ยังได้ส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้กับบริษัทแห่งอื่นอีก ซึ่งยังไม่ปรากฏชื่อในขณะนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน นาย Sung เองก็ได้ยืนยันให้นายเจมส์ช่วยหาวิธีหลีกเลี่ยงข้อบังคับของทางกองทัพเรือสหรัฐเพื่อจะให้บริษัท DK Marine Service ของเขาได้สัญญาในการให้บริการเรือรบสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอให้ช่วยชะลอการส่งเอกสารการขอให้บริการโลจิสติกส์ดังกล่าว

โดยนาย Sung นั้นได้ตอบแทนนายเจมส์ ด้วยการให้สิ่งตอบแทนเป็นแพคเกจท่องเที่ยวเกาหลีใต้และของขวัญราคาแพงเช่นกัน

(เรียบเรียงจาก:https://news.usni.org/2019/07/31/retired-msc-ship-master-admits-husbanding-contract-conspiracy-fined-2100)

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage