“…กระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยการประชุม ARF ในห้วงวันที่ 16-23 ก.ค. 2552 และการประชุมสุดยอดอาเซียนในห้วงเดือน ต.ค. 2552 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีความปลอดภัยสูงสุดตามที่รัฐบาลมอบหมายนั้น กระทรวงกลาโหมมีความจำเป็นต้องจัดหายุทโธปกรณ์สำหรับกองร้อยรักษาความสงบ เพื่อให้มีการฝึกและซักซ้อมการปฏิบัติก่อนจะมีการประชุม โดยมีความต้องการงบประมาณชั้นต้นสำหรับ 7 กองร้อย เป็นเงิน 66,236,800 บาท…”
ครบรอบ 10 ปีเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อเดือน เม.ย. 2552 สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันตัวละครทางการเมืองครั้งเหตุการณ์ดังกล่าว บางคนเลิกเล่นไปแล้ว บางคนยังเล่นอยู่ บางคนพลิกขั้ว-ย้ายข้าง เป็นธรรมชาติทางการเมือง โดยการประชุมสุดยอดอาเซียนคราวนี้ เป็นครั้งที่ 34 ไทยกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุม
แม้เหตุการณ์ เม.ย. 2552 จะผ่านไปนานนับ 10 ปีแล้วก็ตาม แต่ผลพวงที่เกิดขึ้น ส่งผลให้แกนนำคนเสื้อแดงหลายราย ถูกศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างฎีกา
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายเมื่อ เม.ย. 2552 จนไทยต้องเลื่อนการประชุมอาเซียนออกไปช่วงปลายปี 2552 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มีบัญชาเร่งด่วน ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงคณะรัฐมนตรี เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดหายุทโธปกรณ์ควบคุมฝูงชนให้กับกองร้อยรักษาความสงบ ของกองทัพไทย จำนวน 7 กองร้อย เป็นเงินกว่า 66 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี พบว่า คล้อยหลังเหตุการณ์แดงล้มประชุมอาเซียนไปราว 2 เดือน เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2552 กระทรวงกลาโหม มีหนังสือที่ กห 0207/735 ตีตราด่วนที่สุด ระบุว่า กระทรวงกลาโหม ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดหายุทโธปกรณ์ควบคุมฝู.ชนให้กับกองร้อยรักษาความสงบ ของกองทัพไทย จำนวน 7 กองร้อย เป็นเงิน 66,236,800 บาท ระบุเหตุผลและความจำเป็น ดังนี้
หนึ่ง จากสถานการณ์การก่อความไม่สงบของกลุ่มผู้ชุมนุมในห้วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 2552 ที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลต้องประกาศยกเลิกการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รมว.กลาโหม/ประธานสภากลาโหม (พล.อ.ประวิตร) สั่งการในการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2552 ให้กองทัพไทย จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เฉพาะกรณีการใช้กำลังควบคุมฝูงชน ซึ่งกองทัพไทย มีหนังสือกราบเรียนนายกฯ (นายอภิสิทธิ์) เพื่อกรุณาทราบผลการสัมมนาและความต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลในชั้นต้น สำหรับการจัดหายุทโธปกรณ์ให้กับกองร้อยรักษาความสงบ ในการรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดอาเซียน และการประชุมที่เกี่ยวข้อง รวม 7 ก้องร้อย เป็นเงิน 66,236,800 บาท
สอง จากการสัมมนาดังกล่าว กำหนดความเร่งด่วนไว้ 3 ระดับ คือ ความเร่งด่วนแรก จำนวน 7 กองร้อย ความเร่งด่วน 2 จำนวน 10 กองร้อย และความเร่งด่วน 3 จำนวน 43 กองร้อย รวม 60 กองร้อย แต่เนื่องจากการประชุมสุดยอดอาเซียน เลื่อนการประชุมจากเดือน มิ.ย. 2552 เป็นเดือน ต.ค. 2552 กระทรวงกลาโหมจึงมอบให้คณะกรรมการที่ปรึกษายุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงพิจารณาผลการสัมมนาฯว่าความต้องการ 60 กองร้อยนั้น มีเหตุผลความจำเป็นเพียงพอหรือไม่ และจำนวนที่เหมาะสมควรมีเท่าใด
สาม รมว.กลาโหม/ประธานกรรมการอำนวยการและการวางแผนรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดอาเซ๊ยนกับประเทศคู่เจรจา และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2552 โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟังการประชุม แจ้งให้ทราบว่า รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมรับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยการประชุมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง (ARF) ระหว่างวันที่ 16-23 ก.ค. 2552 ที่โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า จ.ภูเก็ต ด้วย
กระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยการประชุม ARF ในห้วงวันที่ 16-23 ก.ค. 2552 และการประชุมสุดยอดอาเซียนในห้วงเดือน ต.ค. 2552 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีความปลอดภัยสูงสุดตามที่รัฐบาลมอบหมายนั้น กระทรวงกลาโหมมีความจำเป็นต้องจัดหายุทโธปกรณ์สำหรับกองร้อยรักษาความสงบ เพื่อให้มีการฝึกและซักซ้อมการปฏิบัติก่อนจะมีการประชุม โดยมีความต้องการงบประมาณชั้นต้นสำหรับ 7 กองร้อย เป็นเงิน 66,236,800 บาท (ดูเอกสารประกอบ)
ต่อมา สำนักงบประมาณ พิจารณาแล้วเห็นว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 ของกองบัญชาการกองทัพไทยมีแผนงาน/โครงการรองรับไว้หมดแล้ว ไม่สามารถปรับแผนได้ จึงพิจารณาค่าใช้จ่ายแล้วอยู่ในเกณฑ์เหมาะสม ดังนั้นจึงเห็นเป็นการสมควรที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงกลาโหมจัดหายุทโธปกรณ์ในการควบคุมฝูงชนให้กับกองร้อยรักษาความสงบของกองทัพไทย 7 กองร้อย เป็นเงิน 66,236,800 บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอได้
ถัดมาวันเดียว ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2552 คณะรัฐมนตรีประชุมปรึกษากันแล้วมีมติว่า อนุมัติให้กระทรวงกลาโหมจัดหายุทโธปกรณ์ดังกล่าว เป็นเงิน 66,236,800 บาท โดยใช้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 งบกลางฯ นอกจากนี้มอบหมายให้คณะกรรมการอำนวยและวางแผนการรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่มี รมว.กลาโหม (พล.อ.ประวิตร) เป็นประธาน ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 121/2552 ลงวันที่ 1 พ.ค. 2552 รับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยการประชุมอาเซียนแบบ ARF ที่ จ.ภูเก็ต ด้วย
นี่คือบางแง่มุมภายหลังเกิดเหตุการณ์คนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อเดือน เม.ย. 2552 ที่ผ่านมา ส่งผลให้กระทรวงกลาโหม ขออนุมัติงบประมาณกว่า 66 ล้านบาทในการจัดหายุทโธปกรณ์ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีก
ท่ามกลางความพ่ายแพ้ 'ยกแรก' ของกลุ่มคนเสื้อแดง ก่อนกลับมาสู้ 'ยกสอง' ยุทธการปิดกรุงเทพฯปี 2553 ในเวลาต่อมา
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/