"...ในการสอบปากคำ นาย ร. และนาย ม. ต่างยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ใช้บัญชีธนาคารดังกล่าว และมีสถานะเป็นเพียงแค่ลูกจ้างบริษัทเอกชนทั่วไป ไม่มีทางที่จะมีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากเป็นหลักล้านบาท อย่างไรก็ดี นาย ร. และนาย ม. ยอมรับว่า ได้มอบบัญชีธนาคารดังกล่าว ให้คนอื่นนำไปใช้ แต่ไม่ได้ยืนยันข้อมูลว่า ว่า บุคคลที่นำบัญชีไปใช้เป็นใคร ..."
กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างไต่สวนคดีกล่าวหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) และอดีตสส. หลายราย ที่เกี่ยวข้องกับการได้รับเงินค่าเลี้ยงดู อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเกิดข่าวในช่วงอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 11 คน ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วงปี 2565 ว่านักการเมืองบ้างกลุ่ม มีการแจกเงินให้ สส.พรรคเล็ก เดือนละ 1 แสนบาท เป็นค่าเลี้ยงดู เปรียบเทียบการจ่ายเงินดังกล่าวว่าเป็นการแจกกล้วย ปัจจุบันมีกลุ่มบุคคลที่อยู่ระหว่างการไต่สวนคดี 4 กลุ่มหลัก คือ 1. กลุ่ม สส. และอดีต สส. จำนวน 5 ราย 2. กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องทางการเมือง จำนวน 46 ราย 3. กลุ่มผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น จำนวน 16 ราย 4. กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 40 ราย มีทั้งทหารตำรวจข้าราชการมีระดับนายพลด้วย
นาย ร. และ นาย ม. คือ 2 ตัวละครสำคัญในคดีนี้
เพราะตามข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ระบุว่า มีกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีรายหนึ่งในช่วงเวลานั้นโอนเงินเข้าไปยังบัญชี ของนาย ร. และนาย ม. และมีการโอนเงินต่อไปยังบุคคลอื่นซึ่งคาดว่าจะเป็นบัญชีม้า โอนเงินต่อไปยังบุคคลอื่นโดยมีนัยสำคัญ ปรากฏชื่อผู้รับเงินเป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิก และบุคคลใกล้ชิด จำนวนนับร้อยราย
เมื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกบัญชีธนาคารของ นาย ร. และนาย ม. พบว่า หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นธนาคาร ในการทำธุรกรรมโอนเงินไปยังผู้อื่น จดทะเบียนในชื่อของนาย ส. ซึ่งเป็นเลขานุการของ รัฐมนตรีรายดังกล่าว

- ผ่าคดีแจกกล้วย 300 ล. ป.ป.ช.สอบระนาวร้อยคน-ขยายผล'รมต.สั่งการ'-ไต่สวน สส. 'ป.' ชื่อแรก (1)
- แจกกล้วยพ่นพิษ! ป.ป.ช.ตั้งไต่สวน 5 สส.คดีรับเงินเดือนละแสน ปูดข่าวช่วงอภิปราย รบ.บิ๊กตู่ (2)
- คดีแจกกล้วยลาม! สส.-จนท.เอี่ยวนับร้อย วงเงิน 300 ล.-ป.ป.ช.สั่งขยายผลคนใกล้ชิดรมต.สั่งการ (3)
- คดีแจกกล้วยลาม 131 ราย! ป.ป.ช.ตั้งไต่สวนนักการเมือง-บิ๊กขรก.รับโอนเงินจากบริษัทรัฐมนตรี (4)
- เจาะลึกคดีแจกกล้วย(1) หลักฐานเส้นทางเงินโอนจากบัญชี 2 พนง.บ.เมียรมต.-สส.10 พรรคเอี่ยว (5)
- เจาะลึกคดีแจกกล้วย (2) ลาม 40 จนท.รัฐ ’DSI-สตง.-ตุลาการทหาร’ รับโอนเงินจาก บ.เมีย รมต. (6)
- ได้ 2 หมื่น! เปิดยอดเงิน บิ๊ก สตง.คดีแจกกล้วย รับช่วงเป็นรองผู้ว่าฯ - เกษียณอายุไปแล้ว (7)
- เปิดข้อมูลบัญชีธนาคาร 2 พนง.บ.เมีย รมต.ใช้โอนเงินคดีแจกกล้วย ขึ้นสถานะทำรายการไม่ได้แล้ว (8)
- ถึงคิว! แกะรอยเบอร์โทรสั่งโอนเงินคดีแจกกล้วย เสียงปลายสายรับเป็นเลขาฯ รมต.ปริศนาจริง (9)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า ในการสอบสวนคดีนี้ ป.ป.ช.ได้มีการสอบปากคำเบื้องต้นนาย ร. และนาย ม. ไว้แล้ว
โดยทั้งสองคน ยืนยันว่า มีสถานะเป็นพนักงานฝ่ายจัดซื้อของบริษัท รักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง ที่มีภรรยารัฐมนตรีรายหนึ่งเป็นกรรมการ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนในบัญชีในระหว่างปี 2562 -2565 เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่พนักงานบริษัทเอกชนทั้ง 2 จะมีเงินจำนวนโอนเข้าไปยังบัญชีกลุ่มบุคคลต่างๆ และไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด กับบุคคลที่เกี่ยวข้องทางการเมืองทั้งระดับท้องถิ่น จนถึงระดับชาติ รวมไปถึงข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ระดับสูงในองค์กรหน่วยงานราชการต่างๆ ที่โอนเงินจากบัญชีในชื่อบุคคลทั้งสอง
ขณะที่ ในการสอบปากคำ นาย ร. และนาย ม. ต่างยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ใช้บัญชีธนาคารดังกล่าว และมีสถานะเป็นเพียงแค่ลูกจ้างบริษัทเอกชนทั่วไป ไม่มีทางที่จะมีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากเป็นหลักล้านบาท
อย่างไรก็ดี นาย ร. และนาย ม. ยอมรับว่า ได้มอบบัญชีธนาคารดังกล่าว ให้คนอื่นนำไปใช้
แต่ไม่ได้ยืนยันข้อมูลว่า ว่า บุคคลที่นำบัญชีไปใช้เป็นใคร

เบื้องต้น จากการติดตามตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงินบัญชีธนาคารของนาย ร. และนาย ม. พบว่า หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นธนาคาร ในการทำธุรกรรมโอนเงินไปยังผู้อื่น จดทะเบียนในชื่อของนาย ส. ซึ่งเป็นเลขานุการของ รัฐมนตรีรายดังกล่าว
กรณีนี้ จึงเชื่อได้ว่า นาย ร. และนาย ม. ไม่ใช่เจ้าของเงินที่แท้จริง อาจเป็นเพียงผู้บัญชีบัญชี และนำบัญชีไปให้บุคคลอื่นใช้ประโยชน์ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมือง หรือวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่ออำพรางสถานะและตัวตนที่แท้จริงของเจ้าของเงิน เข้าข่ายลักษณะ บัญชีม้า
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสถานะบัญชีธนาคารของ นาย ร. และนาย ม. ที่มีการโอนเงินเข้าไปยังบัญชี ของผู้เกี่ยวข้องทั้ง 4 กลุ่ม นั้น สำนักข่าวอิศรารายงานไปแล้วว่า เป็นบัญชีธนาคารกสิกรไทย ทั้ง 2 บัญชี โดยบัญชีของ นาย ร. มีหมายเลขบัญชี 064386XXXX ส่วนนาย ม. มีหมายเลขบัญชี 019865XXX
เมื่อทดลองโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารทั้ง 2 บัญชี ไม่สามารถโอนเงินเข้าไปได้ ขึ้นข้อความเหมือนกันว่า "ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ สถานะบัญชีรับโอนไม่สามารถทำรายการได้"
ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ขึ้นข้อความว่า "ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ สถานะบัญชีรับโอนไม่สามารถทำรายการได้" หมายความว่า บัญชีที่พยายามจะโอนเงินเข้าไป ไม่สามารถรับเงินได้ในขณะนั้น ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น บัญชีอาจถูกระงับชั่วคราว, มีปัญหาทางเทคนิค, หรือบัญชีอาจถูกปิดใช้งาน
ส่วนข้อมูล หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นธนาคาร ในการทำธุรกรรมโอนเงินไปยังผู้อื่น ซึ่งถูกระบุว่าจดทะเบียนในชื่อของเลขานุการของ รัฐมนตรี คือ เบอร์ 082394XXXX
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นนี้ มีผู้ชายคนหนึ่งรับสาย แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ แต่เจ้าตัวยอมรับว่า คือ นาย ส. ซึ่งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีรายหนึ่ง
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า เลขานุการรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีชื่อเล่นว่า "หมู"
ขณะที่จากการทดลองนำเบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้ ไปค้นหาในข้อมูลการติดต่อบุคคลใน แอพพลิเคชั่น LINE ของสำนักข่าวอิศรา พบว่า มีชื่อและโลโก้คำว่า "หมูหวาน" ปรากฏขึ้นมา
ข้อมูลชื่อเล่น เลขานุการรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ กับบุคคลในไลน์ มีคำว่า "หมู" ตรงกัน

อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ยังไม่มีการชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องรายใด เลขาฯ รัฐมนตรีรายนี้ ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และหากประสงค์จะให้สัมภาษณ์เป็นทางการ สามารถติดต่อกลับมาที่สำนักข่าวอิศรา ได้ตลอดเวลา

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา