
"...เมื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกบัญชีธนาคารของ นาย ร. และนาย ม. พบว่า หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นธนาคาร ในการทำธุรกรรมโอนเงินไปยังผู้อื่น จดทะเบียนในชื่อของนาย ส. ซึ่งเป็นเลขานุการของ รัฐมนตรีรายดังกล่าว นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลว่า นาย ร. และนาย ม. มีสถานะที่แท้จริงเป็นพนักงานฝ่ายจัดซื้อในบริษัทรักษาความปลอดภัย ซึ่งภรรยาของ รัฐมนตรีรายนี้เป็นกรรมการอยู่ด้วย ..."
กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างไต่สวนคดีกล่าวหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) และอดีตสส. หลายราย ที่เกี่ยวข้องกับการได้รับเงินค่าเลี้ยงดู อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเกิดข่าวในช่วงอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 11 คน ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วงปี 2565 ว่านักการเมืองบ้างกลุ่ม มีการแจกเงินให้ สส.พรรคเล็ก เดือนละ 1 แสนบาท เป็นค่าเลี้ยงดู เปรียบเทียบการจ่ายเงินดังกล่าวว่าเป็นการแจกกล้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า ปัจจุบันมีกลุ่มบุคคลที่อยู่ระหว่างการไต่สวนคดี 4 กลุ่มหลัก คือ
1. กลุ่ม สส. และอดีต สส. จำนวน 5 ราย
2. กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องทางการเมือง จำนวน 69 ราย
3. กลุ่มผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น จำนวน 16 ราย
4. กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 41 ราย มีทั้งทหารตำรวจข้าราชการมีระดับนายพลด้วย
ทั้งนี้ ข้อมูลในส่วนของ กลุ่ม สส. และอดีต สส. จำนวน 5 ราย สำนักข่าวอิศรา เคยรายงานไปแล้วว่า มีชื่ออักษรย่อ ป. 1 ราย , พ. 2 ราย , ค. 1 ราย และ ร. 1 ราย บางรายย้ายสังกัด ไปอยู่พรรคใหม่แล้ว

- ผ่าคดีแจกกล้วย 300 ล. ป.ป.ช.สอบระนาวร้อยคน-ขยายผล'รมต.สั่งการ'-ไต่สวน สส. 'ป.' ชื่อแรก
- แจกกล้วยพ่นพิษ! ป.ป.ช.ตั้งไต่สวน 5 สส.คดีรับเงินเดือนละแสน ปูดข่าวช่วงอภิปราย รบ.บิ๊กตู่
- คดีแจกกล้วยลาม! สส.-จนท.เอี่ยวนับร้อย วงเงิน 300 ล.-ป.ป.ช.สั่งขยายผลคนใกล้ชิดรมต.สั่งการ
- คดีแจกกล้วยลาม 131 ราย! ป.ป.ช.ตั้งไต่สวนนักการเมือง-บิ๊กขรก.รับโอนเงินจากบริษัทรัฐมนตรี
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลใหม่ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ กลุ่ม สส. และอดีต สส. จำนวน 5 ราย พบว่า ได้รับโอนเงินมาจากบัญชีธนาคารของบุคคล 2 ราย มีชื่อย่อว่า นาย ร. และนาย ม. จำนวนเงิน 1,700,000 บาท โดยไม่ทราบว่าโอนให้ด้วยเรื่องอันใด ขณะที่ช่วงเวลารับโอนเงินใกล้เคียงกับช่วงเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม -3 กันยายน 2564
ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า มีกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีรายหนึ่งในช่วงเวลานั้นโอนเงินเข้าไปยังบัญชี ของนาย ร. และนาย ม. และมีการโอนเงินต่อไปยังบุคคลอื่นซึ่งคาดว่าจะเป็นบัญชีม้า โอนเงินต่อไปยังบุคคลอื่นโดยมีนัยสำคัญ ปรากฏชื่อผู้รับเงินเป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิก และบุคคลใกล้ชิด จำนวนนับสิบราย
เมื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกบัญชีธนาคารของ นาย ร. และนาย ม. พบว่า หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นธนาคาร ในการทำธุรกรรมโอนเงินไปยังผู้อื่น จดทะเบียนในชื่อของนาย ส. ซึ่งเป็นเลขานุการของ รัฐมนตรีรายดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลว่า นาย ร. และนาย ม. มีสถานะที่แท้จริงเป็นพนักงานฝ่ายจัดซื้อในบริษัทรักษาความปลอดภัย ซึ่งภรรยาของ รัฐมนตรีรายนี้เป็นกรรมการอยู่ด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้มีการจำแนกกลุ่ม บุคคล ที่อยู่ในข่ายถูกไต่สวนกรณีนี้ จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องทางการเมือง จำนวน 69 ราย
2. กลุ่มผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น จำนวน 16 ราย
3. กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 41 ราย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในการตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงินคดีนี้ พบว่า มีกลุ่ม สส. และข้าราชการการเมือง จำนวน 46 ราย เข้ามาเกี่ยวข้อง แบ่งเป็น สส. ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ 27 ราย , พรรคเศรษฐกิจไทย 5 ราย , พรรคภูมิใจไทย 3 ราย , พรรคเพื่อไทย 2 ราย , พรรครวมไทยสร้างชาติ 2 ราย , พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 ราย , พรรคทวงคืนผืนป่าไทย 1 ราย , พรรคพลังปวงชนไทย 1 ราย , พรรคชาติพัฒนา 1 ราย , บุคคลในสังกัดพรรคไทยศิวิไลย์ 1 ราย , อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1 ราย , ส่วนอีกรายเป็นอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่ไม่ใช่นายธนกฤต จิตรอารีรัตน์
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน สส.ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ 1 ราย ที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบ เสียชีวิตไปแล้ว คือ นายภิรมย์ พลวิเศษ ขณะที่ สส.หลายราย ก็ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นแล้วด้วย
ที่น่าสนใจ นอกจากกลุ่ม สส. และข้าราชการการเมืองเหล่านี้ แล้ว ยังมีกลุ่มนักร้องเรียน อย่างน้อย 2 ราย ได้รับเงินค่าเลี้ยงดูด้วย
รายหนึ่งได้รับเงินจำนวน 3 ล้านกว่าบาท
อีกรายได้รับ 800,000 บาท
และยังมีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลายจังหวัดได้รับเงินด้วยหลายแสนบาท
หากพิจารณาข้อมูลข้างต้น จะพบว่าจำนวนผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้มีจำนวนมากหลายสิบราย ผู้เกี่ยวข้องมีหลายกลุ่ม
ถ้าหากบทสรุปสุดท้ายผลการไต่สวนคดีพบว่า มีการกระทำความผิดจริงและถูกชี้มูลความผิด คดีนี้จะกลายเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่สร้างความสั่นสะเทือนให้แวดวงการเมืองไทยอย่างสูงไปโดยปริยาย
ส่วนข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป
พลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด!

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา