"...คณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางจำเป็นต้องทำเนื่องจากเป็นคำสั่งของ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ผู้บังคับบัญชา ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้จัดทำบันทึกข้อความโต้แย้งการกระทำดังกล่าวเป็นบันทึกข้อความกองการศึกษา ที่ สต 52505/164 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 โดยเสนอว่าควรจัดหาร้านค้าที่จำหน่าย เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งโดยตรงเพื่อมากำหนดราคากลาง หากยังให้ดำเนินการตามเอกสารร้านค้าที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นำมาให้ก็ให้สั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยรายงานไปแล้วว่า นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด อดีตนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาลงโทษจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ได้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี กรณีถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป
ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล ได้เผยแพร่ข้อมูลทางคดีระบุว่า นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ยังมีคดีความที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดพร้อมส่งสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานให้อัยการสูงสูง (อสส.) ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฏหมายอีก 1 คดี คือ คดีทุจริตเรียกรับเงินในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งพร้อมติดตั้งให้กับชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 10 รายการ
โดยคดีนี้ ปัจจุบันถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ไปแล้ว
ปรากฏรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้
คดีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหา 2 ราย คือ
1.นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1
2. นางสาว ก เจ้าของและตัวแทนร้าน น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2
@ ข้อกล่าวหา
ทุจริตเรียกรับเงินในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งพร้อมติดตั้งให้กับชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 10 รายการ
@ พฤติการณ์ในการกระทำความผิด
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ว่า เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง ได้กำหนดแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี (พ.ศ. 2561 – 2564) โดยได้กำหนดโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งพร้อมติดตั้งให้กับชุมชน ในปีงบประมาณ 2562 เป็นเงิน 500,000 บาท ใช้งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นผู้รับผิดชอบ ต่อมาในวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 กองการศึกษาฯ ได้มีบันทึกฯ ขออนุมัติจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง จำนวน 10 รายการผ่านไปยังกองคลัง และผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้อนุมัติการจัดซื้อดังกล่าว โดยในวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนด
คุณลักษณะเฉพาะและราคากลาง ประกอบด้วย
1. นางซาร่า ปะดุกา ตำแหน่งผู้อำนวยการกองการศึกษาฯ เป็นประธานกรรมการ
2. นางพันธ์ทิพย์ งะหลี ตำแหน่งครู คศ.1 เป็นกรรมการ
3. นายซาฟีอี สลีมีน ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าพนักงานธุรการ เป็นกรรมการ
โดยเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งดังกล่าวไม่ได้กำหนดไว้ในบัญชีมาตรฐานครุภัณฑ์ คณะกรรมการฯ จึงได้ร่วมกันสืบหาราคาจากทางอินเตอร์เน็ตและจากแคตตาล็อกที่ทางร้านค้าได้เคยส่งมา ที่เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง โดยที่ยังไม่ทันได้ข้อสรุปเกี่ยวกับคุณลักษณะเฉพาะและราคากลาง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ก็ได้เข้ามาพูดคุยกับนางซาร่าฯ ประธานกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลาง และเร่งรัดให้จัดประชุมคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางโดยเร็ว พร้อมทั้งส่งมอบเอกสารเสนอราคาเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งจำนวน 3 ร้าน ได้แก่ ร้าน น ร้าน วี และร้าน อ เพื่อให้คณะกรรมการฯ กำหนดราคากลาง และคุณลักษณะเฉพาะตามเอกสารที่นายมะหมัดนีซัมฯ มอบให้จนได้คุณลักษณะเฉพาะและราคากลางของเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง 10 รายการ ดังนี้
1. อุปกรณ์บริหารข้อเข่า (แบบจักรยานปั่น) ขนาด 100x100x80 เซนติเมตร 1 ชุด ราคา 52,000 บาท
2. อุปกรณ์บริหารสะโพก – หัวไหล่ (แบบโยก – เดินสลับเท้า) ขนาด 100x100x160 เซนติเมตร 1 ชุด ราคา 51,000 บาท
3. อุปกรณ์บริหารข้อเข่า – ขา (แบบจักรยานล้อเหล็กนั่งพิง) ขนาด 100x100x80 เซนติเมตร 1 ชุด ราคา 52,000 บาท
4. อุปกรณ์บริหารข้อแขน - เข่า – ลดหน้าท้อง (แบบถีบ – ดึงตัว – ยกตัว) ขนาด 100x100x120 เซนติเมตร 1 ชุด ราคา 51,500 บาท
5. อุปกรณ์บริหารข้อสะโพก (แบบบิดเอวเดี่ยว) ขนาด 100x100x90 เซนติเมตร 1 ชุด ราคา 51,000 บาท
6. อุปกรณ์แก้ปวดเข่า (แบบขาคู่) ขนาด 100x100x80 เซนติเมตร 1 ชุด ราคา 49,500 บาท
7. อุปกรณ์บริหารขา – สะโพก – หัวไหล่ (แบบโยก – วิ่งสลับเท้า) ขนาด 100x100x160 เซนติเมตร 1 ชุด ราคา 48,000 บาท
8. อุปกรณ์บริหารแขน – หน้าอก – หัวไหล่ (แบบยกน้ำหนักตัว) ขนาด 100x100x160 เซนติเมตร 1 ชุด ราคา 49,000 บาท
9. อุปกรณ์บริหารแขน – ขา (แบบโยกปั่น) ขนาด 100x100x100 เซนติเมตร 1 ชุด ราคา 48,000 บาท
10. อุปกรณ์บิดลำตัววงล้อเดียว ขนาด 100x100x160 เซนติเมตร 1 ชุด ราคา 46,500 บาท
รวมเป็นเงิน 498,500 บาท
คณะกรรมการฯ ได้กำหนดคุณลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมจากเอกสารแคตตาล็อกที่คณะกรรมการได้จัดหาเอง เกี่ยวกับชิ้นส่วนเหล็กดังนี้
1. ชิ้นส่วนเหล็กทั้งหมดชุบเคลือบกันสนิม
2. สีใช้เป็น Epoxy Non – Toxic
3. มีส่วนผสมของ UV Resistance เพื่อป้องกันสีซีดจาง
คุณสมบัติของชิ้นส่วนพลาสติกดังนี้
1. ชิ้นส่วนพลาสติกที่ใช้เป็นพลาสติกชนิดโพลีเอทซิลีน (PE)
2. ทุกชิ้นส่วนมีส่วนผสมของ UV Inhibitor เพื่อป้องกันสีซีดจาง
3. สีใช้เป็น Non – Toxic Food grade
4. มือจับและชิ้นส่วนอื่นๆ (ถ้ามี) ทำจากท่อกัลป์วาไนซ์กลม 3.2 , 3.8 , 4.5 เซนติเมตร
5. มีเอกสารรายงานผลการทดสอบโลหะหนักในสีเคลือบชิ้นส่วนโลหะและพลาสติกตามมาตรฐาน มอก.
คณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางจำเป็นต้องทำเนื่องจากเป็นคำสั่งของ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ผู้บังคับบัญชา ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้จัดทำบันทึกข้อความโต้แย้งการกระทำดังกล่าวเป็นบันทึกข้อความกองการศึกษา ที่ สต 52505/164 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 โดยเสนอว่าควรจัดหาร้านค้าที่จำหน่าย เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งโดยตรงเพื่อมากำหนดราคากลาง หากยังให้ดำเนินการตามเอกสารร้านค้าที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นำมาให้ก็ให้สั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ยืนยันให้กำหนดราคากลางตามเอกสารของร้านค้าจำนวน 3 ร้าน ที่ได้ให้มา และได้ลงนามในบันทึกโต้แย้งดังกล่าวด้วย โดยนางซาร่าฯ ประธานกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางได้ให้ข้อเท็จจริงว่าในการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางครั้งนี้ ตนมีความหนักใจมาก เนื่องจากถูกกดดันจากผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือนโยบายก็จะถูกกลั่นแกล้ง โดยตนถูกย้ายห้องทำงานทุกปี และผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้ปิดป้ายห้ามผู้อำนวยการกองการศึกษาฯ และนักพัฒนาชุมชน เข้าห้องทำงานของนายกเทศมนตรีฯ นอกจากนี้นางซาร่าฯ เป็นคนนอกพื้นที่ตำบลเจ๊ะบิลัง จึงเกิดความเกรงกลัวในการปฏิบัติงาน
ต่อมาเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลังก็ได้จัดซื้อเครื่องออกกำลังกายดังกล่าวโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เนื่องจากเป็นการจัดซื้อพัสดุที่มีการผลิต จำหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการทั่วไป และมีวงเงินในการจัดซื้อไม่เกินวงเงินที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง วงเงินการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ทำข้อตกลงเป็นหนังสือ และวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างในการแต่งตั้งผู้ตรวจรับพัสดุ พ.ศ. 2560 ข้อ 1 คือ 500,000 บาท ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ข) และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
นางสาวเรณู เพชรแก้ว ตำแหน่งผู้อำนวยการกองคลังรักษาราชการแทนปลัดเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง และได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ ได้ดำเนินการเสนอเอกสารเกี่ยวกับการจัดซื้อไปจนถึงขั้นตอน การเบิกจ่ายที่นางดารุณี ด้วงรอด ผู้ช่วย เจ้าพนักงานพัสดุ และนางวัสรี ดิษฐาพร ผู้ช่วยเจ้าพนักงานธุรการ จัดทำขึ้น เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ลงนามอนุมัติ โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้เรียกนางสาวเรณูฯ เข้าไปพบที่ห้องทำงาน และได้ยื่นเอกสารเสนอราคาเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งจำนวน 3 ร้าน ได้แก่ร้าน น ร้าน วี และร้าน และได้แจ้งว่าให้จัดซื้อจากร้าน น จากนั้นนางสาวเรณูฯจึงได้นำเอกสารทั้งหมดไปให้นางวัสรีฯ ผู้ช่วยเจ้าพนักงานธุรการ ดำเนินการจัดซื้อจากร้าน น ในราคา 498,000 บาท ตามที่ระบุไว้ในเอกสาร โดยนางสาวเรณูฯ และนางดารุณีฯ เห็นว่าการติดต่อจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายดังกล่าวไม่ถูกต้องตามวิธีการ จึงได้จัดทำบันทึกข้อความ กองคลัง (งานพัสดุและทะเบียนทรัพย์สิน) ที่ สต 52502/472 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 เรื่องจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแจ้งไปยังผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เพื่อให้ลงนามรับรองว่า งานพัสดุและทะเบียนทรัพย์สิน มิได้เป็นผู้ติดต่อประสานงานในการเสนอราคาจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งในครั้งนี้ แต่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ไม่ยอมลงนาม นางสาวเรณูฯ จึงได้ให้นางสาวปิยดาฯ นางสาวขอดียะฯ และนางวัสรีฯ ซึ่งทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ลงนามเป็นพยานให้นางสาวเรณูฯ และนางดารุณีฯ
ต่อมาในชั้นตรวจสอบเบื้องต้นพนักงานเจ้าหน้าที่ได้เชิญนางสาว อ เจ้าของร้าน น ผู้ขายเครื่องออกกำลังกายดังกล่าวมาให้ถ้อยคำ แต่ปรากฏว่าได้มีนางสาว ก ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มาพบพนักงานเจ้าหน้าที่แทน โดยนางสาว ก ให้ข้อมูลว่าเนื่องจากนางสาว อ ที่เจ้าหน้าที่ได้มีหนังสือเชิญมาให้ถ้อยคำ ไม่สามารถที่จะเดินทางมาได้เพราะมีความจำเป็นต้องดูแลมารดาซึ่งป่วยอยู่ที่จังหวัดน่าน ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ซึ่งทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวมาให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่แทน โดยนางสาว อ ผู้รับจ้างตามโครงการเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และร้าน น เป็นร้านของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 แต่ใช้ชื่อนางสาว อ แทน เนื่องจากในช่วงปี 2556 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ประสบปัญหาทางด้านภาษี และได้ให้นางสาว อ ช่วยงานในร้านดังกล่าวด้วย โดยร้านจดทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี 2556 แต่ได้เริ่มประกอบกิจการในปี 2561 ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 จะเป็นบุคคลหลักในการดำเนินกิจการดังกล่าว ประกอบกิจการเกี่ยวกับขายวัสดุสำนักงาน เครื่องเขียน สื่อการเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา
ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นผู้เข้าไปติดต่อผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ว่ามีโครงการที่จะจัดซื้อจัดจ้างใดบ้าง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีความสนใจที่จะเป็นคู่ค้ากับเทศบาลตำบล เจ๊ะบิลัง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้แจ้งว่าเทศบาลมีแผนที่จะจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เห็นว่าร้าน น ก็ประกอบกิจการเกี่ยวกับการจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาและสามารถที่จะจัดหาเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งดังกล่าวได้ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 จึงได้ให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 จัดทำใบเสนอราคา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 จึงได้จัดทำเอกสารเสนอราคานำไปให้กับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ที่ห้องทำงานที่เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง หลังจากนั้นในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้ให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ลงนามในใบสั่งซื้อเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง เลขที่ 40/2562 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 แทนนางสาว อ เนื่องจากขณะนั้นนางสาว อ ติดภารกิจ โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้ขายเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งดังกล่าวให้เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลังเป็นที่แรก หลังจากนั้นก็ไม่ได้ขายให้กับผู้ใดอีกเลย แต่ก็ยังมีการเสนอขายให้กับบุคคลหรือส่วนราชการต่าง ๆ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้ให้ข้อมูลว่าเหตุที่เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งดังกล่าว มีราคาสูงถึง 498,000 บาท เฉลี่ยตัวละประมาณ 50,000 บาท นั้น เนื่องจากร้าน น ได้ขายเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งดังกล่าวเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นสินค้าที่จะต้องสั่งทำจากโรงงานที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีต้นทุนค่าขนส่ง นอกจากนี้ทางร้านยังได้ทำฐานคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อวางเครื่องออกกำลังกายเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในใบสั่งซื้อด้วย
ต่อมาภายหลังจากที่เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลังชำระค่าสินค้า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และนางสาว ร เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีของทางร้านฯ มารับเช็คที่เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง จากนั้นได้นำเช็คเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ของนางสาว อ โดยในการทำสัญญาซื้อขายเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งให้กับเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง นางสาว ก ได้รับเงินค่าสินค้าครบถ้วน แต่หลังจากที่ได้นำเช็คเข้าบัญชีแล้ว ก็ได้เบิกถอนเงินสดประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท ใส่ซองและให้นางสาว ร ไปมอบให้กับนายมะหมัดนีซัมฯ โดยแท้จริงแล้วจะต้องมอบให้ร้อยละ 10 คือ 50,000 บาท แต่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้หักค่าชุดกีฬาที่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ค้างชำระกับทางร้านเป็นเงินจำนวน 20,000 กว่าบาท
แต่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในภายหลังว่าตนไม่ได้เป็นเจ้าของและตัวแทน ร้าน น และไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับทางร้าน และในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งของเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลังนั้น ตนไม่มีอำนาจใด ๆ ที่จะบงการหรือสั่งการนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบของทางราชการและตนไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ ในโครงการดังกล่าว ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าได้นำเงินใส่ซองจำนวน 20,000 บาท มอบให้กับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นั้น ขอชี้แจงว่าตนได้ทำธุรกิจส่วนตัวกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 โดยได้สั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย เช่น ปลากระป๋อง น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและสินค้าอื่น ๆ จำนวนมาก ผ่านทางผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ซึ่งได้นำเข้าสินค้ามาขายอยู่ก่อนแล้ว โดยในวันเกิดเหตุ ตนฝากเพื่อนนำเงินไปมอบค่าสินค้าดังกล่าวให้กับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ซึ่งเป็นปกติวิสัยของตน โดยไม่มีส่วนทุจริตหรือให้สินบนต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งข้อเท็จจริงที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหานั้นขัดกันกับที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้เคยให้ถ้อยคำไว้ในชั้นตรวจสอบเบื้องต้น และจากถ้อยคำของนางสาว ร พนักงานในร้านของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้ให้ข้อเท็จจริงว่ารับมอบหมายจากผู้ถูกกล่าวหา ที่ 2 ให้ควบคุมช่างและอุปกรณ์ไปก่อสร้างฐานวางเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง ที่เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง และเมื่องานติดตั้งเครื่องออกกำลังกายแล้วเสร็จ จนทางร้านได้รับเงินค่าสินค้าแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้มอบหมายนางสาวเรวดีฯ อีกครั้งให้ไปตรวจดูความเรียบร้อยของงานและนำซองสีขาว ซึ่งนางสาว ร เข้าใจว่าเป็นเงินไปมอบให้กับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และกำชับว่าให้กับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 โดยตรง ห้ามให้ผู้อื่น หากไม่พบก็ให้นำกลับมา จากนั้นนางสาว ร ได้เข้าไปหาผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ในห้องทำงานของนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง และได้มอบซองดังกล่าวให้กับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 รับซองไว้ และตอบเพียงว่า “ครับ” จากข้อเท็จจริงที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เข้าไปติดต่อของานจากผู้ถูกกล่าวหา ที่ 1 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้นำเอกสารการเสนอราคาไปมอบให้กับคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางและเจ้าหน้าที่พัสดุ ข้อเท็จจริงจึงเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว ส่วนการที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ชี้แจงว่าได้ทำธุรกิจส่วนตัวกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 โดยได้สั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งนำเข้าจากประเทศมาเลเซียและฝากเงินให้เพื่อนนำไปชำระค่าสินค้านั้น เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีพยาน หลักฐานใด ๆ และขัดกันกับถ้อยคำที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้ให้ไว้ในชั้นตรวจสอบเบื้องต้น การชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 จึงฟังไม่ขึ้น
@ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 85/2565 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า การกระทำของนายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็น เจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการ อย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 151 และมาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมาตรา 173 และมีมูลความผิด ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73
การกระทำของนางสาว ก ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานของรัฐ เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานของรัฐ เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 176
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับนายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด และนางสาว ก เจ้าของและตัวแทนร้าน น และส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป ให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนนายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด พิจารณาโทษตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติ โดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอีก หากผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนหรือผู้ใดไม่ดำเนินการตามมาตรา 98 โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถือว่าผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อกฎหมายหรือกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ประกอบกับเพื่อให้สอดคล้องกับหนังสือ กรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่น ที่ มท 0804.3/ว 711 ลงวันที่ 7 เมษายน 2564 และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบด้วย
@ คำพิพากษาของศาล
กรณีนี้นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ไม่ได้มารายงานตัวตามกำหนดนัด และได้หลบหนีในระหว่างยื่นฟ้อง จึงได้ออกหมายจับ และต่อมาได้จับกุมนายมะหมัดนีซัมฯ ได้ จึงได้มีการแยกยื่นฟ้องคดีกับนางสาว ก ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นอีกคดีหนึ่ง
คำพิพากษาคดีนายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ดังนี้
จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 151 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 , 173 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีระวางโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 5 ปี
คำพิพากษาคดีนางสาว ก เจ้าของและตัวแทนร้าน น ดังนี้
จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 176 วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิด ต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 100,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 8 เดือน และปรับ 50,000 บาท พฤติการณ์แห่งคดีและสภาพความผิดตามฟ้องเป็นเรื่องพอแก้ไขได้ จำเลยรู้สึกถึงความผิดแล้ว และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยรับโทษจำคุกมาก่อน เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดีได้ดูแลครอบครัวและทำประโยชน์ให้แก่สังคมต่อไป โทษจำคุกให้รอการลงโทษ ไว้ 2 ปี และคุมความประพฤติของจำเลยไว้ 1 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ตามเงื่อนไข และระยะเวลาที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
สำหรับคดีความของนายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสตูลได้เผยแพร่เอกสารข่าวแจกกรณี ป.ป.ช.สตูลได้มีมติชี้มูล นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด อดีตนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และนายอับดลล๊ะ บิลังโหลด อดีตประธานสภาเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เนื่องจากทั้งสองคนมีความผิดในคดีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการเพื่อเข้าร่วมประชุมวิชาการสมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2559 และปี พ.ศ. 2561 แต่ว่าไม่ได้ไปร่วมประชุมจริง
โดยในการประชุมครั้งที่ 83/2567 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นในกรณีกล่าวหาว่า การกระทำของนายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และการกระทำของนายอับดลล๊ะ บิลังโหลด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็น เจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ หรือรับรองเป็นหลักฐาน ซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172) และมีมูลความผิดฐานละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาลหรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัย ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยกับนายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด และ นายอับดลล๊ะ บิลังโหลด ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งทราบ
ทั้งนี้ ให้แจ้งเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสอง
สรุปแล้ว นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไปแล้ว 3 คดี
มี 2 คดี ศาลฯ มีคำพิพากษาตัดสินโทษไปแล้ว
(1.) คดีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินเป็นเท็จ ถูกลงโทษจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ได้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
(2.) คดีทุจริตเรียกรับเงินในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งพร้อมติดตั้งให้กับชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 10 รายการ ถูกลงโทษจำคุก 5 ปี
ส่วนอีก 1 คดี คือ คดีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการเพื่อเข้าร่วมประชุมวิชาการสมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2559 และปี พ.ศ. 2561 แต่ว่าไม่ได้ไปร่วมประชุมจริง เพิ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดส่งเรื่องอัยการฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ผลการต่อสู้คดีในชั้นศาลฯ จะออกมาเป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป