“…หลังจากนี้ ถ้าคณะกรรมการฯวินัยร้ายแรงมีความเห็นตรงกับชุดแรก ผมต้องสั่งพักงาน และถ้าคณะกรรมการวินัยร้ายแรงมีความเห็นเป็นเช่นไร ก็ว่าตามนั้น คาดว่าการสอบสวนไม่น่าจะนาน ผมให้เวลาไว้ 30 วัน หลังจากตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ…”
...........................................
สืบเนื่องจากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดย กริชศักดิ์ ดิลกพรหิรัณย์ ผอ.สำนักไต่สวนทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ 2 ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทำหนังสือสำนักงาน ป.ป.ช.ด่วนที่สุด ที่ ปช 0024/1812 ลงวันที่ 9 ก.ย.2567 ถึง กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.)
โดยหนังสือสำนักงาน ป.ป.ช.ฉบับนี้ ได้ขอให้ ทอท.ชี้แจงข้อเท็จจริงและจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับงานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พร้อมติดตั้ง ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต มูลค่าสัญญาจ้าง 11.78 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ไปให้สำนักงาน ป.ป.ช.
หลังจาก สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาว่ามี พนักงานของ ทอท. ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการจ้างงานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติฯ ใน 2 ข้อกล่าวหา คือ 1.ใช้วิธีการจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงโดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์บริษัทเอกชน และ 2.กำหนดราคากลางสูงกว่าราคาตลาดโดยทุจริต
ในขณะที่ก่อนหน้านี้ ทอท. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีงานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติฯ ตามคำสั่ง ทอท.ที่ 1866/2567 และการรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงตามหนังสือ ฝสร.ที่ 145/2567 ลงวันที่ ส.ค.2567 ผลปรากฏว่า มีผู้กระทำความผิดโดยมีมูลความผิดใน 3 ประเด็นหลัก
ได้แก่ (1) การตั้งราคากลางที่สูงเกินความเป็นจริง (2) การจัดจ้างโดยใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และ (3) มีการอนุญาตให้คู่สัญญาเข้าดำเนินการติดตั้งสติกเกอร์ก่อนวันลงนามในสัญญา
ทั้งนี้ ทอท. ได้ดำเนินการชี้มูลความผิดพนักงานระดับบริหาร 4 ราย ที่เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงใน 3 ประเด็นดังกล่าว และตั้งคณะกรรมการลงโทษทางวินัยต่อผู้กระทำผิดและดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบ ทอท. ต่อไป นั้น (อ่านประกอบ : ชี้มูลความผิด 4 พนง.ไม่จบ! ป.ป.ช.สอบต่อ'ทอท.'จ้างพิมพ์'สติกเกอร์เฉลิมพระเกียรติฯ' 11 ล.)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงขอนำเสนอที่มาที่ไปของงานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พร้อมติดตั้ง ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างงานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติฯ ดังนี้
@‘ผอ.ฝ่ายสนามบินภูเก็ต’ขอ‘กญอ.’โอนงบฯจ้างพิมพ์สติ๊กเกอร์ฯ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2567 พีระ อากาศไชย ผู้อำนวยการฝ่ายท่าอากาศยาน ท่าอากาศยานภูเก็ต (ผอ.ฝทอ.ทภก.) ได้ทำหนังสือที่ 4638/67 ถึง ทอท. สำนักงานใหญ่ เรื่อง ขอให้พิจารณางานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูพร้อมติดตั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ณ ท่าอากาศยานภูเก็ตและขอโอนงบประมาณ โดยเนื้อหาสรุปได้ว่า
ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบฯ ของกระทรวงคมาคม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ให้หน่วยงานในสังกัดฯดำเนินการโครงการและกิจกรรมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและสมพระเกียรติ
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวมาใช้บริการหลายล้านคนต่อปี โดยอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ มีลักษณะเป็นกระจกผืนใหญ่และยาว อีกทั้งที่ตั้งของอาคารหันหน้าไปด้านที่อากาศยาน Taxi เข้าหลุมจอด และ Taxi เพื่อออกจากท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นจุดเด่นในระยะสายตาของผู้โดยสาร
ดังนั้น เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ รวมถึงแสดงให้เห็นว่าไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทย จึงเห็นควรจ้างพิมพ์สติกเกอร์ชีทรู พร้อมติดตั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 บริเวณกระกระจกด้านนอกของอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เป็นเงิน 11.028 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
อย่างไรก็ดี เนื่องจาก ฝทอ.ทภก. ไม่ได้ตั้งงบประมาณรองรับสำหรับการจ้างพิมพ์สติกเกอร์ชีทรูพร้อมติดตั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์ฯไว้ จึงเห็นควรโอนเงินถัวจ่ายจาก บัญชีค่าจ้างภายนอก-ดูแลไม้ประดับและสนามหญ้า รายการค่าจ้างแรงงานภายนอกตกแต่ง ดูแลรักษาต้นไม้ และสวนหย่อมของ ทภก. มาดำเนินการ เป็นเงิน 11.029 ล้านบาท
ในขณะที่โอนเงินถัวจ่ายฯดังกล่าว จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตาม ‘หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขอใช้เงินโอนถัวจ่ายงบประมาณทำการ’ ลงวันที่ 28 ก.พ.2567 ฝทอ.ทภก. จึงเสนอเรื่องผ่านหัวหน้าสายงานที่กำกับดูแลและส่วนงานเจ้าของงบประมาณ เพื่อเสนอให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (กญอ.) ทอท. พิจารณาอนุมัติต่อไป
ต่อมา 10 ก.ค.2567 ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายงบประมาณ (ผอก.ฝงบ.) ทำหนังสือเรียนไปถึง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ขออนุมัติโอนเงินถัวจ่ายสำหรับงานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูพร้อมติดตั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10 ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต และในวันที่ 12 ก.ค.2567 กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ได้ อนุมัติการโอนงบฯ ตามที่เสนอ
@สืบราคา 3 เจ้า-‘ภูเขา แอดเวอร์ไทซิ่ง’ทำใบเสนอราคาต่ำสุด
นอกจากนี้ จากหนังสือที่ 4638/67 ของ ฝทอ.ทภก. ที่ส่งไปยัง ทอท.สำนักงานใหญ่ นั้น ฝทอ.ทภก. ยังแจ้งด้วยว่า ได้สืบราคางานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูพร้อมติดตั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10 ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต จาก 3 บริษัท แล้ว มีบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุด รวมเป็นเงิน 11.028 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีรายละเอียด ดังนี้
บริษัทที่ 1 บริษัท ภูเขา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่) ทำใบเสนอราคา 11,800,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
โดยใบเสนอราคาของบริษัท ภูเขา แอดเวอร์ไทซิ่งฯ ระบุว่า “ค่าผลิตสติกเกอร์ซีทรู ชุด ภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ติดกระจกอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขนาด : 216x13.95 เมตร (3,013.20 ตารางเมตร) วัสดุ : สติกเกอร์ซีทรู Clear Vision Double Liner CV-W-30L-XXX-50M พิมพ์ 4 สี 1 ด้าน
พิมพ์ : จากเครื่องพิมพ์ Signtech (ALLWIN) รุ่น K3208 1024A UV PRO LED ,ความละเอียดในการพิมพ์ : 2,160 dpi ,ประเภทหมึกพิมพ์ : หมึก UV อายุการใช้งาน 1-3 ปี ,ระยะเวลาในการออกแบบต้นฉบับงาน/งานผลิตสติกเกอร์ซีทรู/ดำเนินงานติดตั้งใช้เวลา 30 วัน ราคา 11,800,000 บาท”
บริษัทที่ 2 บริษัท สต็อป อิมเมจ จำกัด ทำใบเสนอราคา 13,500,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
โดยใบเสนอราคาของ บริษัท สต็อป อิมเมจ จำกัด ระบุว่า “ค่าผลิตสติกเกอร์ซีทรู ชุด ภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ขนาด : 216x13.95 เมตร , วัสดุ : สติ๊กเกอร์ซีทรู Clear Vision Double Liner CV-W-30L-XXX-50M พิมพ์ 4 สี 1 ด้าน
พิมพ์ : จากเครื่องพิมพ์ Signtech (ALLWIN) รุ่น K3208 1024A UV PRO LED , หมึก UV อายุการใช้งาน 1-3 ปี ,ความละเอียดการพิมพ์ : 2,160 dpi ,ระยะเวลาในการออกแบบและผลิตสติกเกอซีทรูและดำเนินงานติดตั้งใช้เวลา 90 วัน ปริมาณ 3,013 หน่วยละ 4,481 บาท จำนวนเงิน 13,500,000 บาท”
บริษัทที่ 3 บริษัท เบทเทอร์ ปริ้นท์ จำกัด ทำใบเสนอราคา 12,700,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
โดยใบเสนอราคาของ บริษัท เบทเทอร์ ปริ้นท์ จำกัด ระบุว่า “ค่าผลิตสติกเกอร์ซีทรู ชุด ภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ติดกระจกอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขนาด : 216x13.95 เมตร , วัสดุ : สติกเกอร์ซีทรู Clear Vision Double Liner CV-W-30L-XXX-50M พิมพ์ 4 สี 1 ด้าน
พิมพ์ : จากเครื่องพิมพ์ Signtech (ALLWIN) รุ่น K3208 1024A UV PRO LED , ความละเอียดการพิมพ์ : 2,160 dpi ,หมึก UV อายุการใช้งาน 1-3 ปี , ระยะเวลาในการออกแบบต้นฉบับงาน/งานผลิตสติกเกอร์ซีทรู/ดำเนินงานติดตั้งใช้เวลา 90 วัน ราคา 12,700,000 บาท”
@‘ภูเขา แอดเวอร์ไทซิ่ง’ชนะประมูล-พบติดตั้งงาน‘ล่วงหน้า’
ต่อมาในวันที่ 15 ก.ค.2567 พีระ อากาศไชย ผอ.ฝ่ายอำนวยการ ทภก. ปฏิบัติงานแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ลงนามในประกาศฯ เรื่อง เผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้าง ปีงบฯ 2567 งานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบฯ ณ ทภก. งบประมาณ 11.80 ล้านบาท
จากนั้นได้มีการออกหนังสือเชิญชวนสำหรับงานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบฯ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยวิธีเฉพาะเจาะจง และในวันที่ 19 ก.ค.2567 ทอท.ประกาศให้ บริษัท ภูเขา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่) เป็นผู้ชนะการเสนอราคา
“งานจ้างพิมพ์สติ๊กเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉริมพระขนมพรรษา 6 รอบ พร้อมติดตั้ง ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต จำนวน 1 งาน ผู้ได้รับการคัดเลือก ได้แก่ บริษัท ภูเขา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่) (ส่งออก,ขายส่ง,ขายปลีก,ให้บริการ,ผู้ผลิต)
โดยเสนอราคาเป็นเงินทั้งสิ้น 11,778,600 บาท (สิบเอ็ดล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นแปดพันหกร้อยบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งปวง” ประกาศ ทอท. เรื่อง ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา งานจ้างพิมพ์สติ๊กเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉริมพระขนมพรรษา 6 รอบ พร้อมติดตั้ง ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ประกาศ ณ วันที่ 19 ก.ค.2567 ระบุ
ทั้งนี้ ในการจัดทำราคากลาง (ราคาอ้างอิง) ในโครงการจัดจ้างงานจ้างพิมพ์สติ๊กเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉริมพระขนมพรรษา 6 รอบฯ ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ของ ทภก. ได้ใช้แหล่งที่มาของราคากลางจาก บริษัท ภูเขา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)
อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมามีการร้องเรียนว่า ก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลงานจ้างพิมพ์สติ๊กเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันที่ 19 ก.ค.2567 นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงและมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายว่า มีการเข้าไปติดตั้งแผ่นสติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันที่ 17 ก.ค.2567 ช่วงเวลา 20.30 น. ถึงเวลา 06.30 น. ของวันที่ 18 ก.ค.2567 ซึ่งเป็นข่วงเวลาก่อนจะมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล
ต่อมา ‘เจ้าหน้าที่ควบคุมงาน’ ภายใต้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุและผู้ควบคุมงานจ้างพิมพ์สติ๊กเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ดำเนินการเข้าพื้นที่เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2567 และตรวจพบว่า “สติกเกอร์ได้มีการติดตั้งล่วงหน้าก่อนไปแล้วตั้งแต่บริเวณกระจกด้าน AIRSIDE GATE 11 ถึงประมาณ GATE 14 คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 70% ของพื้นที่ที่จะติดตั้งทั้งหมด”
นอกจากนี้ ยังปรากฎข้อเท็จจริงด้วยว่า บริษัท เบทเทอร์ ปริ้นท์ จำกัด ซึ่งเป็น 1 ใน 3 บริษัทฯ ที่ทำใบเสนอราคางานจ้างพิมพ์สติ๊กเกอร์ซีทรูพร้อมติดตั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10 ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ให้กับ ฝทอ.ทภก. นั้น มีความสัมพันธ์ในฐานะคู่ค้ากับ บริษัท ภูเขา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด
โดยปรากฏเป็นหลักฐานเป็นใบส่งของชั่วคราวของ บริษัท เบทเทอร์ ปริ้นท์ จำกัด ลงวันที่ 15 ก.ค.2567 ที่ไปถึง บริษัท ภูเขา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด ระบุรายการสินค้า 2 รวมเป็นเงิน 4,684,460 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ได้แก่
1.สติ๊กเกอร์ซีทรู Clear Vision DoubleLiner รุ่น CV-W-30L-XXX-50M สำหรับหมึกพิมพ์ UV ความละเอียดที่ 2,160 dpi ขนาด 1.27x50 M จำนวนที่สั่ง 3,300 ตารางเมตร จำนวนเงิน 2,178,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
2.C58CV AW/L-M หมึกยูวีพิมพ์งานยี่ห้อ Signtech รุ่น Konica 1 ลิตร หมึกพิมพ์ 4 สี (C M Y K) จำนวน 1,000 ลิตร ราคา 2,250,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
@ชี้มูลความผิด 4 เจ้าหน้าที่-ตั้งคณะกรรมการลงโทษทางวินัยฯ
กระทั่งต่อมาวันที่ 16 ส.ค.2567 บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ได้เผยแพร่เอกสารข่าวว่า นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย กล่าวว่า “ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีงานจัดจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรู (See Through Sticker) เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 ก.ค.2567 พร้อมติดตั้ง ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยวิธีเฉพาะเจาะจง มีความไม่โปร่งใส และไม่ถูกต้องตามขั้นตอน นั้น
AOT มิได้นิ่งนอนใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรที่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และด้านการดำเนินงานด้วยความโปร่งใส โดย AOT ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่งคำสั่ง ทอท.ที่ 1866/2567 ลงวันที่ 6 ส.ค.2567 ซึ่งมีการรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงตามหนังสือ ฝสร.ที่ 145/2567 ลงวันที่ 16 ส.ค.2567
ผลปรากฏว่า มีผู้กระทำความผิดโดยมีมูลความผิดใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) การตั้งราคากลางที่สูงเกินความเป็นจริง (2) การจัดจ้างโดยใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และ (3) มีการอนุญาตให้คู่สัญญาเข้าดำเนินการติดตั้งสติกเกอร์ก่อนวันลงนามในสัญญา
ดังนั้น AOT จึงได้ดำเนินการชี้มูลความผิดพนักงานระดับบริหารจำนวน 4 คน ที่เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงใน 3 ประเด็นดังกล่าว ซึ่ง AOT จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการลงโทษทางวินัยต่อผู้กระทำผิดและดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบ ทอท.ว่าด้วยการบรรจุ การแต่งตั้ง การพ้นสภาพวินัย การดำเนินการทางวินัย การลงโทษ และการอุทธรณ์ของพนักงาน พ.ศ.2554 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป”
รายงานข่าวแจ้งว่า จากคำสั่ง บมจ.ท่าอากาศยานไทย ที่ 1996/2567 เรื่อง ให้พนักงานปฏิบัติหน้าที่ ลงวันที่ 19 ส.ค.2567 ลงนามโดย กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย นั้น คำสั่งดังกล่าวได้สั่งให้พนักงาน ทอท. 4 ราย ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม และปฏิบัติหน้าที่ตามที่ กอญ. มอบหมาย ได้แก่
1.ให้ นายจีรัฐติกุล เอี่ยมหิรัญ ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (สายปฏิบัติการและบำรุงรักษา) ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ ทอท. โดยชาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ กอญ. จะมอบหมาย
2.ให้ นายพีระ อากาศไชย ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายท่าอากาศยานภูเก็ต สายสนับสนุนธุรกิจท่าอากาศยานภูเก็ต ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ ทอท. โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ กอญ. จะมอบหมาย
3.ให้ นายภาคิน ศิริจันทร์ ตำแหน่ง ฝ่ายการท่าอากาศยาน (สายปฏิบัติการและบำรุงรักษา) ท่าอากาศยานภูเก็ต ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ ทอท. โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ กอญ. จะมอบหมาย
4.ให้ นายวิวัฒนา เอี่ยมจ้อย ตำแหน่ง ผู้อำนวยการส่วนพัสดุ ฝ่ายท่าอากาศยานภูเก็ต สายสนับสนุนธุรกิจท่าอากาศยานภูเก็ต ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ ทอท. โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ กอญ. จะมอบหมาย
5. ให้ นายมนต์ชัย ตะโหนด ตำแหน่ง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต โดยใช้อำนาจในตำแหน่งตามข้อ 1-4โดยตรง
(กีรติ กิจมานะวัฒน์)
กิรติ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราเพิ่มเติมว่า จากที่มีการร้องเรียน ตนได้ตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการตรวจสอบของคณะกรรมการฯมีผลออกมาว่า มีความเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ 4 ราย ที่ดูแล้วเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
“หลังจากผลการตรวจสอบของคณะกรรมการฯออกมาแล้ว ตามกระบวนการ ผมจะต้องไปตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษวินัยร้ายแรง ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว และเพื่อให้การดำเนินการถูกต้องและโปร่งใส ผมได้มีข้อเสนอไปยังคณะกรรมการ ทอท. ว่า ตั้งแต่ตอนที่คณะกรรมการตรวจสอบฯมีความเห็นออกมา ผมก็ให้ 4 คนนี้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากผมไม่มีอำนาจย้าย
และเมื่อมีการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ในอีก 4 วันถัดมา ผมก็เสนอบอร์ด ทอท. ให้ทั้ง 4 คน ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ โดยคณะกรรมการ ทอท. ก็เห็นตามความเห็นของฝ่ายบริหาร หลังจากนี้ ถ้าคณะกรรมการฯวินัยร้ายแรงมีความเห็นตรงกับชุดแรก ก็ต้องสั่งพักงาน และถ้าคณะกรรมการวินัยร้ายแรงมีความเห็นเป็นเช่นไร ก็ว่าตามนั้น คาดว่าการสอบสวนไม่น่าจะนาน ผมให้เวลาไว้ 30 วัน หลังจากตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ” กิรติ ระบุ
เหล่านี้เป็นที่มาที่ไปของการประมูลงานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พร้อมติดตั้ง ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต มูลค่า 11 ล้านบาทเศษ และต้องติดตามกันต่อไปว่าคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯ จะมีความเห็นออกมาอย่างไร?
อ่านประกอบ :
ชี้มูลความผิด 4 พนง.ไม่จบ! ป.ป.ช.สอบต่อ'ทอท.'จ้างพิมพ์'สติกเกอร์เฉลิมพระเกียรติฯ' 11 ล.